xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.โด่ง องอาจ - บริษัททัวร์” ฟ้องแหลก “แอน JKN” เรียกค่าเสียหาย หลัก 10 ล้าน! ปกป้องชื่อเสียง - นามสกุล - วิชาชีพ (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บ.ไทย เดสติเนชั่น” แถลงฟ้อง “แอน จักรพงษ์” หมิ่นประมาท และพ.ร.บ.คอมบ์ฯ ยันเรียกร้องแค่ 2 บิลเท่านั้น ยอดรวมกว่า 7 แสน แต่นาน 7-8 เดือนไม่ตอบจะจ่ายหรือไม่จ่าย ส่งแค่รูปเช็คซึ่งอ้างว่าเซ็นแล้วมาให้ แต่ไม่เคยได้รับของจริง โต้เป็นบริษัททัวร์ปลอม ทำมา 14 ปีมีใบอนุญาตถูกต้อง ขณะที่ “ดร.โด่ง องอาจ” ลั่นฟ้องรักษาชื่อเสียงและนามสกุล กล่าวหาด้วยข้อมูลไม่จริง เหมือนฉีกกระดาษแล้วโปรยใส่อากาศ พาดพิงแรงเรื่องอาชีพ สองเคสรวมกันค่าเสียหายกว่า 8 หลัก

วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก “นางสาววไลลักษณ์ เนียนขาว” หรือ “ฝน” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เดสติเนชั่นพร้อมด้วย “ดร.โด่ง องอาจ สิงห์ลำพอง”และทนาย ได้ยื่นฟ้องต่อศาล คดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อ “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ภายหลัง แอน JKN ได้ให้ข้อมูลต่อสาธารณะและสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หลังจากที่ทางบริษัททัวร์เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีให้สำรองจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินนางงามจักรวาลและผู้บริหาร จำนวน 784,345 บาท เมื่อติดต่อทวงถาม ก็ถูกปฏิเสธจากผู้บริหาร รวมทั้งตัวของ แอน จักรพงษ์ เอง

ภายหลัง นางสาววไลลักษณ์ และ ดร.องอาจ ได้ยื่นคำฟ้องและศาลประทับรับฟ้องเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ยันเรื่องที่คู่กรณีอ้างไม่ได้เซ็นสัญญา ขอไปคุยในชั้นศาล พร้อมเรียกค่าเสียหายรวมกันประมาณ 8 หลัก

คุณฝน : “เริ่มมาจากวันที่ได้เห็นเฟซบุ๊ก ที่ทางคุณแอนโพสต์หมิ่นประมาท ว่าบริษัททัวร์ปลอม บริษัทเก๊ โจรกระจอก วันนี้ก็เลยมาฟ้องหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ เราเป็นบริษัทที่รับงานโดยตรง และทำจนทัวร์เสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ที่ไปเอลซัลวาดอร์ คือตอนแรกตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ทางดร.องอาจ ได้เรียกบริษัททัวร์มาทั้งหมด 3 บริษัท ฝนก็เป็นหนึ่งในบริษัทนั้น เข้ามาประชุมกัน แล้ววันที่ 20 เมษายนของปีที่แล้ว ทางคุณโด่งได้ติดต่อมา ตอนนั้นฝนอยู่อเมริกา คุณโด่งก็บอกว่างั้นให้ประชุมผ่านทางซูมกับคุณแอน จักรพงษ์ ซึ่งวันนั้นคุณแอนบอกว่าถ้ากลับมาไทยแล้ว ให้รีบเข้าไปคุยกันที่บริษัท ก็ได้มีการเข้าไปกันที่บริษัทวันที่ 27 เมษายน พอหลังจากวันนั้น มันเป็นการคุยกันจบเรียบร้อยแล้ว ว่าจะเป็นโปรแกรมทัวร์แบบไหน แล้วก็พูดกันด้วยวาจา ว่าฉันใช้บริษัทคุณตั้งแต่วันนั้นค่ะ

