หลังเปลี่ยนแนวไปเน้นแก้ปริศนาแบบเกม RPG ในภาคสองจนคนเล่นปวดหัวไปตามๆกัน ตอนต่อมาของซีรี่ย์แดร็คคิวล่าก็ได้กลับสู่แนวแอคชั่นลุยแหลกแบบดั้งเดิมอีกครั้งตามเสียงเรียกร้องของแฟนๆ
เรื่องราวของเกมจะย้อนไปช่วงกว่า 200 ปีก่อนเหตุการณ์ในสองภาคแรก ให้เรารับบทบรรพบุรุษตระกูลนักล่าแวมไพร์ "ราล์ฟ เบลมอนท์" ออกเดินทางไปกำจัดเคาน์แดร็คคิวล่าตามสูตรเดิม แต่ในคราวนี้จะมีตัวละครหน้าใหม่มาร่วมต่อสู้กับเขาด้วย
วิธีบังคับตัวเอกจะใช้ปุ่มทิศทางซ้ายขวาเดิน ล่างก้ม ปุ่ม A กระโดด ปุ่ม B โจมตีด้วยแส้ และเมื่อกดบนพร้อม B จะเป็นการใช้อาวุธพิเศษที่เก็บได้ตามทางได้แก่ มีด, ขวาน, น้ำมนต์, นาฬิกาหยุดเวลา และไม้กางเขน โดยอาวุธเหล่านี้ต้องใช้พลังงานเป็นไอเทมรูปหัวใจเหมือนภาคแรกสุดทุกประการ
ลูกเล่นใหม่ที่เพิ่มมาในคราวนี้คือระบบคู่หู หลังจากที่ชนะบอสบางตัวได้แล้วจะเจอกับคนที่มาปราบแดร็คคิวล่าเหมือนกันขอร่วมทางไปกับเรา ทำให้สามารถกด Select เปลี่ยนไปใช้อีกตัวละครต่อสู้แทนได้ แต่จะเลือกพาไปได้แค่คนเดียวเท่านั้นและยังต้องใช้แถบพลังชีวิตร่วมกันอีกด้วย
คู่หูคนแรกสุดที่เราจะได้เจอคือ "แกรนท์ ดานาสตี้" ชายหนุ่มท่าทางคล้ายลิง ขว้างมีดเป็นอาวุธ มีความสามารถพิเศษคือไต่กำแพงและเพดานได้ ตามมาด้วย "ไซฟา เบลนาเดส" นักบวชสวมผ้าคลุม โจมตีปกติด้วยการใช้ไม้เท้าฟาด สามารถใช้คาถาไฟ,น้ำแข็งและสายฟ้าซึ่งมีพลังทำลายสูงได้
สำหรับคนสุดท้ายคือ "อาลูคาร์ด" ลูกชายของแดร็คคิวล่าซึ่งไม่เห็นด้วยกับการกระทำพ่อของตนเอง โจมตีปกติเป็นการยิงลูกไฟจากผ้าคลุม และมีความสามารถพิเศษคือกดปุ่มล่างพร้อม A แปลงร่างเป็นค้างคาวบินได้ ซึ่งต้องใช้พลังงานจากหัวใจเช่นเดียวกับอาวุธเสริม
การดำเนินเรื่องในภาคนี้จะแบ่งเป็นด่านๆซึ่งมีฉากหลังต่างกันไป อย่างซากปราสาท, เรือผีสิง, หนองน้ำ, หอนาฬิกา,วิหาร ให้เราลุยยาวเป็นเส้นตรงแบ่งช่วงด้วยประตูหรือบันได และหลังจากจบบางด่านจะมีทางแยกให้เราเลือกเส้นทางไปเจอฉากที่ต่างกันได้
รูปแบบของแต่ละฉากจะเต็มไปด้วยอุปสรรคกับดักสารพัดชนิดที่ออกแบบมาอย่างดี เช่นการวิ่งข้ามฟันเฟืองที่กำลังหมุน, กระโดดข้ามลูกตุ้มแกว่งไปมา หรือสะพานที่ค่อยๆถล่มไล่หลังผู้เล่น ซึ่งนอกจากการฝ่าไปตามปกติแล้วยังสามารถใช้พลังพิเศษของตัวละครคู่หูช่วยให้ผ่านง่ายขึ้นหรือย่นย่อระยะทางได้อีกด้วย
ศัตรูธรรมดาโดยหลักจะมีพวกตัวอึดๆดักอยู่ตามจุดซึ่งรับมือไม่ค่อยยาก อย่างโครงกระดูกที่มีทั้งฟาดแส้ ฟันดาบ หรืออัศวินชุดเกราะขว้างขวาน กับอีกพวกเป็นตัวก่อกวนที่ออกมาเรื่อยๆ อย่างซอมบี้, หัวเมดูซ่าบินเจ้าเก่า หรือมนุษย์ปลาพ่นลูกไฟ ซึ่งถ้าเจอในฉากที่มีกับดักโหดๆผสมด้วย อาจจะเล่นงานเราจนสาหัสหรือตกเหวตายได้เลยทีเดียว
ส่วนของบอสในภาคนี้จะเป็นสารพัดสัตว์ประหลาดที่คุ้นเคยกันดีในซีรี่ย์ อย่างยักษ์ตาเดียว, มัมมี่, ค้างคาวยักษ์, แฟรงเกนสไตน์ หรือยมฑูต ส่วนใหญ่มีรูปแบบการโจมตีไม่ซับซ้อน สามารถหลบหลีกหาจุดปลอดภัยแล้วโต้กลับได้สบาย แต่บางฉากก็มีการเซอร์ไพร์สผู้เล่นโผล่มารุมกันหลายตัวหรือแปลงร่างสองร่างสามแบบโหดขึ้นด้วย
นอกจากนี้ หลังจบรอบแรกแล้วเกมยังมีต่อรอบสองแบบยากกว่าเดิม และฉากจบยังเปลี่ยนไปตามคู่หูที่พามาด้วยกันหรือจะจบแบบลุยเดี่ยวเลยก็ได้ รวมๆแล้วภาคนี้จึงมีอะไรดึงดูดให้กลับมาเล่นซ้ำได้หลายรอบ แถมยังมีระบบพาสเวิร์ดที่ช่วยให้ไม่ต้องเล่นมาราธอนรวดเดียวจบอีก
เรื่องราวในภาคนี้ยังมีการเชื่อมโยงไปถึงซีรี่ย์แดร็คคิวล่าตอนอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาลูคาร์ดที่เปิดตัวครั้งแรก (แต่หน้าแก่กว่าช่วงหลัง) ก่อนไปเป็นตัวเอกในภาค "ซิมโฟนี่ออฟเดอะไนท์" หรือตระกูลผู้ใช้คาถาเบลนาเดสที่มีทายาทไปปรากฏตัวในภาค "เอเรียออฟซอโรว์" บนเครื่อง GBA ด้วย
Akumajou Densetsu /Castlevania III: Dracula's Curse
เครื่อง: แฟมิคอม /NES
ภาษา: ญี่ปุ่น 1989 /อังกฤษ 1990
บริษัท: Konami
แนวเกม: Action
จำนวนผู้เล่น: 1 คน
ภาพปกจาก...
Famicom.biz