xs
xsm
sm
md
lg

"ดีเอสไอ"ถกเข้มไขปัญหาเกม ผุดไอเดียดึงผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ดีเอสไอ"จับมือกระทรวงวัฒนธรรมและบริษัทเกมออนไลน์ จัดประชุม "DSI Thailand Game Summit" ถกเข้มแก้ปัญหาวงการเกม "พ.ต.อ.ญาณพล" ชี้พ่อแม่ต้องร่วมเอาใจใส่ดูแลเด็ก พร้อมยืนยันจะเร่งดำเนินการปราบขบวนการขายแผ่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์ ด้าน ก.วัฒนธรรม เผยแนวคิดดึงผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเกมร่วมตรวจสอบคัดกรอง รับที่ผ่านมาภาครัฐขาดความรู้ความเข้าใจ

วันนี้ (14 ส.ค.) ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ กรุงเทพ ได้มีการจัดประชุมสุดยอดแนวทางแก้ไขปัญหาเกมในประเทศไทยภายใต้ชื่อ "DSI Thailand Game Summit" โดยมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรมและบริษัทเอกชนผู้ให้บริการเกมออนไลน์ร่วมจัดงานดังกล่าว เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประเภทและแนวเกม ตลอดจนการผลักดันให้เกิดแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและสามารถปฎิบัติได้จริง โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่างานในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเกมที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน

สำหรับเนื้อหาของงานประชุมดังกล่าวได้มุ่งเน้นไปที่แนวทางการกำหนดเรตติ้งเกมและการปราบปรามเกมละเมิดลิขสิทธิ์ โดยช่วงต้นของงานได้มีการเปิดวีดีโอภาพการเล่นเกม Grand Theft Auto (GTA) และเกมที่มีเนื้อหารุนแรงหลายเกม เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้มีโอกาศทำความเข้าใจได้มากขึ้น รวมถึงนำเสนอภาพรวมของอุตสาหกรรมธุรกิจเกมในโลกยุคปัจจุบัน ที่ทำรายได้มากมายมหาศาล

หน่วยคัดกรองเกมขาดความเข้าใจ คน-อุปกรณ์ไม่พร้อม


สำหรับกรณีภาครัฐปล่อยให้เกม Grand Theft Auto ผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงวัฒนธรรมนั้น น.ส.อมรรัตน์ เทพกำปนาท ผู้อำนวยการสำนักงานภาพยนต์และวีดีทัศน์ กระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวชี้แจงว่า เป็นเพราะบุคคลากรในหน่วยงานของภาครัฐยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเกม อีกทั้งยังขาดเครื่องมือและอุปกรณ์ โดยตอนที่มีการตรวจสอบเกม GTA นั้น เป็นลักษณะของเดโมตัวอย่าง ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหารุนแรง แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาในตอนนี้ก็อาจจะมีการให้ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับเกมเข้ามาร่วมคัดกรองด้วย

เมื่อถามว่าเหตุใดกระทรวงวัฒนธรรมจึงรับการพิจารณาเกมทั้งๆที่ทราบว่าทำได้ไม่ดีพอ น.ส.อมรรัตน์ชี้แจงว่า มันมาโดยกฎหมาย ตามมติคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่ว่าเราอยากจะรับหรือไม่รับ แต่อะไรก็ตามที่เป็นภาระหน้าที่เพื่อประเทศ มันคงจะไม่มีใครปฏิเสธ เพียงทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทั้งกล่าวต่อไปว่า ทางเราจะโหมกระหน่ำข้อมูลเกมที่ดีๆแล้วประกาศไปสู่พ่อแม่ด้วยช่องทางใดช่องทางหนึ่ง เนื่องจากพ่อแม่คงไม่ไปเปิดเว็บไซต์เกมหรือหนังสือเกม ไม่อยากพูดถึงเกมไม่ดีอย่างเดียว เพราะจะเป็นการกระตุ้นเร้าอยากให้ไปหามาเล่น