ส่วนที่เขาบอกว่าไม่ได้เซ็นสัญญา คือจริงๆ ตรงนั้นเดี๋ยวเราไปคุยกันในชั้นศาล ซึ่งระหว่างนั้นทางทีมกฎหมายของบริษัท JKN ได้มีการส่งสัญญามาให้ทางเรา มีกระบวนการเช็กเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นลายเซ็น จดทะเบียนบริษัท เกี่ยวกับการทำงานของเรา เขาเช็กหมดเรียบร้อยแล้วเหมือนกับเราได้ผ่านขั้นตอนนั้นไปแล้วเรียบร้อยแล้ว ทางเราได้เซ็นไปแล้วเรียบร้อยค่ะ
เรื่องค่าใช้จ่าย ในสัญญาระบุไว้ว่า หลังจากหักค่าใช้จ่าย ก็คือ 60:40 ค่ะ ทางบริษัท ไทย เดสติเนชั่น จะได้ 40 เปอร์เซ็นต์ค่ะ (ผลกระโยชน์หลังจากจบงาน ได้ตามสัญญาไหม?) วันที่เราไปร้องกับสื่อ เราไม่เคยพูดในเรื่องผลประโยชน์ของทัวร์เลย เราพูดในเรื่องว่าคุณช่วยจ่ายเงินที่เราสำรองไป ไม่ว่าจะเป็นค่าตัวตั๋วนางงาม ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว กลุ่มนางงามประเทศ อินเดีย บาเรนห์ ออสเตรเลีย ไอซ์แลนด์ อเมริกาใต้ และผู้บริหาร Miss Universe Organization พอเราสำรองให้ เราก็เรียกถามไปว่าเมื่อไหร่จะจ่ายเพราะตั้งแต่เดือนสิงหาคม กันยายน จนมันครบกำหนดเช็ค เราพยายามเรียกร้องถามเรื่องนี้ เขาก็บอกว่ายังไม่ได้เคลียร์เรื่องทัวร์ แต่จริงๆ แล้วเรื่องทัวร์ เราได้ส่งเอกสารต่างๆ เรียบร้อยแล้ว เราไม่ได้รีบอะไรเลย ก็ให้เรามีเวลาในการตรวจเอกสารไป เราแค่ขอเช็ค 2 ใบที่เขาออกมาให้แล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นจากตรงนี้
เรื่องที่ไปทัวร์ลูกค้าไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ลูกค้าแฮปปี้ ทัวร์ทุกอย่างมันจบเรียบร้อยแล้วดีหมด เพราะเอกสารเราก็ส่งให้ตรวจหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย หรือว่าตรงไหนที่เขาแย้งว่าไม่มีบิล เมื่อวันที่ 5 เราก็เข้าไปคุย อย่างเรื่องค่าทิปตำรวจ ทิปพนักงานยกกระเป๋า ทิปอื่นๆ ใช้วิธีไหน เพราะว่าคุณเป็นบริษัทมหาชน ต้องมีรูปแบบอย่างไร เขาให้ทำเป็นเมมโม แล้วก็แนบภาพมาด้วย ว่าคุณจ่ายให้ใครแบบไหน ซึ่งเราทำให้ตรวจทั้งหมดค่ะ

ส่วนที่เรียกไปก่อนหน้านี้ คือค่าพีอาร์นางงาม มันไม่เกี่ยวกับเรื่องทัวร์ เราเข้าใจว่ามีขั้นตอน เพราะฉะนั้นแค่ของ 2 บิลที่เราสำรองไปเป็นยอด 784,000 บาท เราขอแค่ 2 บิลนี้ เพราะมัน 7-8 เดือนแล้ว ทางนั้นก็ไม่มีการตอบกลับมาว่าจะจ่ายหรือไม่จ่ายมีแค่ส่งรูปเช็คมา เป็นรูปเช็คที่มีการเซ็นแล้ว แต่ไม่ให้เราเข้าไปรับเช็คค่ะ”
ลั่นทำบริษัททัวร์ 14 ปี มีใบอนุญาต
คุณฝน : “บริษัท ไทย เดสติเนชั่น เปิดมา 14 ปี (โชว์ในอนุญาต) ถ้าเราเป็นบริษัทที่ไม่มีใบอนุญาต เราจะไปรับงานของ JKN ได้ยังไง จะไปดูแลพาร์ตเนอร์เขาได้ยังไง”
ดร.โด่ง องอาจ ฟ้องรักษาชื่อเสียงและนามสกุลตัวเอง ยัน 33 ปี่ไม่เคยมีปัญหากับใคร
ดร.โด่ง : “ผมทำงานในอุตสาหกรรมสื่อไม่ต่ำกว่า 33 ปี ผมไม่เคยมีปัญหากับใคร อันนี้เป็นการขึ้นศาลของตัวเองครั้งแรก ที่มาครั้งนี้เพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเอง และรักษาสิทธิ์ที่เสียไป ที่เกิดขึ้นจากการที่ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ กล่าวอ้างพาดพิงทั้งหมด เพื่อรักษาชื่อเสียงของเรา

