สำหรับคู่รักหลายคู่ที่พยายามจะมีลูกตามธรรมชาติมาสักพักแล้วยังไม่สำเร็จ แพทย์มักจะแนะนำวิธีที่เรียกว่า IUI (Intra-Uterine Insemination) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ไม่ซับซ้อนและค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก หัวใจหลักของวิธีนี้คือการช่วยร่นระยะทางการเดินทางของตัวอสุจิ โดยการนำอสุจิที่ถูกคัดเลือกแล้วว่าแข็งแรงที่สุด การฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงโดยตรงในช่วงที่ไข่ตก เพื่อเพิ่มโอกาสให้อสุจิว่ายไปเจอและปฏิสนธิกับไข่ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง และนี่คือ 3 ขั้นตอนสำคัญของ การฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก ที่อยากให้ทำความเข้าใจ
1. การเตรียมความพร้อมและกระตุ้นไข่
ก่อนจะถึงขั้นตอนการฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก ฝ่ายหญิงจะต้องผ่านกระบวนการเตรียมความพร้อมก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งสำคัญพอๆ กับตัวขั้นตอนการฉีดเอง แพทย์จะเริ่มจากการตรวจสุขภาพและอัลตราซาวนด์เพื่อดูความสมบูรณ์ของรังไข่และมดลูก จากนั้นอาจมีการให้ยากระตุ้นการตกไข่ ไม่ว่าจะเป็นแบบรับประทานหรือแบบฉีด
การใช้ยากระตุ้นไข่ไม่ได้มีจุดประสงค์แค่ให้ไข่ตกเท่านั้น แต่เป็นการกำหนดเวลาให้ไข่ตกอย่างแม่นยำ เพื่อให้การฉีดน้ำเชื้อเกิดขึ้นในช่วงเวลาทองที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งปกติแล้วคือ 24-40 ชั่วโมงหลังฉีดยาให้ไข่ตก การทำแบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก อย่างมาก แต่สิ่งที่คนอยากมีลูกต้องเตรียมใจคือ การกระตุ้นไข่อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย หรือมีโอกาสเกิดภาวะรังไข่ตอบสนองมากเกินไปได้ แม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อยก็ตาม
2. การคัดกรองน้ำเชื้อ
ในวันที่ต้องทำการฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก ฝ่ายชายจะต้องเก็บน้ำเชื้ออสุจิ จากนั้นนักวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการจะนำน้ำเชื้อไปผ่านกระบวนการที่เรียกว่า "การคัดกรอง" หรือ "การปั่นล้าง" เพื่อแยกเอาเฉพาะตัวอสุจิที่มีชีวิต แข็งแรง และว่ายน้ำได้ดี ออกจากน้ำอสุจิส่วนที่ไม่จำเป็น
กระบวนการคัดกรองนี้สำคัญมาก เพราะช่วยกำจัดสารที่อาจทำให้มดลูกเกิดการหดรัดตัวเมื่อถูกฉีดเข้าไปโดยตรง การที่เราได้น้ำเชื้อที่เข้มข้นไปด้วยอสุจิคุณภาพสูงเหมือนเป็นการอัปเกรด ความสามารถในการปฏิสนธิ เพราะอสุจิจำนวนมหาศาลที่ฉีดเข้าไปจะเดินทางจากโพรงมดลูกไปยังท่อนำไข่ได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า หากน้ำเชื้อฝ่ายชายมีคุณภาพต่ำมากจริงๆ แม้จะผ่านการคัดกรองแล้ว โอกาสสำเร็จจากการ การฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก ก็ยังคงจำกัดอยู่
3. ขั้นตอนการฉีดน้ำเชื้อ
เมื่อทุกอย่างพร้อม แพทย์จะนำน้ำเชื้อที่คัดกรองแล้วบรรจุใส่หลอดพลาสติกขนาดเล็ก แล้วค่อยๆ สอดท่อนี้ผ่านปากมดลูกเข้าไปยังโพรงมดลูก และฉีดน้ำเชื้อเข้าไปโดยตรง ขั้นตอนนี้ใช้เวลาสั้นมาก ไม่เกิน 5-10 นาที และไม่ต้องใช้ยาสลบ
หลายคนกังวลว่าจะเจ็บหรือไม่ แต่จริงๆ แล้ว การฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก ไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิด อาจรู้สึกเพียงตึงๆ หรือหน่วงๆ เล็กน้อยเท่านั้น หลังทำเสร็จ แพทย์มักจะแนะนำให้นอนพักประมาณ 15-30 นาที การพักนี้ไม่ได้แปลว่าอสุจิจะไหลออกมา แต่เป็นการช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและลดการหดรัดตัวของมดลูก ซึ่งอาจส่งผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อนได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในช่วงนี้คือการรอคอยอย่างใจเย็น และหวังว่าอสุจิจะทำหน้าที่ของมันได้สำเร็จ
การฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูกเป็นการรักษาที่เน้นการเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ โดยอาศัยการกำหนดเวลาตกไข่ที่แม่นยำและการคัดเลือกอสุจิคุณภาพดี ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก แต่ความสำเร็จก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ สุขภาพไข่ และคุณภาพน้ำเชื้อ การทำความเข้าใจแต่ละขั้นตอนอย่างถ่องแท้ จะช่วยให้เราเข้าสู่กระบวนการนี้ด้วยความสบายใจและมีความหวังมากขึ้น


