xs
xsm
sm
md
lg

“นาย ณภัทร” รับถอยสถานะ “ใบเฟิร์น” กลับมาเป็นเพื่อนอีกครั้ง (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นาย ณภัทร” เปิดใจเสียงสั่น ถอยกลับมาเป็นเพื่อนกับ “ใบเฟิร์น” วอนอย่าโทษแม่ บาลานซ์ความสัมพันธ์ไม่ดีเอง ใช้เหตุผลไม่ได้ ก็ปล่อยเป็นเรื่องเวลา ยันไม่มีมือที่สาม ยกใบเฟิร์นผู้หญิงที่ดีที่สุดในใจผม



ออกมาเปิดใจเต็มๆ ครั้งแรก สำหรับ “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” หลังจากที่มีข่าวลือกระหน่ำเลิก “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” สายฟ้าฟาด โดยนายได้นัดสื่อมวลชนอยากให้ฟังความจริงจากปากตนเอง ในวันนี้ (4 ก.ค.67) ยอมรับตอนนี้ถอยกลับมาเป็นเพื่อน พร้อมวอนอย่าโทษ “แม่หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ”บาลานซ์สัมพันธ์ไม่ดีเอง

“ขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้มากเลย น่ารักกันสุดๆ เลย แล้วก็ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา จริงๆ ที่ผมออกมาพูดในวันนี้ เพราะว่าผมอยากให้ทุกคนฟังจากปากผมเอง เพราะที่ผ่านมามันจะมีกระแสข่าว มีอะไรหลายอย่างที่ออกมา แล้วมันกระทบจิตใจของคนที่ผมรักทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของผม คุณแม่ หรือว่าครอบครัวของเฟิร์น ก็อยากให้ทุกคนได้ฟังจากปากผมเองดีกว่านะครับ ที่ผ่านมาเราก็อาจจะยังไม่ได้ออกมาทันที เพราะผมก็มีหน้าที่ของผมยังต้องทำงานปกติ แล้วก็อย่างที่แจ้งไป ว่าผมก็พยายามบริหารจัดการสิ่งที่มันเกิดขึ้น วันนี้ก็ได้ออกมาชี้แจงด้วยตัวเองแล้ว ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ให้กำลังใจ และรอวันนี้

จากสิ่งที่…เป็นกระแสข่าวก็ต้องพูดตรงๆ ว่าตอนนี้ผมกับเฟิร์น ก็ทำความเข้าใจแล้วก็ทบทวนตลอด ตอนนี้เราก็ได้ถอยกลับมาเป็นเพื่อนกันอะนะครับ ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่ารักนะครับ เราไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดอะไรเลยแต่ว่าเรามีแต่ความหวังดี ความจริงใจ มีแต่ความหวังดีที่มอบให้กันตลอดเลย วันนี้เราก็เลยโอเค ตัดสินใจถอยกลับมาเป็นเพื่อนกันครับผม

ถามว่าทำไมถึงตัดสินใจแบบนี้ คืออย่างแรกผมต้องบอกก่อนว่า เราสองคนให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องหน้าที่การงานของเราเป็นหลัก หลายๆ คนก็ทราบดีว่าเวลาเราทำงาน มีคนรอร่วมงานกับเราเป็นร้อยคน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ เราก็จะรู้สึกว่าหน้าที่ของเราสำคัญมาก่อนเสมอ ซึ่งอะไรที่มันกระทบหน้าที่ เราก็จะพูดคุยกันตลอดเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนมันมีข่าวออกไปหลายๆ อย่าง หลายคนก็จะเพ่งไปที่แม่ผมใช่ไหมครับ ซึ่งผมก็ต้องพูดตามตรงตรงนี้ ว่าผมรู้สึกว่าที่ผ่านมา มันเป็นการบริหารจัดการของตัวผมเอง ซึ่งมันไม่มีใครที่ต้องโทษเลยนอกจากตัวผมเอง ที่ผ่านมาผม…เรียกว่าใช้คำว่าบาลานซ์ความสัมพันธ์ได้ไม่ดีเองนะครับก็ประมาณนั้นแหละครับผม”

ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่คิดว่าต้องทบทวนความสัมพันธ์ มันเกิดขึ้นตอนไหน แต่ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความรักและความหวังดี
“ตอนไหนเหรอครับ (หัวเราะ) มันบอกไม่ได้ว่าตอนไหน แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันอยู่บนพื้นฐานของความรัก และความหวังดีที่มอบให้กันตลอด ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ (เราเคยหาคำตอบไหม ว่ามีวิธีไหนบ้าง ที่จะทำให้ความสัมพันธ์มันไปรอด ก่อนจะตัดสินใจจบแบบนี้?) คือผมเชื่อว่าบางเรื่อง มันอาจจะไม่ใช่เรื่องของเหตุผลแล้วแหละ แต่ตราบใดที่มันอยู่บนพื้นฐานของความรัก ความหวังดี ความเข้าใจกัน ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของเวลาแล้วละครับ