ประเด็นคือวันนี้มายื่นฟ้องหมิ่นประมาทเพื่อการโฆษณา และเพื่อรักษาชื่อเสียงของตัวเอง ที่มาวันนี้มี 3 ประเด็นด้วยกัน ประเด็นที่ 1 เพื่อรักษาชื่อเสียงและนามสกุลตัวเอง ที่ถูกพาดพิง ประเด็นที่ 2 ผมมาเพื่อทุกคนในวิชาชีพสื่อ เราเชื่อว่าเรามีความเป็นมืออาชีพในการทำงานไม่ว่าเราจะทำธุรกิจไหนก็แล้วแต่เรื่องการได้มา หรือการเสียผลประโยชน์ เป็นเรื่องของสถานการณ์และสภาพแวดล้อม และบริบทต่างๆ

อีกประเด็นคือทุกคนทราบว่าผมเป็นอาจารย์สอนหนังสือ ที่ผมออกมาเพื่อให้คนที่เขาเป็นลูกศิษย์ และคนที่นับถือเชื่อฟังในคำสอนเรา ให้เขาเข้าใจ และเขากล้าออกมาทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผมมองอย่างนี้ว่า คำหมิ่นประมาททั้งหมด มันเหมือนกับการฉีกกระดาษทีละชิ้น คุณพูดหนึ่งคำคุณฉีกหนึ่งชิ้น คุณพูด 2 คำ คุณฉีก 2 ชิ้น มันก็ย่อยขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณพูดจบ กองกระดาษนั้นมันจะใหญ่แค่ไหน สุดท้ายเมื่อคุณพูดจบ คุณก็โปรยมันในอากาศสุดท้ายมันก็ฟุ้งกระจายไปทั่วเมือง ผมในฐานะคนที่ถูกกล่าวถึงซึ่งเป็นข้อมูลไม่ถูกต้อง ผมไล่เก็บไม่หมด แล้วถ้าวันหนึ่งเศษกระดาษพวกนี้ย้อนกลับไปที่เขา ผมเชื่อว่าเขาก็เก็บไม่หมดเหมือนกัน การที่เรามาวันนี้เพื่อยื่นฟ้องหมิ่นประมาทเพื่อการโฆษณา สองชี้แจงข้อเกิดขึ้นทั้งหมด และรักษาสิทธิ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด”
ลั่นไม่เกี่ยวกับโปรเจกต์ทัวร์นางงาม เพราะไม่ใช่หน้าที่ แต่เหมือนงานที่ให้ความช่วยเหลือ โชคไม่ดีของโปรเจกต์ ใช้ผู้บริหาร 5 คน เข้าๆ ออกๆ จนคนสุดท้าย
ดร.โด่ง : “ที่กล่าวพาดพิง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องในมุมของชื่อเสียง ในการที่เราอยู่ในวิชาชีพสื่อ ว่าเราไม่รับผิดชอบ เรามองเหมือนที่คุณฝนเรียกไป ว่าตอนที่เราเข้ามาทำงานโปรเจกต์ Hello Universe Tour เราได้รับคำสั่งมาว่าให้เลือกบริษัทมา 3 บริษัท แต่ถามว่าการว่าจ้างของเราจริงๆ มันไม่ใช่หน้าที่นี้ เรามีหน้าที่บริหารช่อง JKN18 และดูแลผลิตภัณฑ์ในเครือทั้งหมด อันนี้มันเป็นเหมือนงานที่ให้ความช่วยเหลือ กับธุรกิจใหม่ที่มันเกิดขึ้น แล้วก็ยังไม่มีใครช่วยหลัก