ที่ผ่านมาตรวจสอบอายุคนเล่นเกมไม่ได้

ด้านนายเลิศชาย กันภัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ได้แสดงความเห็นท่าทีของภาครัฐต่อธุรกิจเกมว่า ภาครัฐยังคงแสดงท่าทีที่ขัดแย้งและไม่ชัดเจน โดยทำทีเหมือนสนับสนุนธุรกิจเกมแต่ขณะเดียวกันกลับมองว่าเกมเป็นภัยต่อสังคม จึงอยากจะเห็นท่าทีส่งเสริมที่ชัดเจนมากกว่านี้ พร้อมยอมรับว่าเกมออนไลน์บางเกมมีความรุนแรง แต่ยืนยันว่าบริษัทผู้ให้บริการจะมีการคัดกรองมาก่อนแล้ว โดยบริษัทที่มีการให้บริการอย่างถูกกฎหมายจะสามารถตรวจสอบดูแลได้ง่าย

นายเลิศชายชี้ถึงปัญหาการที่ไม่ได้รับฐานข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์เพื่อตรวจสอบอายุผู้เล่นว่า ปัญหานี้เคยมีการแก้มาตั้งแต่ 5 ปีก่อนในช่วงสมัยนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลีเป็น รมต.กระทรวงไอซีที ด้วยการลงทะเบียนยืนยันตัวตนเพื่อเล่นเกมออนไลน์ที่ไปรษณีย์คนละ 30 บาท แต่บริษัทเกมไม่ทราบว่าผู้เล่นมีอายุเท่าไร ภาพที่เกิดขึ้นก็คือ ไปรษณีย์มีรายได้เพิ่มขึ้น และทางบริษัทเกมกลับมีภาระมากขึ้นในการเก็บฐานข้อมูล ถึงกับต้องเช่าโกดังเก็บข้อมูลเลยทีเดียว จนมีอาชีพการให้เช่าบัตรประชาชนตามมา พบมากแถววินมอเตอร์ไซค์รับจ้างย่านรามคำแหง ปัญหานี้ในทางปฏิบัติจึงไม่สามารถควบคุมได้เลย เนื่องจากกระทรวงมหาดไทยตอนนั้นแจ้งมาว่าเป็นความลับของทางราชการ ปัญหาตอนนี้น่าจะอยู่ที่ภาครัฐมากกว่าว่าจะมองปัญหานี้อย่างไร

มาตรการจัดเรต รายได้เกมออนไลน์ไม่กระทบ

นายฐิรวิชญ์ ธนผดุงเกียรติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท ทรู ดิจิตอล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ระบุว่าในสังคมปัจจุบันเกมถือเป็นสื่อฯอีกรูปแบบหนึ่ง และได้รับความนิยมจากกลุ่มเยาวชนมากกว่าสื่อฯรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเมื่อจำนวนผู้บริโภคมีการขยายตัวมากขึ้น ก็จำเป็นที่ภาครัฐจะต้องเข้ามาช่วยดูแลออกมาตรการกำหนดเรตติ้งอย่างชัดเจน รวมถึงการปลูกจิตสำนึกให้กับผู้คนในสังคมอีกด้วย

