กว่า 7 ทศวรรษที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าพัฒนาองค์กร ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของวิกฤติโลกหลายยุคสมัย เพื่อให้เกิดจุดเปลี่ยน แนวคิดเชิงกลยุทธ์ ตั้งรับ ปรับตัว ปักหมุดหมายที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ นำมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม ในการขับเคลื่อน เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกกลุ่มได้ใช้ประโยชน์ของนวัตกรรมที่เข้าถึงผู้บริโภคในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ผ่านการนำเสนอคุณค่าของแบรนด์ในการสร้างวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มีความรอบรู้เท่าทัน สร้างธุรกิจที่ยั่งยืน และบทบาทการเป็นผู้เชื่อมต่อเส้นทางสู่การเข้าตลาดโลก ที่ทำให้เห็นถึงการช่วยเหลือ ยกระดับธุรกิจและขยายการเติบโตในตลาดต่างประเทศได้จริง จาก “Industry Economy”มาสู่“Value Economy” ปัจจุบัน การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงที่สร้างอนาคตใหม่ ที่เราเรียกกันว่า “Mega trends” กำลังเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของธุรกิจโลก ซึ่งจุดนี้สอดคล้องกับเปลี่ยนผ่านจากยุคสมัยของ “Industry Economy” คือยุคที่เน้นการผลิตสินค้า จำนวนมากเข้าสู่ตลาด แข่งขันกันด้วยมาตรฐานและคุณภาพของสินค้ามาสู่ยุคสมัยของ “Value Economy” ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่า และการสร้างแบรนด์มากกว่าแค่ประโยชน์จากสินค้าเพียงอย่างเดียว
งานนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ “ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์” ได้ถ่ายทอดมุมมองแนวโน้มในอนาคต (Global Market Foresight) เพื่อผลักดันให้ธุรกิจไทยเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้
“สำหรับการเปลี่ยนแปลงของ DITP ทั้งกลยุทธ์ และภาพลักษณ์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการก้าวทันโลกอนาคต เพราะโลกหมุนเร็วมาก เราจึงต้องก้าวตามให้ทันในการนำเสนอคุณค่าของแบรนด์ ให้กับผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ได้มีวิสัยทัศน์ในการขยายแบรนด์ไทย ส่งออกสู่ตลาดโลก โดยการมอบองค์ความรู้เกี่ยวกับเทรนด์ใหม่ ๆ ในตลาดโลก ซึ่งวิเคราะห์มาจากข้อมูลที่ได้รับมาจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 58 แห่งทั่งโลก รวมถึงช่องทางการค้าในตลาดต่างประเทศ และนำมาวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และอำนวยความสะดวกให้สามารถเข้าตลาดต่างประเทศได้จริง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการไทย เพิ่มความรู้ คาดการณ์เทรนด์ในตลาดต่างประเทศ พร้อมยกระดับพัฒนาธุรกิจให้เท่าทันในตลาดโลกได้ต่อไป”
ชูจุดแข็ง สร้างคุณค่าของแบรนด์ (Brand Value) ด้วยกลยุทธ์ 3 E อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือ การสร้างคุณค่าของแบรนด์ (Brand Value) ด้วยกลยุทธ์ 3 E ได้แก่
EXPAND บุกเบิกและเจาะตลาดต่างประเทศใหม่ ๆ ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยด้วยการสร้างสัมพันธ์ตามความสามารถของสำนักงาน ร่วมกับการสำรวจความต้องการสินค้าและช่องทางการค้าในตลาดต่างประเทศ ถือเป็นการเพิ่มโอกาสเติบโตสู่ตลาดโลก
ENABLER ทลายกรอบศักยภาพผู้ประกอบการ ด้วยข้อมูล องค์ความรู้เชิงกลยุทธ์ ข้อมูลเชิงลึกของตลาด และข้อมูลสนับสนุน ขับเคลื่อนให้ความฝันของผู้ประกอบการไทยเข้าตลาดต่างประเทศได้เป็นจริง
EMPOWER ปลูกฝังวิสัยทัศน์กว้างไกล มอบพลัง ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย ผ่านการชี้แนะ มอบภาพอนาคตให้เห็นถึงความสำเร็จทุกขั้นตอน ช่วยให้แบรนด์ได้พัฒนวิธีคิด
กลยุทธ์ที่จำเป็นของการแข่งขันในระดับโลก มุ่งสู่ความสำเร็จและการเติบโตแบบมั่นคง
สร้างจุดยืน สะท้อนคุณค่าของแบรนด์ที่ชัดเจน
ฟันเฟืองสำคัญของการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ของ DITP นั้น ได้มีการจัดกิจกรรมการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ภายในองค์กร (Internal Launch) สู่การเปลี่ยนครั้งใหม่ พร้อมยกระดับองค์กรสู่สากลไปพร้อมกัน ภายใต้การนำทัพของ ท่านอธิบดีฯ“ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์” ร่วมเสวนา แถลงภาพรวมการยกระดับ DITP ในหัวข้อ Why DITP Transformation เพื่อสื่อสารการขับเคลื่อนกลยุทธ์ใหม่ภายในองค์กร สู่สาธารณชน พร้อมไขรหัสความสำเร็จส่งต่อให้กับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างพร้อมเพรียงกัน เสริมทัพความแข็งแกร่ง จากทีมผู้บริหาร อาทิ “คุณจุลเกียรติ สินชัยชูเกียรติ” CEO & Founder ของ BARAMIZI GROUP ที่ปรึกษาด้านการสร้างสรรค์กลยุทธ์แบรนด์, “คุณกฤษณะ ธนะธนิต” กรรมการผู้จัดการ บริษัท GA 49 จำกัด ผู้เชี่ยวชาญการสร้างสรรค์ด้านงานออกแบบระบบอัตลักษณ์,
“ดร.กรกต อารมย์ดี” ศิลปินและนักออกแบบผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมร่วมสมัยระดับโลก ณ ห้องประชุม พาณิชย์สัมพันธ์ชั้น 11
วันนี้ DITP พร้อมเข้าสู่ทุกมิติใหม่ด้วยหัวใจหลักสำคัญนั่น คือการสร้างคุณค่าของแบรนด์ อันเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนตัวตน จุดยืนบ่งบอกความโดดเด่น ชัดเจนกับทิศทางในอนาคต เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกกลุ่ม สามารถเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง ทลายทุกข้อจำกัด ก้าวทันและสร้างแบรนด์ไทยเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน (Create Possibilities)