ทีนี้หลังจากเราได้ตัวของบริษัททัวร์เข้ามาบริหารงานใน Hello Universe Tour แล้ว มันก็จะมีเจ้าภาพที่ชัดเจน หลังจากนั้นก็จะมีเจ้าภาพที่เป็นผู้บริหารทัวร์ ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งเรื่อยๆ แต่โชคไม่ดีของโปรเจกต์นี้ คือมันใช้เวลาค่อนข้างนาน และใช้ผู้บริหารทั้งหมด 5 ท่าน เข้า-ออกๆ กระทั่งท่านสุดท้าย จนถึงวันที่พาลูกทัวร์ทั้งหมดไปที่เอลซัลวาดอร์ครับ แต่ระหว่างทางทั้งหมด ผมไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับโปรเจกต์นี้ นอกจากได้รับฟัง ได้ยินผ่านหูบ้าง เพราะมันไม่ได้เป็นความรับผิดชอบของเรา ซึ่งหลักฐานทั้งหมดที่เกิดขึ้น เราสามารถเอามาชี้แจงในศาลได้ครับ”

ถามแอน จะฟ้องอะไรตน 10 ล้าน
คุณฝน : “สำหรับวันนี้ใช่ค่ะ (ที่เขาจะฟ้องกลับ 10 ล้าน มีการคุยอะไรไหม?) ไม่มีใครมาคุยอะไรนะคะ เขาบอกว่าจะฟ้อง แต่ก็จะฟ้องอะไรคะ เพราะว่าข้อที่หนึ่ง คือในเรื่องของเช็ค เราก็มีเช็คจริงๆ ว่าคุณไม่จ่าย มีบิลอินวอยจริงๆ ที่ไม่จ่าย อย่างที่สองคือเราไปทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง คือการที่เราไปเรียกร้องความถูกต้อง ว่าเราทำงานไป เราก็ไม่ได้รับเงิน ไม่ได้รับอะไรเลยตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 จนกระทั่งเดือนธันวาคม 2566 เราก็ไม่ใช่แค่คนเดียว พนักงานในบริษัทอีกตั้ง 3 คนที่มาดูแลโปรเจกต์นี้ เท่ากับว่าเราเสียเงินกับโปรเจกต์นี้เยอะเหมือนกัน ซึ่งถ้าสำรองจ่ายเนี่ย ของเช็คค่าตั๋วนางงาม ประมาณ 784,000 บาท แต่สำหรับทัวร์ เป็นตัวเลยที่ยังตกลงกันไม่ได้ แต่ตัวเองที่เราส่งไปก็ประมาณ 7 แสนกว่าบาทเหมือนกัน ก็เลขตีเป็นตัวเลขกลมๆ ประมาณล้านกว่าบาทค่ะ แต่เราก็บอกว่าโอเค เลข 7 แสนนั้นพักไปให้คุณตรวจสอบ แค่ขอเช็คที่คุณทำจ่ายมา แต่เรายังไม่ได้เงินเท่านั้นเองค่ะ”

ฟ้องรวมสองคน 8 หลัก ขอไปจบที่ศาล
ดร.โด่ง : “คือจริงๆ ก็มีการคุยกันอยู่แล้ว ก็ค่อนข้างหลายล้านอยู่ ขอไปจบกันที่ชั้นศาล”

คุณฝน : “(โชว์หลักฐานหน้าเช็ค) อันนี้คือรูปหน้าเช็คค่ะ ออกมามีลายเซ็นเรียบร้อย ถึงบริษัทเรา จากบริษัทเขา ยอดเท่าไหร่ เช็คนี้คือเวลาเราทวงถาม เขาก็ส่งมาให้ทางไลน์ ว่ากำลังจะเอาเงินเข้าให้ รอแป๊บหนึ่ง คือมันยังไม่ใช่เช็คเด้ง เพราะเรายังไม่จับเช็คใบนี้เลย เห็นรูปภาพค่ะ เราก็พยายามเรียกร้อง ว่าเราขอแค่ยอดนี้นะ 784,000 บาท ยอดอื่นไม่เป็นไร ค่อยว่ากันทีหลังค่ะ”
ดร.โด่ง : “เราฟ้องแยกครับ ของเราเป็นหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา”

