กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายพัฒนาระบบสุขภาพ เน้นการดูแลแบบองค์รวมทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางให้เข้าถึงและได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ ด้วยการมอบของขวัญ 3 ชิ้น เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ได้แก่ 1. การคัดกรองความเสื่อมของร่างกาย2. โปรแกรมการชะลอความเสื่อม 3. มอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบาง
วันนี้ (21 เม.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องรัฐบาลแจกของขวัญ 3 ชิ้น พิเศษให้ผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ 2565 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายพัฒนาระบบสุขภาพ เน้นการดูแลแบบองค์รวมทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางให้เข้าถึงและได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ รวมถึงการยกระดับระบบสุขภาพปฐมภูมิให้เข็มแข็ง มีคุณภาพทั่วถึงและยั่งยืน โดยในปีงบประมาณ 2565 กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบาย “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง” ผ่านการบูรณาการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบไร้รอยต่อ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยแบบองค์รวม ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ด้วยการมอบของขวัญ 3 ชิ้น ให้แก่ผู้สูงอายุเนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ได้แก่
– ของขวัญชิ้นที่ 1 การคัดกรองความเสื่อมของร่างกาย โดยมุ่งเน้น 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ ภาวะโภชนาการ การเคลื่อนไหวร่างกาย และสุขภาพช่องปาก ดำเนินการคัดกรองโดยบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ผู้สูงอายุ ที่เริ่มมีความเสื่อมได้รับบริการด้านสุขภาพอย่างทันท่วงที ครอบคลุมผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคน
– ของขวัญชิ้นที่ 2 โปรแกรมการชะลอความเสื่อม เพื่อป้องกันการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ ซึ่งดำเนินการโดยหมอคนที่ 1 ทำหน้าที่เยี่ยมบ้าน และเสริมพลังผู้สูงอายุและญาติให้ดำเนินกิจกรรมตามโปรแกรมที่วางแผนไว้ ครอบคลุมผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงกว่า 1 ล้านคน และหมอคนที่ 2 ทำหน้าที่วางแผนโปรแกรม สาธิตวิธีการ และให้การดูแลรักษาเบื้องต้น
– ของขวัญชิ้นที่ 3 มอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบาง โดยมีผู้บริบาลผู้สูงอายุในระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) ได้แก่ ผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care manager) จำนวน 16,000 คน และผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) จำนวน 100,000 คน ตลอดจนสนับสนุนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้กับผู้สูงอายุติดเตียง เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับรวมทั้งการสนับสนุนให้บุคคลในครอบครัวมีสมรรถนะเป็นผู้บริบาลในครอบครัว (Family caregiver) ครอบคลุมผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้าน และติดเตียงกว่า 5 แสนคน เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาโรค และฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี
สำหรับผลการดำเนินงานพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) ปี 2564 ที่ผ่านมา พบว่า มีตำบลที่มีระบบการส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) ในชุมชนผ่านเกณฑ์ จำนวน 6,617 ตำบล จากทั้งหมด 7,255 ตำบล คิดเป็นร้อยละ 91.21 และมีผู้สูงอายุที่ได้รับการดูแลตาม Care Plan จำนวน 342,590 คน ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องเร่งดำเนินการในระดับพื้นที่ผ่านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ที่จะต้องกำหนดทิศทางให้กับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และหน่วยบริการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่เร่งยกระดับการส่งเสริมสุขภาพ ให้เกิดผลลัพธ์ต่อสุขภาพประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://ops.moph.go.th/public/ หรือโทร. 02 590 1000
หน่วยงานที่ตรวจสอบ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข