คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ กำหนดวันหยุดประจำปี 2564 รวมถึงเลื่อนวันหยุดราชการประจำปี 2564 และมีการประกาศวันหยุดประจำภูมิภาค ทำให้เดือนตุลาคม 2564 จะมีวันหยุดยาวพร้อมกันในวันที่ 22-24 ตุลาคม ส่วนภาคกลางจะเริ่มหยุดตั้งแต่วันที่ 21-24 ตุลาคม ส่วนของวันหยุดตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย หยุดทำการเฉพาะวันที่ 13 และ 22 ตุลาคม เท่านั้น
วันนี้ (12 ต.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวในสื่อต่างๆ ประเด็นเรื่อง ครม. อนุมัติ ให้วันที่ 21-24 ต.ค. 64 เป็นวันหยุดราชการ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ กำหนดวันหยุดประจำปี 2564 รวมถึงเลื่อนวันหยุดราชการประจำปี 2564 และมีการประกาศวันหยุดประจำภูมิภาค ทำให้เดือนตุลาคม 2564 มีวันหยุดมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเดือนตุลาคม 2564 จะมีวันหยุดพิเศษ 2 วัน คือ วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2564 เป็นวันหยุดราชการประจำภาคใต้ ซึ่งมีประเพณีสารทเดือนสิบ และวันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม 2564 เป็นวันหยุดราชการประจำภาคกลาง ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลออกพรรษา
นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคมจะมีวันหยุดอีก 2 วัน คือ วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันพุธที่ 13 ตุลาคม และวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วันปิยมหาราช วันที่ 23 ตุลาคม 2564
พร้อมให้เลื่อนวันหยุดชดเชยวันปิยมหาราช จากวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 2564 เป็นวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2564 ซึ่งในกรณีที่หน่วยงานใดให้บริการประชาชนหรือมีความจำเป็นหรือราชการสำคัญในวันหยุดดังกล่าวที่ได้กำหนดหรือนัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว หากยกเลิกหรือเลื่อนจะเกิดความเสียหาย ให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ และกระทบต่อการให้บริการประชาชน
ทำให้ในเดือนตุลาคมนี้ ทั่วประเทศจะมีวันหยุดยาวพร้อมกันในวันที่ 22-24 ตุลาคม ส่วนภาคกลางจะเริ่มหยุดตั้งแต่วันที่ 21-24 ตุลาคม ในส่วนของวันหยุดตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศให้สถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หยุดทำการเฉพาะวันที่ 13 และ 22 ตุลาคม เท่านั้น
และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th/th หรือโทร. 02-618-2323
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี