xs
xsm
sm
md
lg

“เผด็จการทหาร”ทำชาติถอยหลังลงคลอง!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ. สุจินดา คราประยูร
“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

รัฐบาลเลือกตั้ง นายกฯ พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ กำลังทำให้เศรษฐกิจไทยดีวันดีคืน แต่กลับถูก “กลุ่มเผด็จการทหาร”โค่นล้มเพียงเพราะมี “ข่าวลือ” ว่าจะถูกโยกย้าย และลงท้าย “ทหารกลุ่มนี้” ก็ได้เข้ามาครองอำนาจ สังคมไทยจึงถอยหลังลงคลองกับ “สังคมเผด็จการทหาร” อันล้าหลัง


ย้อนไปนาทีการยึดอำนาจ..

“น้าชาติ” กับ “บิ๊กซัน” พล.อ. อาทิตย์ กำลังเอก กำลังเตรียมเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ตามพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายกรัฐมนตรีชาติชายเข้าเฝ้าฯ

แม้ว่า ขณะนั้นกระแสข่าว “รัฐประหาร” จะแรงมากก็ตาม แต่ “น้าชาติ” เชื่อว่า การเดินทางครั้งนั้นไปตามพระบรมราชโองการฯ ทหารของพระราชาต้องไม่กล้าทำอะไรที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน! แต่ พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ “คิดผิดมหันต์!” เพราะสิ่งที่ทุกคนรู้ว่าผิด เป็นสิ่งมิบังควรอย่างยิ่ง โดยต้องเทิดไว้เหนือเกล้า กลับไร้ความหมายกับทหารกลุ่มนี้ พวกเขานึกถึงแต่อำนาจตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น!

“ตามปกติ” ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่ใดก็ตาม ผู้บัญชาทหารทุกเหล่าจะมาเข้าแถวส่งขึ้นเครื่อง แต่ในครั้งนั้นมีสิ่ง “ผิดปกติ” เพราะมีแค่ พล.อ.อ. เกษตร โรจนนิล เพียงคนเดียว ที่มารอส่ง “นายกฯ น้าชาติ” ถึงบันไดเครื่องบิน C130 (เพื่อได้เห็นกับตาว่า “น้าชาติ” กับ พลเอก อาทิตย์ ได้ขึ้นไปบนเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว)

เรื่องนี้ “นักข่าวทำเนียบรัฐบาล” คนหนึ่ง ได้รายงานเหตุการณ์ในภายหลังว่า “เมื่อได้ที่นั่ง ฉันเห็นเรื่องผิดสังเกตอีกอย่าง คือ มีชายไม่คุ้นหน้าใส่เสื้อซาฟารี 3 คน มานั่งอยู่เบาะท้ายทางหางเครื่องบินกับพวกเราด้วย ส่วนฉันหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านรอเครื่องออก เพียงไม่กี่นาที เครื่องบินก็เคลื่อนตัวออกช้าๆ พอเครื่องทำท่าจะขึ้น คนพวกนั้นก็ควักปืนสั้นออกมา แล้วบอกให้ทุกคนยกมือขึ้น คนหนึ่งเดินไปที่ส่วนหัวของเครื่อง อีก 2 คนถือปืนคุมอยู่ส่วนหาง “ยกมือขึ้น ทุกคนยกมือขึ้น ไม่ยก จะยิง” นั่นคือเสียงที่ได้ยินบนเครื่องบิน ความรู้สึกตอนนั้น คิดว่า เรื่องจริงหรือเปล่าเนี่ย ก็ยังไม่ยกมือ แต่คนที่ถือปืน ก็ตะโกนอีก “ยกมือขึ้น ทุกคนยกมือ” เครื่อง C130 ไม่ได้ทะยานขึ้นฟ้า เครื่องถูกไฮแจ๊ค!!”

