จากที่มีการโพสต์ข้อความ เกี่ยวกับกัญชาสามารถป้องกันและรักษาโควิด-19 ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ปัจจุบัน "ยังไม่มี" งานวิจัย ข้อบ่งใช้ทางการแพทย์ที่ยืนยันว่ากัญชา หรือการหยดน้ำมันกัญชาบนลิ้นสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ และกระทรวงสาธารณสุขยังไม่อนุญาตให้ใช้กัญชารักษาโรคโควิด-19 ซึ่งกัญชายังจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5
วันนี้ (6 มิ.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการโพสต์ข้อความ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกัญชาสามารถป้องกันและรักษาโควิด-19 ได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขทางกระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากที่มีข้อมูลชวนเชื่อแนะนำการใช้กัญชาทั้งชนิดแคปซูล และรูปแบบน้ำมันกัญชาหยดลิ้นเพื่อป้องกันและรักษาโควิด-19 ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์ที่ยืนยันว่ากัญชา หรือการหยดน้ำมันกัญชาบนลิ้นสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ และกระทรวงสาธารณสุขยังไม่อนุญาตให้ใช้กัญชารักษาโรคโควิด-19 ซึ่งกัญชายังจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ฉบับที่ 2 ยกเว้นกรณีนำไปใช้ทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข้อบ่งใช้ของกัญชาในโรคโควิด-19 และการใช้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้สั่งใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น
ปัจจุบันได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องกำหนดตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ ที่ให้เสพเพื่อรักษาโรคหรือการศึกษาวิจัยได้ พ.ศ. 2562 โดยการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ ผู้สั่งใช้ต้องเป็นแพทย์หรือทันตแพทย์ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการใช้กัญชาทางการแพทย์ หรือต้องเป็นแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือหมอพื้นบ้าน ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการใช้กัญชาทางการแพทย์แผนไทย ที่กระทรวงสาธารณสุขให้การรับรอง และได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้เป็นผู้สั่งใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ได้
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามที่เว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th หรือโทร. 02-591-7007