ผู้ให้บริการเกมตอบถึงกรณีที่เกิดมีการจัดเรตเกมออนไลน์ไปแล้ว ตัวเลขรายได้จะหายไปหรือไม่ นายฐิรวิชญ์ตอบว่า ไม่หาย เนื่องจากคนจ่ายเงินเพื่อเล่นเกมออนไลน์จาก 6 ล้านคนในประเทศ มีไม่เกิน 7-10 % เท่านั้น ซึ่งในจำนวนนั้นมีอายุ18-20 ปีขึ้นไป นอกนั้นเล่นฟรี มูลค่าของตลาดเกมออนไลน์ในไทยปีที่แล้วอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,700 ล้านบาท อย่างเกมสเปเชียล ฟอร์ซ หรือ SF ทำรายได้สูงสุดต่อเดือน 48 ล้านบาทต่อเดือน (ในจำนวนนั้นก็มีเงินของ พ.ต.อ.ญาณพลด้วย เพราะลูกชายท่านเองยังใช้หมายเลขบัตรประชาชนไปใช้) แต่ว่าจะสูงสุดไม่กี่เดือนแล้วก็จะร่วง เด็กจะข้ามไปเล่นเกมอื่นด้วย และก็ไม่ใช่ทุกเกมจะทำรายได้ขนาดนี้ ปกติแล้วเกมทั่วๆไปจะอยู่ที่ราว 4-5 ล้านต่อเดือน ทั้งนี้ มีบางเกมที่เปิดมาไม่ได้อะไรเลยก็มี มีแต่คนมาเล่นฟรี

เคลื่อนมาตรการแก้ปัญหาเกมอย่างเป็นระบบ

นายอิทธิพล ปรีติประสงค์ อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เสนอแนวทางการคัดกรองเกมว่า ควรจะมีการสนับสนุนเกมที่มีเนื้อหาเชิงบวก สนับสนุนให้เกิดสังคมในการเล่นเกมที่ดีทั้งในเกมและนอกเกม และบังคับใช้เรตติ้งเพื่อแยกแยะเกมให้เหมาะกับระดับอายุผู้เล่น การจัดอบรมผู้ประกอบการร้านอินเตอร์น็ตคาเฟ่ การจัดทำศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับเกมให้ผู้ปกครองตรวจสอบได้ รวมถึงสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับสังคม เนื่องจากสังคมยังคงฝังใจว่าเกมเป็นสิ่งที่ไม่ดี

อ.อิทธิพลกล่าวต่อว่า ไม่มีระบบไหนไปจัดการเด็กกับเกมได้ 100 % บางความจำเป็นจะต้องห้ามในเกมที่มีความรุนแรงสำหรับเด็ก เพราะโดยพฤติกรรมของเด็กจะมีการเลียนแบบ แต่ก็ขึ้นกับปัจจัยหลายประการ อย่างวัย,พฤติกรรมการเล่น รวมถึงภูมิหลังของเด็ก ทั้งนี้ การห้ามเล่นเกมมีฐานความคิด 2 แบบด้วยกันก็คือ ห้ามแบบจับผิด หรือห้ามด้วยความเข้าใจ ซึ่งเราจะต้องใช้การห้ามด้วยความเข้าใจอย่างไรให้เท่าทันเกมคอมพิวเตอร์

"อยากให้มองการจัดเรตเกมเป็น 3 ระบบ โดยประเมินว่าเกมนั้นมีความสร้างสรรค์หรือเปล่า เพื่อนำไปสู่การส่งเสริม ตามมาด้วยการจำแนกตามช่วงอายุของผู้เล่น และระบบการสร้างคุณค่าของสังคมในเกมสำหรับเกมออนไลน์ นอกจากนี้ เราต้องทำให้ร้านเกมเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เรียกว่าร้านเกมปลอดภัยสร้างสรรค์หรือร้านเกมสีขาว แต่ต้องมีการส่งเสริมให้เป็นรูปธรรมและจับต้องได้ในทางธุรกิจ อย่างการไปลดค่าซอฟต์แวร์,ลดต้นทุนบางอย่าง หรือลดอุปสรรค์บางอย่าง" อ.อิทธิพล กล่าว

จับซอฟต์แวร์เถื่อนยาก แนะปลูกฝั่งค่านิยม

พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เสนอแนวคิดให้มีการตั้งหน่วยงานอิสระเพิ่มเติมเพื่อมีส่วนร่วมในการจัดเรตติ้งเกม โดยที่พ่อแม่ต้องดูแลเอาใจใส่เยาวชนควบคู่กันไป พร้อมชี้แจงกรณีการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ว่า เป็นเรื่องที่ยากเนื่องจากกระบวนการขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มีช่องทางมากมาย แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการปราบปราม ซึ่งจุดนี้ต้องขอความร่วมมือกับผู้บริโภคให้หยุดค่านิยมการซื้อของละเมิดลิขสิทธิ์