“หลังคนเหล่านั้นแสดงตัว รปภ.ของนายกฯ ชาติชาย ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร ขณะที่เครื่องบินที่ดูเหมือนจะเตรียมบินขึ้น ก็วนมาจอดที่ข้างรั้วหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน เมื่อเครื่องจอดสนิท ประตูเครื่องบินก็เปิดออก ภาพแรกที่เห็นคือ ทหารอากาศยศนายพล 1 คน ถือปืนยาวอยู่นอกเครื่อง ไม่ได้ขึ้นเครื่องมา ปล่อยให้คนมีปืนบนเครื่องพาพวกเราสื่อมวลชนและ รปภ.ของนายกฯ ลงไปขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่ ส่วนผู้โดยสารวีไอพีด้านหน้าเครื่องนั้น ก็มีคนอีกชุดหนึ่งมาพาตัวไป”

รัฐประหารในครั้งนั้น พล.อ. สุจินดา คราประยูร (เพิ่งถึงแก่อสัญกรรม มิถุนายน 2568) ผู้มีบทบาทมากที่สุดในคณะรัฐประหาร “คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ - รสช.”

วันรุ่งขึ้นจึงมีการประกาศผ่านสื่อมวลชน “ยึดทรัพย์นักการเมือง” จำนวน 24 คน ดังนี้ “พรรคชาติไทย” 1.พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ 2.พลตำรวจเอก ประมาณ อดิเรกสาร 3.นายเสนาะ เทียนทอง 4.นายกร ทัพพะรังสี 5.นายสมาน ภุมมะกาญจนะ 6.นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ 7.นายอุดมศักดิ์ ทั่งทอง 8.นายสุชน ชามพูนท 9.นายเดช บุญหลง 10.นายประมวล สภาวสุ 11.นายบรรหาร ศิลปอาชา “พรรคกิจสังคม” 12.นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ 13.นายมนตรี พงษ์พานิช 14.นายสุบิน ปิ่นขยัน 15.นายไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ 16.นายสันติ ชัยวิรัตนะ 17.นายภิญญา ช่วยปลอด “พรรคประชาธิปัตย์” 18.พลตรีสนั่น ขจรประศาสตร์ 19.นายประจวบ ไชยศาสน์ 20.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี “พรรคราษฎร” 21.พลเอก เทียนชัย สิริสัมพันธ์ 22.นายวัฒนา อัศวเหม “พรรคประชากรไทย” 23.นายสมัคร สุนทรเวช “พรรคมวลชน” 24.นายเฉลิม อยู่บำรุง

 พลอากาศเอก เกษตร โรจนนิล

พล.อ. อาทิตย์ กำลังเอก
ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 26 ลงนามโดย “พลเอก สุจินดา คราประยูร” แต่งตั้งให้ พลเอก สิทธิ จิรโรจน์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน โดยมี นายสุธี อากาศฤกษ์ กับ พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ และ นายชัยเขต สุนทรพิพิธ ร่วมเป็นกรรมการ โดยให้มีการอายัดและห้ามจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินของนักการเมืองที่มีพฤติกรรมอันอาจส่อว่า มีทรัพย์สินร่ำรวยผิดปกติ

พร้อมๆ กันนั้น ก็มีการเคลื่อนไหวของ นาวาอากาศตรี ฐิติ นาครทรรพ อดีตนายทหารอากาศที่สนิทสนมกับ พลอากาศเอก เกษตร โรจนนิล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ต่อมาได้ชื่อที่เรียกกันว่า “พรรคสามัคคีธรรม” แต่ผู้คนก็เรียกกันติดปากต่อมาว่า “พรรคทหาร”

สถานการณ์ช่วง “เผด็จการทหาร” ระเริงอำนาจอยู่นั้น นักการเมืองใหญ่หลายคนต้องถูกจำกัดบทบาททางการเมือง “อดีตนายกฯ น้าชาติ”ต้องลาออกจากทั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคพรรคชาติไทย โดยพรรคชาติไทยได้เชิญ พลอากาศเอก สมบุญ ระหงษ์ อดีตนายทหารอากาศ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการการท่าอากาศยาน ให้มาดำรงตำแหน่งแทน“น้าชาติ”

