“แพรว เฌอมาวีร์” นางเอกคนสุดท้ายของ “อ๋อม” ยอมรับตกใจมากตอนที่รู้ข่าว เพราะยังถ่ายละครด้วยกันอยู่ แต่ทุกคนพร้อมใจปิดเรื่องนี้เป็นความลับ สารภาพเขินมากตอนที่ได้เล่นละครด้วยกันครั้งแรก เพราะเป็นแฟนคลับมานาน ชมฝ่ายชายก็เป็นสุภาพบุรุษและใจเย็นกับนักแสดงใหม่อย่างตนมาก รู้สึกผิดส่งเนื้อวัวไปให้ ทั้งที่อ๋อมไม่กิน ถ้ารู้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย จะส่งของที่ชอบไปให้ ดีใจได้ร่วมงานกัน
เรียกได้ว่าเป็นนางเอกคนสุดท้ายของพระเอกหนุ่มผู้ล่วงลับ “อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์” สำหรับสาว “แพรว เฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชค” ในละครเรื่อง สัจจะในชุมโจร (เสือสั่งฟ้า3) ซึ่งแม้จะมีการถ่ายทำไปเกือบจะจบแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนพระเอกกะทันหัน เป็นหนุ่ม “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม” เพราะอ๋อมเริ่มมีอาการป่วย ซึ่งสาวแพรว เผยว่าพอรู้ข่าวตอนนั้นยอมรับว่าตกใจมาก แต่ทุกคนในกองก็พร้อมใจกันปิดเป็นความลับให้
“ตอนนั้นถ่ายเรื่องเสือสั่งฟ้า ภาค 3 เป็นช่วงที่ใกล้ปิดกล้องแล้ว เหลือ 15-20% ละครเริ่มออนแอร์ไปตอนแรกแล้ว เอาจริงๆ เราเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่รู้ แต่ตอนนั้นเราแค่คุยกันภายในกอง เฉพาะกลุ่มจริงๆ ก็ตกลงกันว่าเราจะไม่มีใครพูดเรื่องนี้ออกไป ก็โชคดีที่ตอนนั้นมีพี่บิ๊กเอ็มมารับบทเป็นพระเอกต่อจากพี่อ๋อม ก็ทำงานต่อให้จบ ยอมรับว่าตกใจมาก ตอนนั้นเป็นช่วงโควิดระบาดด้วย คู่หลักและคู่รอง 4 คนทำท่าจะเป็นโควิดกันหมดเลย และพวกแพรวก็คิดว่าทุกคนเป็นโควิดแหละ ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดอะไรที่ร้ายแรงกว่าโควิด
ตอนนั้นแพรวก็เป็นโควิดก็หยุดกองไปอาทิตย์กว่า เรากลับมาก็คิดว่าจะเจอพี่อ๋อม แล้วพี่ในกองเลยเอาเราไปนั่งคุยว่ามันเกิดเรื่องนี้ขึ้น ตอนนั้นตกใจและใจหายมาก พี่พีอาร์กองที่สนิทกับพี่อ๋อม เขามาคุยกับแพรวและนักแสดงในกองว่าจะไม่มีใครพูดเรื่องนี้กันนะ นักแสดงและทีมงานทุกคนก็น่ารักมาก ให้เกียรติ คืองานมันเพิ่มแหละ แต่ไม่มีใครปริปากเลยสักคนค่ะ ตอนนั้นถึงจะฉุกละหุกหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้ แพรวไม่กล้ากวนพี่อ๋อมเยอะ ก็มีการส่งของขวัญไปให้นิดหน่อยและส่งของเยี่ยมไปให้ และพี่พีอาร์ของกองจะรับหน้าที่คุยกับทีมละครเสือสั่งฟ้า แล้วก็ส่งผ่านไปให้พี่อ๋อม”
สารภาพเป็นแฟนคลับมาก่อน และเขินมากตอนที่ได้มาเล่นละครด้วยกันเรื่องแรก
“ตอนที่ได้ร่วมงานกันดีมากๆ เลยค่ะ เอาจริงๆ แพรวเป็นเด็กโพลีพลัสมาก่อนกับพี่อ๋อม และละครเรื่องแรกในชีวิตของแพรว พี่อ๋อมก็เป็นพระเอก ตอนนั้นเป็นเรื่องชิงนาง เราเป็นนางรอง ประกบพี่อ๋อมด้วย คือตอนนั้นแพรวยังประมาณ 19-20 เพิ่งจะปี 1 ยังเล่นละครไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายเลย แล้วแพรวต้องอยู่พี่อ๋อมเยอะมาก พอๆ กับที่พี่อ๋อมอยู่กับพี่รถเมล์ (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) เลย แต่พี่อ๋อมไม่เคยโมโหหรือทำท่าทางอารมณ์เสียใส่แพรวเลยเวลาแพรวเล่นไม่ได้ ซึ่งตอนนั้นแพรวห่วยมากๆ เลย แต่พี่อ๋อมก็น่ารักคอยให้กำลังใจตลอด
