xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวจริง! ครม. อนุมัติลดภาษีนำเข้าคาร์ซีทจากต่างประเทศ 20% ถึงปี 2566

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ร่างประกาศกระทรวงการคลัง กำหนดยกเว้นอากร สำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seat) เฉพาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กนำเข้ามาโดยให้ยกเว้นอากรถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป จึงให้จัดเก็บอัตราอากรร้อยละ 20 ตามเดิม เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

วันนี้ (30 มิ.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อมูลปรากฏในสื่อเกี่ยวกับประเด็นเรื่องครม. อนุมัติลดภาษีนำเข้าคาร์ซีทจากต่างประเทศ 20% ถึงปี 2566 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

คณะรัฐมนตรี เห็นชอบยกเว้นอากรสำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seat) เฉพาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กนำเข้า ตามร่างประกาศกระทรวงการคลัง ลดอัตราอากร และยกเว้นศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) โดยให้มีผลตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

สาระสำคัญ ร่างประกาศกระทรวงการคลัง กำหนดยกเว้นอากร สำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seat) เฉพาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กนำเข้ามาโดยให้ยกเว้นอากรถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป จึงให้จัดเก็บอัตราอากรร้อยละ 20 ตามเดิม ทั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน สนับสนุนด้านความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชน ส่งเสริมให้เกิดการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กและเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับที่ 13 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 65

อย่างไรก็ตาม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เห็นว่า การลดอัตราอากรขาเข้าสำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อสนับสนุนการลดราคาให้กับผู้บริโภค ประกอบกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับที่ 13 พ.ศ. 2565 คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณความต้องการใช้ในประเทศสูงขึ้น จะทำให้ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก อาจสนใจที่จะลงทุนผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในประเทศเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือโทร. 02 618 2323

หน่วยงานที่ตรวจสอบ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี


กำลังโหลดความคิดเห็น