พ.ต.อ.ญาณพลถูกยิงถามว่าจะปราบซอฟต์แวร์เถื่อนให้หมดจากเมืองไทยได้เมื่อไร? ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยี และสารสนเทศตอบด้วยรอยยิ้มแบบขี้เล่นว่า “ให้ผมเป็นนายกฯก่อน” ก่อนจะตอบว่า ปราบได้ แต่ยังไงก็ไม่หมด เพราะมันยังมีคนซื้ออยู่ ทาง DSI จะจับซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อมีมูลค่าเกิน 5 แสนบาทขึ้นไป พร้อมบอกถึงความยากง่ายในการปราบว่า อย่างเกมออนไลน์ คิดว่าไม่น่าเป็นห่วง อย่างดีก็แค่ไปจับเซิร์ฟเวอร์เถื่อนได้ แต่พอมามาเป็นเกมกล่อง หากมาขายแบบถูกต้องก็คงไม่มีปัญหากับสังคม เพราะมี กท.รับรองให้ผ่าน แต่มันยังมีซอฟต์แวร์เถื่อนและการดาวน์โหลดผ่านทอร์เรนต์อีก

ด้านนายวศิน ตู้จินดา เยาวชนตัวอย่างในการใช้เกมพัฒนาทักษะ ได้เสนอให้ภาครัฐเร่งโปรโมทสร้างค่านิยมให้เยาวชนทำความดี เพื่อให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ไม่ควรดำเนินมาตรการในลักษณะของการบังคับ เพราะจะทำให้เกิดการต่อต้านและพยายามหลบเลี่ยง

“อย่างข่าวมอเตอร์ไซค์ซิ่งฆ่าตำรวจที่ผ่านมา ขอเสนอให้ยุติการสร้างและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ทุกยี่ห้อ เพื่อแก้ปัญหารถซิ่ง วิธีการนี้ก็คงแก้ปัญหาได้แน่นอนเลย ปัญหานี้จึงเทียบเคียงได้กับปัญหาเกม เราเกาไม่ถูกที่คัน เราไม่เข้าใจว่าเกมมันคืออะไร เกมมันต้องคู่กับเด็ก ถ้าไม่ให้มีเกมคอมคอมพิวเตอร์ก็อย่าให้เด็กเกิดมาเลย เพราะเด็กต้องเล่นเกม แต่สิ่งที่เราควรต้องดูก็คือให้เล่นอย่างเหมาะสม เล่นให้ดี อย่างละครสวรรค์เบี่ยง พระเอกข่มขืนนางเอก คนทั้งประเทศเชียร์กันว่าเมื่อไรพระเอกนางเอกจะจู๋จี๋กัน ซึ่งจริงๆแล้วต้องเชียร์ให้ตำรวจไปจับพระเอกติดคุก แล้วนางเอกค่อยท้องโย้ไปเยี่ยมพระเอกที่ติดคุก เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนที่ข่มขืนผู้หญิงจะต้องติดคุก ทุกคนก็เลยคิดว่าจะต้องไปข่มขื่นแฟนเราก่อนบ้างเพื่อจะได้เป็นพระเอกแบบสวรรค์เบี่ยง” พ.ต.อ.ญาณพลยกตัวอย่างเสริมให้คิดในเชิงเปรียบเทียบกับสิ่งอื่นในสังคม

