วันที่ 3 ธันวาคม ปี 64 วงการผ้าเหลือง ต้องสูญเสียพระนักเทศน์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นขวัญใจเด็กเจนใหม่อย่าง “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” พระลูกวัดประจำวัดสร้อยทอง พระที่มีบทบาทต่อสังคม
ส่วนสาเหตุสึก ทั้งที่อยู่ในผ้าเหลืองมานานถึง 18 ปี มีหลายเงื่อนไข เรื่องแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก แต่อีกสาเหตุที่ทำให้ไพรวัลย์อัดอั้นตันใจจนไม่อาจทนอยู่ได้อีกต่อไป คือการเมืองภายในวงการสงฆ์ ซึ่งไพรวัลย์เผยเอาไว้ว่า “มีจีวรไม่พอ ยังเอาปลอกคอมาใส่ให้อีก” ไพรวัลย์ไม่อยากก้มหัวให้ใคร และยืนยัน “จะไม่กลับไปบวชอีก” ท่ามกลางเสียงปรามาส ไม่มีพระชื่อดังรูปไหนสึกออกมาแล้วประสบความสำเร็จในชีวิตสักราย จะไปได้สักกี่น้ำ?
“ความจน” คือวัคซีนชีวิต
แพรรี่ เกิดมาจากครอบครัวยากจน พ่อแม่มีหนี้สิน ทำงานเป็นกรรมกร ทอดไข่ฟองเดียวแบ่งกินกัน 3 คน บางวันไม่มีกับข้าวกิน แต่ “ความจนคือวัคซีน” ดิ้นรนด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก รับจ้างปลูกถั่วลิสง ได้เรียนแค่ ป.6 และเป็นจุดเริ่มต้นในการบวช
แพรรี่ย้ายไปอยู่ที่ จ.สุโขทัย ตั้งแต่อายุ 12 ปี ระหว่างนั้นได้เรียนนักธรรม และบาลี จนจบเปรียญธรรม 7 ประโยค ก่อนที่จะย้ายมาเรียนต่อที่วัดสร้อยทองตามคำแนะนำของอาจารย์ท่านหนึ่ง เรียบจบนักธรรมเอก และเป็นสามเณรรูปแรกของจังหวัดสุโขทัยที่เรียนจบเปรียญธรรม 9 ประโยคในรอบ 200 ปี ต่อมาได้เรียนต่อ ปริญญาโทพุทธศาสตร์ ของ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย และ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ชีวิตที่ลิขิตเอง
แม้จะจบเปรียญ 9 ซึ่งเท่ากับการศึกษาขั้นสูงสุดของการเป็นพระภิกษุ แต่ถึงเวลาสึก แพรรี่ไม่มีอาการ “อาลัยอาวรณ์” เปลี่ยน “ยูนิฟอร์ม” มาเป็น “แม่ค้า” เต็มตัว มูฟออนและไม่ติดภาพอดีตพระนักเทศน์ชื่อเสียงโด่งดัง ขยันทำกิน เริ่มต้นชีวิตใหม่ “เหมือนเกิดมาบนโลกนี้อีกครั้งหนึ่ง” พร้อมเผยตัวตน LGBTQ เต็มรูปแบบ เปลี่ยนลุคใหม่ใส่วิก แต่งหญิง ไม่อายที่ต้องทำแบบนี้ อีกทั้งยังมีอาชีพหลากหลายรองรับ ทั้ง อินฟูลเอนเซอร์ วิทยากร นักแสดง พิธีกรรายการต่างๆ รวมทั้งการเป็นครีเอเตอร์
แม้ถูกก่นด่าว่าเป็นพระนักเทศน์ในวงการผ้าเหลืองก็ดีอยู่แล้ว จะมาเป็นแม่ค้าขายน้ำพริก ลดคุณค่าชีวิตตัวเองทำไม แต่ แพรรี่ไม่เคยท้อถอยกับคำดูถูกต่างๆ เดินหน้าลิขิตชีวิตตัวเอง “ชีวิตนี้เกิดมาตัวเปล่าอยู่แล้ว ไม่มีขาดทุน ทุกอย่างในชีวิตคือกำไร”
ไม่อายทำกิน จนจับเงินล้านก้อนแรก
เพียงไม่นาน แพรรี่ ก็สามารถจับเงินล้านได้จากการขายน้ำพริก ปลาอินทรีย์ ถึงขั้นสามารถมอบเงินล้านให้แม่ได้เป็นครั้งแรก แพรรี่เป็นแม่ค้าที่จริงใจ แทรกธรรมะสอนคน ว่ากันว่าคนไม่อายทำกิน มักไม่สิ้นหนทาง ชีวิตแพรรี่จึงมีแต่ดีวันดีคืน นำเงินไปต่อยอดธุรกิจ ขายทุเรียน และสามารถสร้างบ้านหลังใหญ่ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ มีรถหรูในฝัน รวมทั้งมีเงินอยู่ในบัญชี แว่วมาว่ามากกว่า 20 ล้าน สมบัติที่ได้มาจากสติปัญญา รวยแบบมีที่มาที่ไป ไม่ใช้ชีวิตเวอร์เกินตัว ปลดหนี้ให้แม่หมด สร้างงานให้ครอบครัว นี่แหละคือคุณค่าชีวิต!
เครื่องจักรกด่า ที่มีสมอง
ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่ไม่คิดร้ายกับใคร แพรรี่ ไม่ออกไปหาเรื่องใครก่อน แต่ก็พร้อมฟาดกลับทุกคนที่เข้ามาป่วนในเฟซบุ๊กซึ่งใช้ทำมาหากิน แพรรี่วิพากษ์เรื่องราวในสังคมได้อย่างถึงเครื่อง กลายเป็นเครื่องจักรด่าที่มีมันสมอง ยากที่ใครจะต่อกรเจ้าตัวได้ ไม่ว่าจะวงการไหนๆ แพรรี่ก็เอาอยู่หมัด ใครด่ามาพร้อมด่ากลับ มีวลีเด็ดให้คนจดจำไม่เว้นแต่ละวัน
ร่างไหนก็คุณภาพ
ไม่ต้องห่มสบง แต่ก็นำความรู้ทางธรรม มาอธิบายทางโลกได้แตกฉาน ถึงไม่มีผ้าเหลือง แต่ใช่ว่าพูดอะไรจะไม่มีใครรับฟัง แม้ไม่ได้เป็นพระ แต่ก็สอนธรรมให้คติและข้อเตือนใจ เก่ง ฉลาด ตลก ตอบคำถามได้เฉียบคม ทุกเวอร์ชั่นของแพรรี่ให้ความสนุกแฝงแง่คิด ตัวตนแพรรี่ ไม่ว่าจะเป็นร่างไหน “แพรรี่” หรือ “ไพรวัลย์” ก็สอนคติธรรมได้คนไทยได้อยู่เสมอ ร่างไหนก็ตอกย้ำความเป็นคนที่มี “คุณภาพ”
4 ปีเป็นบทพิสูจน์แพรรี่ สึกมาไม่เสียเปล่า ไม่ว่าจะเป็นพระหรือคนธรรมดา ผู้คนก็ได้เห็นเนื้อแท้ข้างในมากกว่าเปลือก อย่างน้อยแพรรี่ก็คิดถูกที่วันนี้ใช้ชีวิตเพื่อตนเอง ไม่ได้ใช้เพื่อคนอื่น!