คุณฝน : “หมิ่นประมาทเหมือนกันค่ะ พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ เพราะมีการโพสต์ด่า ไม่ว่าจะเป็นชื่อบริษัท หรือชื่อของฝนเอง มันทำให้เสื่อมเสียชื่อเสีย เพราะว่าเราทำธุรกิจทัวร์มาเป็น 10 กว่าปี ทำอาชีพเดียว มันทำให้ลูกค้าที่ทราบว่ามีปัญหานี้ ก็คิดแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาโพสต์เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 ค่ะ โพสต์ต่อเนื่องทุกวัน 30 - 3 กุมภาพันธ์ ถ้ารวมค่าเสียดายสองคนก็หลักหลายล้าน เพราะว่าอย่างน้อยถ้าเกิดมีการสู้คดีก็เป็นปี กว่าเราจะพิสูจน์ตัวเองได้ ว่าเราไม่ได้ผิดกับเรื่องนี้ มันก็ต้องใช้เวลา วันนี้ก็เลยฟ้องอาญาค่ะ”

ดร.โด่ง : “ของผมเท่าไหร่ไม่รู้ แต่วิธีการคำนวณ คือก็ต้องลองคำนวณว่าถ้าเราทำงาน 10 ปีข้างหน้า ทั้งหมดบวกลบคูณหาร มูลค่ามันจะประมาณเท่าไหร่ (ของเราที่ฟ้อง เกี่ยวกับประเด็นที่ออกจาก JKN ด้วยไหม?) ไม่เกี่ยว เกี่ยวแค่ว่าในมุมของเขา ที่กล่าวให้ร้ายให้โทษเราต่อบุคคลที่สามคือสาธารณะ อันที่หนึ่งคือเรื่องของอาชีพ เป็นผู้บริหารที่ไม่มีความรับผิดชอบอย่างที่บอกเราทำงานกับบริษัทแรก ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว เราทำที่นั่นมา 30 ปี ผมเชื่อว่าผู้บริหารระดับสูงที่นั่น ก็คงมองเห็นศักยภาพในการทำงานของเรา การที่อยู่มาได้ขนาดนั้น ผมว่ามันก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง นั้นคือส่วนหน้าที่การงาน ส่วนของวงการวิชาการ ก็ได้เอ่ยถึงการเป็นครูบาอาจารย์ของเรา ที่ค่อนข้างพาดพิงอย่างรุนแรง จริงๆ ซีเรียสที่สุดก็คือเรื่องนั้น เรามีหลักฐานพิสูจน์อยู่แล้วว่าเราทำอะไรมาบ้าง”
คุณฝน : “2 เคสรวมกันก็น่าจะ 8 หลักค่ะ พูดเองนะคะ”

ดร.โด่ง : “ของเราก็น่าจะประเด็นเดียว ส่วนของคุณฝนไม่ทราบ”

คุณฝน : “ของฝนจะเป็นศาลอาญา แล้วก็ศาลแพ่งค่ะ”

ยันไม่เคยคุยกับแอน อีกฝ่ายก็ไม่เคยติดต่อ
ดร.โด่ง : “ไม่มีการพูดคุย ผมได้อ่านข้อพาดพิงที่บอกว่าพยายามติดต่อผม แต่ผมก็มีหลักฐานว่าเราไม่เคยติดต่อกัน ตั้งแต่ผมลาออกเมื่อ 31 ธันวาคม 2566 พ้นสภาพพนักงาน 1 มกราคม 2567 ก็ไม่ได้มีการติดต่อใดๆ มาถึง คือเบอร์โทรศัพท์มีอยู่แล้วครับ แต่ไม่ได้มีการติดต่อมา ผมก็มีหลักฐานที่จะให้ดูอยู่แล้ว ที่มาวันนี้ไม่เกี่ยวกับโพสต์เมื่อเช้าของเขา น่าจะคนละประเด็นกัน ถ้าอ่านแบบคนอ่าน ไม่เกี่ยวกับคนทำงาน ก็คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องทีมที่นิวยอร์กมากกว่า”





















กำลังโหลดความคิดเห็น