กรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ ที่กิ่งแก้ว แล้วมีการเตือนว่าห้ามโดนฝนเด็ดขาด เพราะสารเคมีระเหยขึ้นไปทำให้เกิดเป็นฝนกรดได้นั้น ทางกรมควบคุมมลพิษ ได้ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวมีการให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน เกินความเป็นจริง จนทำให้ประชาชนเกิดการตื่นตระหนก เพราะสารเคมีที่เกิดจากเหตุเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถเปลี่ยนแปลงค่าความเป็นกรดของน้ำฝนค่อนข้างน้อย จึงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
วันนี้ (8 ก.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อความแนะนำปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ห้ามโดนฝนเด็ดขาด เพราะสารเคมีระเหย อาจจะเป็นฝนกรดได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
จากกรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตโฟม จนเกิดการออกมาเตือนภัยว่าห้ามโดนฝนเด็ดขาด เพราะสารเคมีระเหย ขึ้นไปทำให้เกิดเป็นฝนกรดได้นั้น ทางกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวมีการให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน เกินความเป็นจริง จนทำให้ประชาชนเกิดการตื่นตระหนก เพราะน้ำฝนตามธรรมชาติ จะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ pH ประมาณ 5.6 เนื่องจากการละลายของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสารกรดอื่นๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติอยู่แล้ว โดยในบางแห่งสามารถพบค่าความเป็นกรด-ด่างต่ำได้ถึงประมาณ pH 5
ซึ่งกรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ ที่กิ่งแก้ว เมื่อเผาไหม้แล้ว จะปลดปล่อยสารสไตลีนและสารกลุ่ม ไฮโดรคาร์บอน ซึ่งบางส่วนจะสามารถเปลี่ยนเป็นกรดอินทรีย์ เช่น กรดอะซีติก (กรดน้ำส้ม) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ทำให้การเปลี่ยนแปลงค่าความเป็นกรด (pH) ของน้ำฝนค่อนข้างน้อย และมีโอกาสที่จะถูกเจือจางในอากาศโดยการพัดพาไปของลมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษ อยู่ระหว่างเฝ้าระวังสารเคมีต่างๆ ที่อาจปนเปื้อนในบรรยากาศ และอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากกรมควบคุมมลพิษ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pcd.go.th หรือโทร 02 298 2000
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ ที่กิ่งแก้ว จะปลดปล่อยสารสไตลีนและสารกลุ่ม ไฮโดรคาร์บอน ซึ่งบางส่วนจะสามารถเปลี่ยนเป็นกรดอินทรีย์ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ทำให้การเปลี่ยนแปลงค่าความเป็นกรด (pH) ของน้ำฝนค่อนข้างน้อย จึงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม