จากประเด็น ทุกเรือนจำในประเทศไทย พบเชื้อโควิด-19 ระบาดเป็นจำนวนมาก ชนิดติดต่อกันแบบ 95% ทางกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไม่ใช่ทุกเรือนจำในประเทศที่พบการติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 38 แห่ง ขณะที่เรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 104 แห่ง โดยผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อในระยะนี้ มาจากรับใหม่จากภายนอก และผู้ต้องขังแดนในของเรือนจำที่พบการระบาด
วันนี้ (23 ส.ค.) ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ทุกเรือนจำในประเทศไทย พบเชื้อโควิด-19 ระบาดเป็นจำนวนมาก ชนิดติดต่อกันแบบ 95% ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลบิดเบือน
กรณีการให้ข้อมูลที่ระบุว่า คำพิพากษาจำคุกคือคำพิพากษาประหารชีวิตแบบสุ่ม เพราะในคุกโควิดระบาดชนิดติดกัน 95% ทุกคุก โชคดีรอด โชคร้ายตายนั้น ทางกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2564 เวลา 16.00) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 196 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 114 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 82 ราย) รักษาหายเพิ่ม 247 ราย เสียชีวิต 3 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 4,362 ราย (กลุ่มสีเขียว 87.7% สีเหลือง 11.9% และสีแดง 0.4%) เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 380 ราย ปริมณฑล 648 ราย และต่างจังหวัด 3,334 ราย ในวันนี้ สถานะเรือนจำคงที่ ไม่มีการระบาดเพิ่ม กล่าวคือ มีเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 38 แห่ง ขณะที่เรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 104 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 49,998 ราย หรือ 90.6% ของผู้ติดเชื้อสะสม 55,198 ราย เสียชีวิตสะสม 96 ราย คิดเป็นอัตรา 0.17% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น 2 ราย และเรือนจำกลางชลบุรี 1 ราย จากข้อมูลพบเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว แม้ว่าได้ดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภายนอกแล้ว แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง
โดยจำนวนผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อในระยะนี้ ยังคงมาจาก 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1.จากผู้ต้องขังในระยะกักโรคซึ่งเป็นผู้ต้องขังรับใหม่จากภายนอก ที่จะต้องแยกกักอย่างน้อย 21 วัน พร้อมตรวจหาเชื้อทั้งก่อนเข้าห้องกักและก่อนออกจากห้อง รวมถึงการตรวจซ้ำในผู้มีอาการป่วย หรือเข้าข่ายน่าสงสัยต่อการติดเชื้อ และ 2.จากผู้ต้องขังแดนในของเรือนจำที่พบการระบาด ซึ่งส่วนใหญ่จะพบเพิ่มมากขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกของการระบาด จากการเร่งคัดกรองหาผู้ติดเชื้อ เพื่อให้เข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อผ่านการระบาดมาได้ในระยะหนึ่งแล้ว จะเริ่มพบผู้ติดเชื้อที่ลดลงในการตรวจคัดกรองซ้ำเป็นระยะ จนกระทั่งสามารถเข้าสู่แผนการสิ้นสุดการระบาดของโรค หรือ EXIT ได้อย่างรวดเร็วในท้ายที่สุด
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมราชทัณฑ์ สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.correct.go.th หรือโทร. 02-590-6000
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่ใช่ทุกเรือนจำในประเทศที่พบการติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 38 แห่ง ขณะที่เรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 104 แห่ง โดยผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อในระยะนี้ มาจากรับใหม่จากภายนอก และผู้ต้องขังแดนในของเรือนจำที่พบการระบาด
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม