เป็นข่าวที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก กรณีการเลิกรากันของคู่รักคนบันเทิง “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” กับ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์”
ทั้งนี้หากฟังสิ่งที่ฝ่ายชายออกมาให้สัมภาษณ์ก็ต้องบอกว่าเป็นการพูดที่เต็มไปด้วยคำที่น่าสนใจมากมาย อาทิไม่ได้จบความสัมพันธ์ แค่ถอยกลับมาเป็นเพื่อนกัน, มันไม่ใช่ไปต่อไม่ได้ มันมีแต่ความหวังดีความจริงใจให้กัน, ทำไมตัดสินใจในช่วงที่เราดูมีความสุขมากๆ ผมก็บอกไม่หรอก บางอย่างมันอาจจะไม่มีเหตุผล, บางอย่างมันใช้เหตุผลไม่ได้ มันก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ฯลฯ
เอาจริงๆ ก็ต้องบอกว่าคำสัมภาษณ์ที่ออกมาก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากคู่รักบันเทิงคู่อื่นๆ ที่ต้องเปลี่ยนระดับความสำพันธ์กันสักเท่าไหร่ กล่าวสรุปคือ ไม่พูดถึงเหตุผลแบบตรงๆ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน, กลัวกระทบคนอื่น, เลิกทั้งที่ยังรัก, ไม่เคยเสียดายเวลา, ยังเป็นเพื่อนที่มีความสัมพันธ์และความรู้สึกที่ดี, เป็นเรื่องที่เราตกลงกัน 2 คน ไม่เกี่ยวกับบุคคลที่ 3 ฯลฯ
สิ่งที่แตกต่างก็คือถ้าเป็นคนอื่นพูดเชื่อว่าบรรดาขาเผือกเองฟังแล้วอาจชวนหงุดหงิด ไม่เห็นด้วย หากแต่กรณีนี้ต้องบอกว่าตรงกันข้ามเห็นได้ชัดจากความคิดเห็นต่างๆ ที่หลายคนแสดงถึงความเข้าอกเข้าใจผ่านข้อความการแสดงความเห็นใจและกำลังใจให้กับเจ้าตัวอย่างมากมาย
ถามว่าแปลกมั้ยก็ไม่แปลก ถามว่าเจ้าตัวพูดดีมั้ยก็ต้องบอกว่าดี
แต่ถ้ามองในมุมกลับยิ่งการพูดในทำนองโทษตัวเอง, ยิ่งแสดงให้เห็นว่าตัวเองต้องยอมสละความสุขมากเท่าไหร่ มันก็ทำให้ดูเหมือนว่าคนที่เกี่ยวข้องยิ่งดูเห็นแก่ตัวมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้ก็คงไม่พ้นผู้เป็นมารดาของเขาเองที่ถูกเพ่งเล็งมาตั้งแต่ต้น ทั้งๆ ที่เอาเข้าจริงๆ แทบไม่มีใครรู้เลยว่าจริงๆ แล้ว "ใคร" หรือ "อะไร" กันแน่ที่ทำนำมาซึ่ง "เงื่อนไข" ที่แต่ละคนต่างก็ยอมรับกันไม่ได้จนนำมาของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
ถ้าจะอ้างอิงถึงคำพูดของนักแสดงหนุ่มที่ระบุว่าการถอยกลับความสัมพันธ์ครั้งนี้จากประโยคที่ว่า... "ผมรู้สึกว่าที่ผ่านมา มันเป็นการบริหารจัดการของตัวผมเอง ซึ่งมันไม่มีใครที่ต้องโทษเลยนอกจากตัวผมเอง ที่ผ่านมาผม…เรียกว่าใช้คำว่าบาลานซ์ความสัมพันธ์ได้ไม่ดีเองนะครับ" ก็น่าสนใจทีเดียวว่าความหมายคืออะไร?
บาลานซ์กับแฟนไม่ดี บาลานซ์กับแม่ไม่ดี หรือบาลานซ์ระหว่างแม่กับแฟนไม่ดี ซึ่งถ้าเป็นกรณีหลังก็แสดงว่าทั้งแม่กับแฟนนั้นต่างก็มีเงื่อนไขที่ไม่สามารถจะเข้าใจและยอมรับกันได้จนให้ทำให้คนกลางที่เป็นลูกที่เป็นแฟนอึดอัด หาจุดลงตัวไม่ได้? จะอยู่กับแฟนแม่ก็ว่า จะไปกับแม่แฟนก็น้อยใจ แบบนี้หรือ?
หลายคนพากันแสดงความเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะแม่ฝ่ายชายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีชีวิตปากกัดตีนถีบมา ทำให้รักทำให้หวงลูกชายจนไม่อาจปล่อยได้ ขณะที่หลายคนออกแนวแนะนำสั่งสอนว่าคุณแม่ไม่รู้หรือว่าลูกชายของตัวเองโตแล้ว เขาก็ต้องไปมีชีวิตเป็นของตนเอง วันนึงตัวเองก็ต้องตาย จะไปยึดติดทำไม ฯลฯ
ตรงนี้ก็ต้องถามกลับบ้างว่าทำไมถึงไปคิดว่าคนที่เป็นแม่จะไม่รู้ถึงพัฒนาการของลูกชายตัวเองหรือความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น, ทำไมไม่มองบ้างว่าคนที่เชียร์อยากให้ลูกชายมีแฟนก็คือตัวแม่เองแถมสนับสนุนว่าผู้หญิงคนนี้แหละแม่ชอบ, ทำไมถึงไปคิดว่าคนเป็นแม่จะมีความสุขเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองไม่มีความสุขถึงขนาดมีน้ำตาออกมา ฯ
ที่สำคัญ ทำไมไม่คิดกลับบ้างว่าผู้หญิงที่ต้องลิ้มรสกับความผิดหวังและเสียใจเพราะผู้ชายที่เคยรักมาแล้วจะไม่เข้าใจในเรื่องความรักพอที่จะเอามาพูดคุยสั่งสอนลูกชายให้มีความเป็นสุภาพบุรุษ รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควรกระทำต่อคนรักของตนเองได้
เอาเป็นว่าถึงตอนนี้จะด้วยอะไรก็ตาม แต่คนที่น่าเห็นใจและต้องการกำลังใจไม่น้อยไปกว่า "นาย" และ "ใบเฟิร์น" ก็เห็นจะเป็นผู้หญิงที่ชื่อ "หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ" นี่แหละ