แล้วตอนนั้นแพรวก็เขินพี่อ๋อมมาก เพราะชอบพี่อ๋อมจากพระจันทร์ลายพยัคฆ์ พอโพลีพลัสมีให้เวิร์กช็อปตัวละคร พี่อ๋อมผ่านมาก็มานั่งกินขนมดูแพรวเวิร์กช็อป แล้วก็ให้กำลังใจ เราก็เลยรู้สึกว่าพี่คนนี้เป็นพระเอกน่ารักมาก มีวินัย ทำงานเก่ง ไม่ถือตัวกับเด็กใหม่ เขาควรจะรำคาญด้วยซ้ำในวันนั้น เราก็เลยรู้สึกประทับใจมาก แล้วก็ไม่มีโอกาสร่วมงานกันเลย จนมาเสือสั่งฟ้า ซึ่งมาเป็นเรื่องสุดท้ายของพี่อ๋อมด้วย”
บอกเทวดามาเอาตัวเร็วไป เพราะยังหนุ่ม ยังมีแรง
“ความรักที่มีต่อพี่คนนี้ น้ำตาจะไหล เหมือนใจหาย เพราะเราโตมากับเขา ตอนที่เรายังไม่เข้าโพลีพลัส แพรวชอบพี่อ๋อมจากพระจันทร์ลายพยัคฆ์มาก กรี๊ดเป็นเอฟซีเลย แล้วพอเราได้มาร่วมงานกับเขาเราก็รู้สึกว่ามันเหมือนฝัน เราเคยชื่นชมเขาในจอทีวี แล้วเราได้ร่วมงานกับเขาจริงๆ จนวันนี้ยังรู้สึกว่าเขายังหนุ่มยังแน่น ยังมีแรง ก็รู้สึกว่าเทวดาเอาตัวพี่เขาเร็วเกินไป
สิ่งที่จะเอาเป็นต้นแบบจากพี่เขาก็คือความอดทนกับคนที่เป็นมือใหม่อย่างเรานี่แหละ คือต้องใจเย็นมากๆ ซึ่งพี่เขาก็เคยบอกแพรวว่าเขาก็เคยผ่านมาเหมือนกัน เขาเข้าใจทุกอย่างเลย บางทีร้อนๆ เหนื่อยๆ คนเรามันมีหลุดกันได้ แต่พี่อ๋อมไม่เคยหลุดเลย นับถือน้ำใจพี่เขามากๆ พี่เขาเป็นลูกผู้ชายมากๆ เลยค่ะ
เขาให้กำลังใจแพรวตลอดเวลา ยิ่งเขามาให้กำลังใจหนูยิ่งเขิน เพราะเราเป็นเอฟซีเขาไง ตอนเรื่องสุดท้ายเสือสั่งฟ้า แพรวทั้งร้อน ทั้งยม แต่พี่อ๋อมเหนื่อยกว่าแพรว 2 เท่า คือแพรวเล่นแค่พาร์ตดรามา แต่พี่อ๋อมมีทั้งพาร์ตดรามา ทั้งบู๊ แต่พี่เขาก็ยังหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสตลอด แพรวรู้สึกว่าสปิริตในการทำงานของผู้ชายคนนี้สุดยอดมากๆ”
ขอโทษที่ส่งเนื้อวัวไปให้ เพราะไม่รู้ว่าไม่ทาน ถ้ารู้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายคงไม่ทำ
“เรื่องเสือสั่งฟ้าก็จะอยู่ในความทางจำแพรวตลอดไปค่ะ เพราะตั้งแต่วันที่เรารู้ข่าว และเจนแพรวค่อนข้างห่างจากพี่อ๋อม แพรวก็ไม่กล้าส่งข้อความอะไรไปส่วนตัวเยอะ เราก็จะฝากพี่พีอาร์ไป ก็ได้ข่าวว่าพี่เขารักษาตัวดีขึ้น เราก็เป็นกำลังใจนะ เราก็อยากเห็นพี่อ๋อมกลับมาคืนจอค่ะ
ก็อยากบอกพี่อ๋อมว่า พี่อ๋อมวันนั้นที่หนูส่งของกินไปให้ หนูขอโทษนะที่หนูสั่งเนื้อวัวไป หนูไม่รู้จริงๆ ว่าพี่ไม่กินเนื้อวัวค่ะ รู้สึกผิดมาก แล้วพี่พีอาร์มาบอกทีหลัง ถ้ารู้ว่าจะเป็นการส่งของกินให้ครั้งสุดท้าย หนูก็จะส่งของที่พี่ชอบไปให้ค่ะ ก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับคนอย่างพี่ และยินดีที่ได้มีประสบการณ์ได้เป็นนางเอกของพี่ครั้งนึงในชีวิตค่ะ”