xs
xsm
sm
md
lg

หนีตายงานละคร “ต้น จักรกฤษณ์” ลุยงานใหม่ พากย์ซีรีส์จีนแนวตั้ง ปรับตัวในช่วงบันเทิงซบเซา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รุ่นใหญ่แต่ใจไม่หยุดนิ่ง อดีตพระเอกดังสายบู๊ “ต้น จักรกฤษณ์” ขอลุยเส้นทางใหม่ๆ มุ่งมั่นกับอาชีพนักพากย์ในวัยเลข 5 เดินหน้ารับงานพากย์ซีรีส์ทุกแนว หลายบทบาท หลายคาแรกเตอร์ รวมไปถึงซีรีส์จีนแนวตั้งที่กำลังฮอตฮิตอยู่ในขณะนี้ ยึดเป็นอาชีพหลักในสภาวะงานวงการละครขาลง งานนี้เปิดใจถึงอาชีพใหม่ ผ่านรายการ “โต๊ะหนูแหม่ม” ช่องเวิร์คพอยท์หมายเลข 23 กับพิธีกรตัวแม่ “หนูแหม่ม สุริวิภา” เล่าถึงที่มาที่ไป และความยากของอาชีพนักพากย์ว่า

เริ่มยึดอาชีพนักพากย์ มาเป็นอาชีพหลักได้นานหรือยัง?
“จริงๆ เริ่มมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ต้องบอกว่าผมยังเป็นเด็กฝึกงานพากย์อยู่เลยครับ ยังไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักพากย์ เรียกว่ากำลังเริ่มฝึก ไม่อาจเทียบรุ่นพี่ๆ ได้”

2 ปีที่เข้าสู่วงการนักพากย์สนุกมั้ย?
“สนุกทุกวัน คือผมสรุปใจความให้ฟังนะ สกิลทางการแสดงที่ผมทำงานมา ไม่สามารถเอาไปใช้กับงานพากย์ได้เลย เพราะเราต้องเป็นคนอื่นซ้อนคนอื่น เจ้าของงานเขาจะเป็นคนเลือกงานให้ว่าให้เราเป็นตัวละครตัวนั้นตัวนี้ ต้นก็ต้องเป็นตามงานที่ต้นต้องทำ ซึ่งมันยากตรงที่เราต้องปรับมายด์เซ็ตหมวดหมู่ที่เราต้องทำความเข้าใจ ให้มันออกมา บ้างทีก็ยังใช้ไม่ได้ ต้องเอาเสียงหนุ่มกว่านี้ ที่นี้ยุ่งแล้วนะ บ้างทีก็ต้องมีแก่กว่านี้ ฉากตื่นเต้นก็ห้ามเสียงโมโนโทน มันมีรายละเอียดมาก พากย์ซีรีส์แบบนึง พากย์จีนแบบนึง เกาหลีก็แบบนึง จังหวะการพูดมันไม่เหมือนกัน อันนี้ไม่ได้พูดถึงหนังจีนกำลังภายในนะ จีนแบบดรามาก็จะมีอีกทำนองนึง ฝรั่งอเมริกันอีกแบบเลย”

แล้วได้พากย์มาทุกรูปแบบ ทุกแนวแล้วหรือยัง?
“ผมเจออเมริกันแล้ว ผมเจอเกาหลีแล้ว ผมเจอจีนแล้ว ในส่วนของห้องพากย์มาสเตอร์ ผมจะพากย์จีนเยอะสุด ผมจะดีไซน์ดูความเด็ก ความอ่อนของตัวละคร แล้วลองใส่เราเข้าไปว่ามันจะเข้ามั้ย มันคิดกลับไปกลับมา อย่างเราคิดว่าตื่นเช้าเราจะไปพากย์แบบนั้นแบบนี้ พอถึงเวลาจริงมันไม่ใช่เลย แต่ละเรื่องต้องดูหน้างาน”

ครั้งแรกที่ลงสนามพากย์เป็นยังไงบ้าง?
“วันแรกที่พากย์ฉากเบๆ เลย เขาให้ผมลองพากย์ตี๋เหรินเจี๋ย ก็เป็นฉากควบม้าไปในเมือง เขาจะเอาป้ายประกาศไปติดแล้วชาวบ้านก็มุงดู ก็ต้องทำเสียงควบม้าสั่งให้มาหยุด เมื่อมีความเข้าใจในการพากย์มันก็ทำได้ แต่ต้น ณ วันนี้ยังผิดพลาดยังคงนั่งฝึก แรกๆ ก็จะมีพี่ๆ นักพากย์นั่งประกบที่ละคำที่ละโยค”

จุดเริ่มต้นในการเป็นนักพากย์เริ่มได้ยังไง?
“ต้นไปถ่ายบุญชู สมัยที่หนังเราเริ่มจะเป็นซาวด์ ออน ฟิล์ม ถ้าใครเล่นต้องเป็นเสียงคนเล่น ดันคิดว่าเป็นงานสบายเพราะเราเคยทำมาแล้ว ไปจำภาพแบบนั้น เลยอยากทำ แล้วมาช่วงนึงถ่ายละครกับอาเกรียงศักดิ์ เหรียญทอง อาเกรียงก็บอกว่าน้องต้น เสียงมีคาแรกเตอร์มากเลย อยากเป็นนักพากย์มั้ย เราก็บอกว่าอยากครับ แล้วก็ชวนมาพันธมิตรกัน ไปนั่งอยู่เป็นเดือน สุดท้ายคิวละครเยอะ ต้นก็ต้องมาถ่ายละคร ก็เลยหยุดไป จนมาตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ เวลาเยอะขึ้น ต้นก็เลยต่อโทรศัพท์โทรหาอาเกรียงอีกครั้งนึง โชคดีที่อาเกรียงไม่เปลี่ยนเบอร์เลย (หัวเราะ) ก็เลยมาที่ห้องพากย์มาสเตอร์ พี่อ้อมเจ้าของเขาก็ถามว่าอยากเป็นนักพากย์จริงๆ มั้ย ต้นก็ตอบว่าอยากทำเป็นอาชีพเลย เขาก็เลยเชิญครับ”
 
อุปสรรคในการเป็นนักพากย์มีอะไรบ้าง?
“คือบางคำเป็นคำที่เราพูดอยู่แล้ว แต่ถ้าจะติดบ้างทีติดอยู่ 3-4 ชั่วโมง มันต้องควบคุมในการพากย์ ต้องทำการบ้านดูซีรีส์จีน เป็นไกด์ จากที่เราไม่ชอบดูเลย เราต้องมานั่งดูสารพัดสิ่งอย่าง ยังไม่ไปเลเวลที่ยากๆ ทุกวันนี้ที่พากย์คือจีนแนวตั้ง ที่กำลังฮิตๆ มาให้พากย์แบบยังไม่มีชื่อเรื่อง เป็นขั้นตอนมิกซ์เสียง เป็นนัมเบอร์ๆ ให้เราพากย์เยอะมาก”

เรียกว่าเป็นการปรับตัวในช่วงที่งานละครซบเซา?
“ปรับตัวครับ ต้นเริ่มทำตอนอายุ 55 พี่ๆ เขาก็เกรงใจว่าเริ่มตอนอายุมากแล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องฝึกมากหน่อย อย่างอายุ ยุวดี เขาก็โทร.มาบอกว่าต้นเล่นโซเชียลเดี๋ยวนี้ ผมก็มาเริ่มไลฟ์ TikTok พูดคุยกับแฟนๆ มากขึ้น”









กำลังโหลดความคิดเห็น