ยอมรับมีปัญหาเกิดขึ้นในครอบครัวมานานแล้ว แก้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ขอไม่ลงรายละเอียด
“คือจริงๆ ต้องบอกก่อนว่าครอบครัวผม ก็เหมือนครอบครัวปกติแบบหลายๆ คน เราอยู่กันสองคนมาตั้งแต่เด็ก แม่ผมก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เก่งมาก เลี้ยงสู้ชีวิตมากอย่างที่หลายๆ คนได้ติดตาม เพราะฉะนั้นมันมีปัญหาเกิดขึ้นในครอบครัว เป็นเรื่องปกติเหมือนครอบครัวทั่วไป ตัวผมเองก็มีปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วมันยังแก้ได้บ้าง แก้ไม่ได้บ้าง แต่มันเกิดขึ้นมานานแล้วละครับ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่อันนี้ผมจะขอไม่ลงรายละเอียด แล้วก็ขอให้มันเป็นสิ่งที่จะไม่ทำให้กระทบกับครอบครัว กับสภาพจิตใจ”

เลือกวิธีนี้ไม่ใช่เพราะไปต่อไม่ได้ รู้สึกโชคดีครั้งหนึ่งได้คบกัน
มันไม่ใช่ไปต่อไม่ได้ครับ มันมีแต่ความหวังดีความจริงใจให้กัน เฟิร์นเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากๆ ถ้าใครได้รู้จักเขาดี หรือติดตามมาตลอด เขาเป็นคนที่กตัญญูต่อครอบครัวมาก เป็นผู้หญิงที่เอาความรู้สึกคนอื่นมาก่อนตัวเองเสมอ แล้วก็…เขาเป็นคนเก่งครับทำงานอยู่ในวงการมา 20 กว่าปี มีแต่จิตใจดีที่มอบให้กับทุกคน แล้วผมโชคดีนะ ที่เราได้รู้จักกัน มาเป็นเพื่อนกัน ได้ลองคบกัน ได้อะไร

แล้วสุดท้ายมันก็มีแต่ความรู้สึกดีๆ มีแต่เมมโมรี่ดีๆ ที่เกิดขึ้น ทุกช่วงเวลาเป็นช่วงที่ดีมากๆ น่ารักมากๆ แล้วมาวันนี้ผมก็แค่รู้สึกว่า เราก็พูดคุยกันอย่างจริงใจ แล้วก็ใช้ความซื่อสัตย์ต่อกัน มีแต่ความหวังดี ไม่มีคำไหนนอกจากคำนั้นเลยก็ได้ตกลงกัน แค่ถอยกลับมาเป็นเพื่อนกัน แต่มันไม่ได้หมายความว่าในอนาคตเราจะลืม ว่าตอนนี้เราจะไม่ได้ส่งกำลังใจให้กันเลย เราจะไม่ได้คุยกันเลย มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ”

ขอไม่ลงดีเทลเรื่องไทม์ไลน์ แต่ถอยกลับมาเป็นเพื่อนหลังกลับมาจากทริปสวีต
“ก็หลังแหละครับ แต่ผมขอไม่ลงดีเทลเรื่องไทม์ไลน์แล้วกันเนาะ (อะไรที่เปราะบางที่สุดในการตัดสินใจครั้งนี้?) ผมว่ามันไม่มีอะไรเปราะบางนะครับ เพราะทุกอย่างมันเป็นความเข้าใจกัน อย่างที่ผมบอกไป ว่าทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจกัน เพราะฉะนั้นคนรักกันก็ต้องฟังและเข้าใจ แล้วก็เคารพการตัดสินใจของทุกคน เพราะมันเป็นเรื่องปกติมากเลยครับ แต่ว่าที่สำคัญก็นั่นแหละครับ มีแต่ความปรารถนาดีให้กันตลอด

ถามว่าทำไมตัดสินใจในช่วงที่เราดูมีความสุขมากๆ ผมก็บอกไม่หรอก บางอย่างมันอาจจะไม่มีเหตุผล แต่ว่าเราอยากเห็นคนที่เรารักมีความสุข มีแต่รอยยิ้ม เพราะฉะนั้นผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติของชีวิต มันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่เสมอเพราะอยู่ที่ใจเรา ว่าเราปรับตัวเข้าหามันยังไง เรายอมรับมันได้ไหม แต่ผมรู้สึกว่าผมก็ใช้ชีวิต โดยใช้หลักการเปลี่ยนแปลงของชีวิตอยู่เสมอ มันเป็นเรื่องปกติที่มันจะเกิดขึ้นได้”

สภาพจิตใจยังไม่โอเค แต่กำลังใจดี เพราะมีคนรอบข้างที่น่ารัก
“ถามถึงสภาพจิตใจ (หัวเราะ) ก็…ผมเชื่อว่าถ้ามันเกิดเรื่องแบบนี้ มันก็ไม่มีใครโอเคอยู่แล้วแหละ เป็นปกติของมนุษย์ที่จะเรียนรู้การเสียใจ แต่ทุกอย่างมันคือการเติบโตของคนคนหนึ่งที่มันจะต้องเจอ แล้วผมโชคดีที่มีกำลังใจดี มีคนรอบข้างที่น่ารัก มีทั้งคนรอบข้างฝั่งผมฝั่งเฟิร์น มีทุกคนที่มีแต่ความหวังดีและส่งกำลังใจให้เราทั้งคู่ ผมมองว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่มีค่ามากๆ เลยครับ

ถามว่าตอนนี้เราดูแลความรู้สึกตัวเองยังไง จริงๆ ผมยังคงต้องทำหน้าที่ต่อในทุกๆ วันครับ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เราล้มไม่ได้ เรื่องการดูแลความรู้สึก มันก็เป็นเรื่องของเวลา ทุกคนต้องมีเวลาให้ตัวเอง ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทบทวน ค่อยๆ ยอมรับ เพราะฉะนั้นผมมองว่า มันเป็นเรื่องปกติของชีวิตมนุษย์มากเลย”

คุยเรียบร้อยแล้วกับทั้งแม่และ “ใบเฟิร์น” ทุกคนเข้าใจดีกับการตัดสินใจแบบนี้
“คุยครับ ก็เข้าใจกันดีครับผม ถามว่าเรียกว่าจบความสัมพันธ์ทั้งที่ยังรักได้ไหม ไม่เรียกว่าได้จบความสัมพันธ์นะครับ (หัวเราะ) คืออย่างที่บอกว่าเราถอยกลับมาเป็นเพื่อนกัน เราไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดกัน เรายังส่งกำลังใจให้กัน (กลับมาอยู่ในเส้นเฟรนด์โซนเหมือนเดิม?) ก็เพื่อนครับ ถอยกลับมาเป็นเพื่อนก่อน อย่างที่ผมแจ้งทุกอย่างเลย เราไม่ได้โกรธเกลียด ไม่ได้ตัดขาดกันไปครับ วันนี้เขาก็รู้ครับว่าจะออกมาพูด ก็ส่งกำลังใจให้กันครับ ถามว่าจะได้เห็นโมเมนต์ความเป็นเพื่อนเหมือนเดิมไหม ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนอยู่เหมือนเดิมนะครับ ไม่เคยมีความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ก็ยังมีความหวังดี ยังต้องทำหน้าที่ให้กำลังใจกันตลอดครับ”

โอกาสรีเทิร์นเป็นเรื่องของอนาคต
“มันเป็นเรื่องของอนาคตครับ มันเป็นอะไรที่ตอบไม่ได้ ตัวผมเองก็ตอบไม่ได้ แต่วันนี้เราทำหน้าที่ของเราได้ดีที่สุดแล้ว ก็รู้สึกว่าเราต้องให้พื้นที่แก่กันและกัน มันเป็นสิ่งสำคัญมากเลยนะครับในความสัมพันธ์ แล้วที่ผ่านมาเรามีความเชื่อใจกัน ไว้ใจกันตลอด แล้วผมติดตามนะ เรื่องที่ถามว่ามีมือที่สามไหม วันนี้ผมจะพูดเลยว่าไม่มีแน่นอนครับ ตลอดที่เราคบกันมามันอบอุ่นมากเลย ไม่อยากให้ทุกคนเอาเรื่องนี้ไปวิพากษ์วิจารณ์กันต่อ ผมบอกตรงนี้เลย ว่าไม่มีอย่างแน่นอน”

เป็นเรื่องปกติที่ข่าวจะทำให้มีผลกระทบ
“มันเป็นเรื่องปกติของอาชีพผม แล้วทุกคนมีสิทธิ์ที่จะอ่านข่าวและมีวิจารณญาณ แต่ผมก็เชื่อนะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ถ้าเรามีทัศนคติที่ดีมัน จะโชว์ให้เห็นว่าเรามองสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรายังไงกันแน่ ในฐานะคนกลางที่ต้องจัดการเรื่องนี้ถามว่ายากลำบากยังไง ผมเชื่อว่าทุกคนมันต้องมีช่วงยากลำบากในชีวิต เกิดเป็นมนุษย์ต้องมีทุกข์มีสุขบ้าง แต่การเจอความยากลำบาก บางครั้งมันเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะมันกำลังบอกว่าเราได้เติบโตขึ้น เราไม่ย่ำอยู่ที่เดิม ผมมองว่ามันเป็นอุปสรรคในชีวิตที่หลายคนต้องเจอ แต่ว่าสุดท้ายอยู่บนพื้นฐานของความรัก ความเข้าใจ มันเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วครับ”

ที่ผ่านมาไม่เคยเสียดาย เพราะทำเต็มที่ที่สุดแล้ว
ที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกเสียดายเลยนะ เราใช้เวลาคุ้มค่าทุกวัน ทุกวินาที เลยจริงๆ มันมีความสุข มันแฮปปี้ทั้งคู่เลย แล้วก็ไม่มีอะไรเสียใจเลย เพราะว่าเราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว”

ยก “ใบเฟิร์น” เป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในใจ
“แน่นอนการมีความรักเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งเจอคนรักที่อบอุ่น มีความกตัญญู ซื่อสัตย์ จริงใจ พูดกันทุกเรื่อง มันเป็นสิ่งที่ดีแหละ มีแต่ความหวังดี ผมรู้สึกว่าทุกอย่างในชีวิตมันเป็นสิ่งที่ต้องเจอ ถึงแม้จะไม่ได้ดีไปทุกอย่าง แต่มันเป็นปกติของชีวิต มันทำให้โตขึ้น ผมก็เรียนรู้ไปกับเหตุการณ์ชีวิต เท่าที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นมาได้ เขาเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในใจผมเลยถามว่าจากนี้จะสามารถเจอกันหรือร่วมงานกันได้ไหม ผมเชื่อว่าปกติ แต่ว่าตอนนี้รอให้พื้นที่กันและกันครับ”

เสียงสั่นขอบคุณทุกกำลังใจและขอบคุณพ่อแม่ “ใบเฟิร์น” ที่เอ็นดูมาตลอด
“ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรา ทั้งเรื่องชีวิตส่วนตัวและเรื่องงานมาตลอด และเป็นกำลังใจให้ตลอด พวกเราแฮปปี้มีความสุขมากๆ เลย ขอบคุณคนรอบข้างพวกเราทั้งคู่เลย แล้วก็ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของเฟิร์น ที่เอ็นดูผมมาตลอดนะครับ (เสียงสั่น) ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความรักมันมีแต่ตวามเข้าใจกัน เพราะฉะนั้นบางอย่างมันใช้เหตุผลไม่ได้ มันก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลาแล้วละครับ”

เคลียร์ประเด็นขายรถหรู ไม่ได้เอาเงินไปเปย์ “ใบเฟิร์น” ซื้อมาขายไปเป็นเรื่องปกติ ขอหยุดวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ได้แล้ว
“คือผมอยากให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน แล้วก็ฟังจากปากผม เรื่องที่ผมขายรถ จริงๆ มันเป็นเรื่องปกติของชีวิตผมมาก คนชอบรถจะรู้กัน ว่าซื้อมาขายไป แล้วหลังๆ เรามีบ้าน เราก็อยากทำบ้านเราให้เสร็จด้วย แต่ว่าเรื่องที่บอกว่าผมเอาไปเปย์ผู้หญิง อันนี้อยากขอเคลียร์ก่อน เพื่อที่ให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน จริงๆ ผมโดนสอนมาให้เป็นสุภาพบุรุษตั้งแต่เด็ก เฟิร์นก็ทำงานมาตลอด 20 ปี เขาเป็นคนน่ารัก กตัญญูครอบครัวมาตลอด ส่วนเรื่องการดูแลผู้หญิงของผม ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติของผู้ชายที่ทำกัน แต่เฟิร์นเป็นคนที่แฟร์มาก เพราะฉะนั้นไม่อยากให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ข่าวนี้ออกไปอีกต่อไปนี้ขอให้เป็นกำลังใจให้กันและกัน แล้วก็ขอให้มอบแต่สิ่งดีๆ ให้กัน

แล้วก็ฝากเป็นกำลังใจให้ทั้งผมและเฟิร์นแหละ แล้วก็เดี๋ยวรอฟังเฟิร์นออกมาพูดว่ายังไง ต่อไปนี้ก็ขอให้ทุกคนมีทัศนคติที่ดี มอบความรักให้กันและกันครับ”













กำลังโหลดความคิดเห็น