หากพ่อแม่เริ่มสังเกตอาการต่างๆ ในลูกน้อยว่าเริ่มจาม มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ตลอดไปจนถึงอาจจะมีผื่นขึ้นตามตัวเรื้อรังเป็นเวลานานก็ขออย่าให้ชะล่าใจไป เพราะนั่นอาจจะเป็นภาวะ ‘ภูมิแพ้เด็ก’ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด แต่หลายๆ สิ่งเกี่ยวกับภูมิแพ้เด็กที่พ่อแม่ควรทราบเอาไว้เป็นข้อมูลพื้นฐานจะมีอะไรบ้าง บทความนี้มีข้อมูลดีๆ มาฝาก
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภูมิแพ้เด็ก
มาเริ่มต้นกันที่ต้นเหตุของการเกิดภูมิแพ้เด็ก ซึ่งอาจมาจากปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางด้านพันธุกรรม คนในครอบครัวเคยมีประวัติการป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ เมื่อมีลูกแน่นอนว่าย่อมเกิดการส่งต่อทางพันธุกรรมทำให้เกิดภูมิแพ้เด็กได้ และอีกหนึ่งปัจจัยก็คือสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบนอก หากรักษาความสะอาดไม่มากเพียงพอ ปล่อยให้ที่อยู่อาศัยมีไรฝุ่น ควัน หรือแม้แต่ขนสุนัขหรือแมวก็มีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้เด็กได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นพ่อแม่ไม่ควรมองข้ามสิ่งเหล่านี้ หากเป็นไปได้ก็แนะนำให้เสริมภูมิคุ้มกันอย่าให้ขาด จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือนม ทำให้เด็กห่างไกลภูมิแพ้เด็กได้มากที่สุดนั่นเอง
ประเภทต่างๆ ของภูมิแพ้เด็ก
จากอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นซึ่งบ่งบอกแน่ๆ แล้วว่าเป็นภูมิแพ้เด็ก อย่างไรก็ตามคำว่าภูมิแพ้เองก็ยังแบ่งแยกออกได้เป็นหลายๆ ประเภท ที่พบได้บ่อยในเด็กส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหอบหืด ภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ผิวหนังหรือลมพิษ ภูมิแพ้อาหาร ตลอดไปจนถึงภูมิแพ้ที่ทำให้เยื่อบุตาอักเสบได้ ซึ่งประเภทต่างๆ ของภูมิแพ้เด็กนั้นอาจเกิดขึ้นได้ ต่างคนก็อาจจะต่างประเภทกันออกไป วิธีการรักษาก็ย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย ทางที่ดีแนะนำให้พ่อแม่พาลูกไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินอาการและวางแผนการรักษาภูมิแพ้เด็กจะดีกว่า ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
มีวิธีการรักษาหรือไม่?
ปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการทางด้านการแพทย์ในประเทศไทยที่ไม่น้อยหน้าประเทศไหนๆ วิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการฉีดวัคซีนโรคภูมิแพ้ รักษาได้โดยเฉพาะในโรคแพ้อากาศและโรคหืด เพื่อให้สารกระตุ้นดังกล่าวเข้าไปสร้างปฏิกิริยาตอบสนอง จากนั้นอาการภูมิแพ้ก็จะค่อยๆ ลดน้อยลงไป ซึ่งการฉีดวัคซีนเพื่อรักษาภูมิแพ้เด็กนั้นควรทำทุกสัปดาห์ต่อเนื่องกันไปอย่างน้อยๆ 3-5 ปี
ในท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและรับยาเพื่อรักษาอาการภูมิแพ้เด็ก อีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีที่สุดคือความใส่ใจของพ่อแม่ หมั่นพาลูกมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ ปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของลูกให้มีอากาศถ่ายเท ปราศจากฝุ่นละออง ฝุ่นควัน ฯลฯ ก็จะมีส่วนช่วยให้อาการภูมิแพ้เด็กของลูกค่อยๆ ทุเลาลงและใช้ชีวิตได้ตามปกติมากที่สุดเมื่อโตขึ้นนั่นเอง