ย้อนกลับไปในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา "ยูบิซอฟต์" หนึ่งในค่ายเกมยักษ์ใหญ่ของโลกออกมาเปิดเผยว่าในอนาคตจะผันตัวเองเข้าสู่ธุรกิจภาพยนตร์ ซึ่งล่าสุดยูบิซอฟต์ก็ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้ ด้วยการรุกคืบเพิ่มเติมเข้าซื้อกิจการของ "Hybride Technologies" สตูดิโอสร้างเอฟเฟกต์ด้านภาพ ที่มีฐานการผลิตอยู่ในมอนเทรียล ประเทศแคนาดา
"Hybride Technologies" เป็นสตูดิโอสร้างเอฟเฟกต์ด้านภาพที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1995 จากผลงานภาพยนตร์ Highlander: The Final Dimension จนถึงภาพยนตร์เรื่อง Snakes on a Plane อย่างไรก็ตามภาพยนตร์ที่ทำให้สตูดิโอแห่งนี้เป็นที่รู้จักก็คือ เรื่อง 300 , Sin City และ Spy Kids
หน้าที่หลักของ "Hybride Technologies" จะคอยช่วยเหลือยูบิซอฟต์นำผลงานเกมนำเสนอสู่จอภาพยนตร์ นอกจากนั้นยังคงทำงานในลักษณะเดิมอีกด้วย ที่จะทำงานร่วมกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งทางยูบิซอฟต์หวังว่าสตูดิโอแห่งนี้จะร่วมงานกับบริษัทอื่นแล้วจะทำเงินให้ยูบิซอฟต์ได้ประมาณ 9.4-11 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตั้งเป้าว่าจะให้เป็นกำไรสุทธิประมาณ 10 เปอร์เซนต์ของตัวเลขรายได้
"Yves Guillemot" ซีอีโอของยูบิซอฟต์ กล่าวว่า "อนาคตของอุตสาหกรรมเกมขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างแบรนด์ที่ถูกตาต้องใจผู้บริโภค และสามารถขยายต่อแบรนด์นั้นไปสู่รูปแบบความบันเทิงชนิดอื่น การเข้าซื้อกิจการสตูดิโอ Hybride เป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์เรื่องข้างต้นได้อย่างดี ซึ่งมันเปิดโอกาสให้เราได้มีสตูดิโอสร้างภาพดิจิตอลขึ้นมา และสามารถนำแบรนด์ของ ทอม แคลนซี่ มาสร้างเป็นเกม และ สินค้ารูปแบบอื่นๆได้"
ขณะนี้ยูบิซอฟต์ได้เข้าไปมีส่วนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์บ้างแล้ว จาก โปรเจกต์ที่จะนำเกมปริ้นซ์ ออฟ เปอร์เซีย ไปสร้างเป็นภาพยนตร์โดยโปรดิวเซอร์ Jerry Bruckheimer และ ภาพยนตร์ Avatar ของ James Cameron ที่จะถูกนำมาดัดแปลงทำเป็นเกม
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
www.gamespot.com