เสร็จสิ้นไปแล้วกับงาน E3 2008 ซึ่งล่าสุดผู้บริหารจากค่ายเกมต่างๆได้ออกมาให้ความเห็นถึงงานที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่มีความรู้สึกไม่พอใจกับลักษณะของงานสักเท่าไร
"John Riccitiello" ซีอีโอของค่ายอิเล็คทรอนิคส์ อาร์ต กล่าวว่า "ผมไม่ชอบงาน E3 อย่างที่เป็นอยู่นี่เลย ลักษณะของงานน่าจะกลับไปจัดแบบ E3 สมัยก่อน หรือไม่เราก็น่าจะจัดอีเว้นท์แสดงเกมของตัวเองขึ้นมาแทน"
"Laurent Detoc" ประธานยูบิซอฟต์อเมริกา กล่าวว่า "งาน E3 ปีนี้แย่มาก ทุกคนจากทั่วโลกพากันมากงานนี้ แต่งานจริงมันเหมือนกับการแสดงเล็กๆที่ไม่อลังการใหญ่โตเท่าที่ควร"
"Simon Jeffrey" ประธานของเซก้าอเมริกา ออกมาให้ความคิดเห็นว่างาน E3 ปีนี้ควรจะมีสิ่งที่น่าสนใจมานำเสนอมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แสดงความต้องการให้งาน E3 กลับไปจัดเป็นงานขนาดใหญ่แบบเก่า ที่ผู้จำหน่ายเกมต้องจ่ายเงินมากกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐในการจัดงาน
นอกจากนั้น "Alain Corre" หนึ่งในผู้บริหารของยูบิซอฟต์ก็ออกมาให้ความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่างาน E3 ที่จัดขึ้นไม่ถูกเวลาสักเท่าไร เนื่องจากช่วงสำคัญในอุตสาหกรรมเกมจะอยู่ในเทศกาลคริสมาสต์ปลายปี แต่งาน E3 กลับจัดในช่วงกลางเดือนกรกฏาคม
ก่อนหน้านี้งาน E3 เป็นมหกรรมเกมขนาดใหญ่ที่เปิดกว้างสำหรับคนทั่วไปให้สามารถเข้าชมงานได้ มียอดผู้ชมงานประมาณ 60,000 คน แต่แล้วหลังจากงานในปี 2006 ทางผู้จัดก็ได้ปรับเปลี่ยนให้งานมีขนาดเล็กลง ที่เน้นไปที่งานแถลงข่าว และการพบปะกันของสื่อ และนักธุรกิจในวงการเกม และมียอดผู้เข้าร่วมงานเหลือประมาณ 4,000 คน สำหรับสาเหตุการปรับขนาดงานให้เล็กลงมาจากเม็ดเงินมหาศาลที่เหล่าผู้จำหน่ายเกมบ่นมาว่าใช้งบเกินความจำเป็น และความลำบากในการติดต่อพูดจาธุรกิจ
จากลักษณะงาน E3 ที่มีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ผู้จำหน่ายเกมบางรายถอนตัวที่จะเข้าร่วมงาน อย่าง แอคติวิชั่นบลิซซาร์ด และ ลูคัสอาร์ต ซึ่งทั้งสองค่ายก็แยกออกมาจัดงานแถลงข่าวของตัวเอง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
www.gamasutra.com