นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย ปลัดเมืองพัทยา ประกาศเดินหน้าโรดแมป “THE NEXT PATTAYA” มุ่งเปลี่ยนพัทยาให้เป็น “เมืองแห่งโอกาส” ที่พร้อมกว่าเดิม โดยชูกลยุทธ์หลัก 3 ส. “สร้าง-สนับสนุน-ส่งเสริม” เข้ามาเป็นกลไกขับเคลื่อนเมือง เพื่อลดขั้นตอนที่เป็นอุปสรรคและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ
นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย ปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่า “ทีมบริหารเมืองพัทยาไม่ได้ทำงานเพียงเพื่อซ่อมแซมปัญหาเก่า แต่เรามุ่งมั่นสร้างมาตรฐานใหม่บนวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ ยกเครื่องรากฐานเมืองให้แข็งแกร่ง สร้างสรรค์กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ควบคู่ไปกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนในอนาคต”
เมืองพัทยาได้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมใน 4 มิติหลัก เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ดังนี้:
1. ยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐาน: แก้ปัญหาน้ำท่วมเบ็ดเสร็จ-ปรับภูมิทัศน์เมืองระดับโลก เมืองพัทยาขับเคลื่อนวาระเร่งด่วนในการแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนผ่านยุทธศาสตร์ "บล็อกน้ำนอก เร่งระบายน้ำใน ลดพื้นที่และเวลาท่วมขัง" โดยใช้เทคโนโลยี ดันท่อลอด (Pipe Jacking) และงานดึงท่อลอดใต้ดินโดยไม่เปิดหน้าดิน เพื่อลดผลกระทบต่อการจราจร ควบคู่กับการเสริมประสิทธิภาพการระบายน้ำด้วย สถานีสูบน้ำและงานวางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมระดมเครื่องจักรขุดลอกท่อระบายน้ำครอบคลุมระยะทางกว่า 324 กิโลเมตร
ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพการระบายน้ำที่รวดเร็วขึ้นเท่าตัว ลดเวลาท่วมขังในพื้นที่ซ้ำซากเหลือไม่เกิน 2 ชั่วโมง และลดจุดเสี่ยงจาก 24 จุด เหลือเพียง 3 จุด นอกจากนี้ ยังเดินหน้าปรับภูมิทัศน์สู่ความเป็นสากล โดยนำสายไฟลงดิน 10 เส้นทางหลัก ยกระดับจุดแลนด์มาร์คให้สวยงาม และติดตั้งไฟส่องสว่าง LED กว่า 11,000 ดวง สร้างความปลอดภัยและความสวยงามระดับโลก
2. สร้างเศรษฐกิจใหม่ด้วยเทคโนโลยีและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ วางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลด้วยระบบ CCTV AI กว่า 2,500 ตัว เชื่อมโยงฐานข้อมูลตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด พร้อมยกระดับงานบริการผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุ 1337 ตลอด 24 ชั่วโมง และ LINE OA @pattayaconnect ที่ให้ประชาชนดูกล้อง CCTV แบบเรียลไทม์ได้ 400 ตัว พร้อมเข้าถึงบริการภาครัฐได้ทันที ในด้านเศรษฐกิจ พัทยาก้าวสู่ "เมืองแห่งเทศกาลระดับโลก" อย่างเต็มภาคภูมิ สร้างรายได้หมุนเวียนมหาศาลจากงาน Pattaya Countdown กว่า 5,000 ล้านบาท และ เทศกาลพลุนานาชาติ กว่า 2,290 ล้านบาท พร้อมผลักดันพัทยาสู่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์ของ UNESCO เพื่อเปิดตลาดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ใหม่ๆ
3. ยกระดับคุณภาพชีวิตและการศึกษา ดูแลสุขภาพเชิงรุกผ่านโครงการ "หมอถึงบ้าน พยาบาลถึงเรือน" และใช้เทคโนโลยีดูแลสุขภาพและอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มเปราะบาง ด้านการศึกษาได้เสริมสร้างทักษะแห่งอนาคตใหม่ ด้วย AI Coding ผสานการสร้างนวัตกรรมนำสู่ความเป็นเลิศด้านกีฬาและวิชาการ
4. พัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน มุ่งจัดการสิ่งแวดล้อมครบวงจร โดยเฉพาะพื้นที่ "เกาะล้าน" ที่ยกระดับสาธารณูปโภคผลิตน้ำจืดเพิ่มเป็น 1,000 ลบ.ม./วัน และเปิดใช้เตาเผาขยะชุมชนมาตรฐานสูงแห่งแรกที่กำจัดขยะได้ 50 ตัน/วัน โดยไร้มลพิษ พร้อมขยายระบบบำบัดน้ำเสียเมืองเป็น 150,000 ลบ.ม./วัน และนำร่องใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในระบบขนส่งและงานราชการ เพื่อคืนอากาศบริสุทธิ์ให้เมืองพัทยา
เปิดวิสัยทัศน์ “THE NEXT PATTAYA” สู่เมืองแห่งโอกาส เพื่อตอบโจทย์อนาคตและเปลี่ยนพัทยาจากเมืองท่องเที่ยวสู่เมืองแห่งโอกาส ผ่านกลยุทธ์ 3 ส.:
1. สร้าง: สร้างโอกาสใหม่จากต้นทุนระดับโลก โดยนำอัตลักษณ์เมืองท่องเที่ยวมาผสานกับเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อปลดล็อกมูลค่าเศรษฐกิจใหม่ที่ไร้ขีดจำกัด
2. สนับสนุน: พร้อมจะเป็นพลังสำคัญเสมือนลมใต้ปีก เพื่อเสริมพลังและเติมเต็มศักยภาพ ทั้งภาคธุรกิจและพี่น้องประชาชนเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง
3. ส่งเสริม: ปลดล็อกอุปสรรคสู่ความคล่องตัว ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน เพื่อให้พัทยาเป็นเมืองที่อยู่ง่าย - ค้าขายคล่อง
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “จากรากฐานที่มั่นคงที่เราได้วางไว้ วันนี้เราพร้อมมุ่งสู่ทิศทางใหม่ที่จะเปลี่ยนพัทยาให้เป็นเมืองแห่งโอกาสอย่างแท้จริง
ทีมบริหารเมืองพัทยาทุกคนพร้อมที่จะร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับผิดชอบ เพื่อสร้างโอกาสที่พร้อมกว่าเดิม พัทยาเป็นเมืองที่น่าอยู่ น่าลงทุน และเคียงข้างทุกก้าวของการเติบโตไปกับพี่น้องประชาชน”