พ่อแม่ร่วมแก้ด้วยตัวเอง

“ผู้ปกครองเด็กไทยยิ่งไปกันใหญ่ บอกว่าไม่ว่างเหรอก เพราะต้องไปดูแลผู้ใหญ่ เลี้ยงลูกค้า ประชุมการค้า ประชุมโน้นประชุมนี่ ประชุมไปประชุมมาก็ฝากให้ครูดูแล ส่วนครูก็ไม่มีเวลาเพราะกระทรวงศึกษาให้ทำรายงานเยอะ ไม่มีเวลาสอนลูกศิษย์ก็เลยฝากคนใช้ให้อบรมสั่งสอนลูก บังเอิญคนใช้ก็เป็นพม่าอีก คุยไม่รู้เรื่อง ก็เลยให้เกม วิดีโอ ทีวีสอน มันก็เลยเป็นแบบนี้ เราจะไปโทษใครได้ล่ะ พ่อแม่นั่นแหละที่ต้องทำด้วยตัวเอง”พ.ต.อ.ญาณพลกล่าวถึงปัญหาสังคมปัจจุบัน

กรณีร้านเกมแข่งกันในเรื่องราคาค่าบริการที่ต่ำ บางร้าน 5 บาท ที่ประชุมก็มีขอเสนอว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกำหนดเรตราคาค่าบริการขั้นต่ำ เหมือนค่าแท็กซี่ เพื่อให้ร้านเกมนำเงินไปปรับปรุงสภาพแวดล้อมในร้านให้ดีขึ้นและสามารถทำธุรกิจนี้ต่อไปได้

สนอตั้งองค์กรอิสระจัดเรตเกม

โดยในช่วงท้ายการประชุมได้มีการเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมงานประชุมดังกล่าว ซึ่งมีข้อคิดเห็นที่หลากหลาย อาทิเช่น เสนอให้ภาครัฐใช้กฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวด มีบทลงโทษทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย , เสนอให้มีการกำหนดสินค้าเกมเป็นสินค้าควบคุม , เสนอให้ทำศูนย์ข้อมูลที่ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบเรตติ้งเกมได้ , เสนอให้ภาครัฐสนับสนุนการจัดแข่งขันเกม , เสนอให้มีองค์กรอิสระร่วมมีบทบาทในการจัดเรตติ้งเกม เป็นต้น

ภายหลังการประชุมจบลง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางอมรรัตน์ เกี่ยวกับกฎหมายการจัดเรตติ้งรวมถึงแนวคิดการตั้งผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับเกมมาช่วยในการคัดกรองเกมว่าได้ดำเนินการไปถึงขั้นไหนแล้ว โดยน.ส.อมรรัตน์ชี้แจงว่า ขณะนี้กฎหมายที่เกี่ยวกับการกำหนดเรตติ้งนั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถระบุกำหนดเวลาที่ชัดเจนได้ แต่การตั้งคณะอนุกรรมการฯเพื่อร่วมทำหน้าที่ตรวจสอบเกมนั้นสามารถทำได้ทันที

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมว่า หากกลุ่มบุคคลหรือหน่วยงานเอกชนที่มีความรู้เกี่ยวกับเกมรวมตัวกันจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อกำหนดมาตรการตรวจสอบคัดกรองเกม แล้วขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐจะทำได้หรือไม่ โดยนางอมรรัตน์ได้กล่าวว่า การจัดตั้งองค์กรลักษณะดังกล่าวสามารถทำได้ แต่จะต้องมีการทำงานที่โปร่งใสไม่มีประโยชน์แอบแฝง มิฉะนั้นแล้วจะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือและสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ภาครัฐที่ทำการสนับสนุนอีกด้วย
ฯพณฯ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม




พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยื่น,นายเลิศชาย กันภัย,อ.อิทธิพล ปรีติประสงค์ ,นายวศิน ตู้จินดา,น.ส.อมรรัตน์ เทพกำปนาท,นายฐิรวิชญ์ ธนผดุงเกียรติ และนายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ (เรียงจากซ้ายไปขวา)



กำลังโหลดความคิดเห็น