พรรคกิจสังคม ได้เลขาธิการพรรคคนใหม่ พลโท เขษม ไกรสรรณ์ เพื่อนสนิทร่วมโรงเรียนอำนวยศิลป์กับ พลเอก สุจินดา คราประยูร รวมทั้งบรรดารัฐมนตรีบางคนที่ได้รับการปล่อยตัวจากการประกาศอายัดทรัพย์และยึดทรัพย์ ก็ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคสามัคคีธรรมโดยพร้อมเพรียง ทั้ง นายประมวล สภาวสุ นายไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ และนายสันติ ชัยวิรัตนะ ฯลฯ

ขณะที่การตรวจสอบทรัพย์สิน นักการเมือง 10 คน คดี “ร่ำรวยผิดปกติ” อยู่ในระหว่างการพิจารณา ประกอบด้วย พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ นายเสนาะ เทียนทอง นายวัฒนา อัศวเหม พล.ต.อ. ประมาณ อดิเรกสาร นายปริญญา ช่วยปลอด นายสุบิน ปิ่นขยัน นายมนตรี พงษ์พานิช นายประมวล สภาวสุ และ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งนักการเมืองกลุ่มนี้ ล้วนถูก “กลุ่ม รสช.” จับไว้เป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองทางการเมืองเท่านั้น โดยขอให้ “นายกฯ ชาติชาย” เดินทางออกนอกประเทศ

สื่อมวลชนรายงานสาเหตุของการทำรัฐประหารครั้งนี้ว่า “นายทหารแกนนำกลุ่ม รสช.”ไม่พอใจรัฐบาล “นายกฯ ชาติชาย” เรื่องถูกครหาว่าทุจริตคอรัปชั่น อีกเรื่องหนึ่งก็คือ การแต่งตั้ง พล.ต.ต. เสรี เตมียเวส จปร. รุ่น 7 เพื่อนรุ่นเดียวกับ พล.ต.ต. มนูญ รูปขจร เข้ารับตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองปราบปราม อยู่ใต้บังคับบัญชาของ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ซึ่งก็คือ พล.ต.ท. บุญชู วังกานนท์ จปร. รุ่น 5 เพื่อนซี้ของกลุ่มทหาร รสช.

พล.ต.ท. บุญชู วังกานนท์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง เป็นผู้รับผิดชอบคดีลอบสังหารที่ “กลุ่มยังเติร์ก (จปร. 7)”พยายามลอบสังหาร พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ และ พล.อ. อาทิตย์ กำลังเอก ในปี 2524

เดือนกุมภาพันธ์ 2534 รัฐบาล พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ ได้เปลี่ยนตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ และได้เลื่อนตำแหน่ง พล.ต.ท. บุญชู วังกานนท์ ขึ้นเป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท. บุญชู วังกานนท์ ได้แสดงอาการ “แข็งข้อ” ต่อ “รัฐบาลชาติชาย” ด้วยการชะลอเรื่องการสอบสวน “คดีลอบสังหารฯ” และไม่ยอมส่งมอบสำนวนคดีให้กับ พล.ต.ต. เสรี เตมียเวช ที่ได้รับแต่งตั้งให้เข้ามารับผิดชอบแทน

แถมห้วงนั้นมีใบปลิวว่อนโจมตีผู้ใกล้ชิดรัฐบาล กรณีการโกหกเรื่องการลอบปลงพระชนม์ มี พล.ต. มนูญ รูปขจร กับ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ เป็น 2 เป้าหมายสำคัญของการถูกกล่าวหา ในกรณีที่เรียกกันว่า “คดีลอบสังหารเบื้องสูง”ของ“แกนนำกลุ่มทหาร รสช.”

เรื่องของ“อำนาจ”และ“ผลประโยชน์” ได้ทำให้ชายชาติทหารบางคนกลายเป็น “เด็กเลี้ยงแกะ” สันดานเหมือน “นักการเมือง” ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ“ทักษิณ ชินวัตร” นักการเมืองสันดาน “เด็กเลี้ยงแกะ” แห่งชาติ!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น