xs
xsm
sm
md
lg

“เชียร์” จำเป็นต้องพูด สาเหตุเลิก “ไฮโซบิ๊ก” เหมือนจิ๊กซอว์ที่ไม่พอดีกัน ยังรักแต่ไม่ใช่รูปแบบเดิม (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จำเป็นต้องพูด “เชียร์ ฑิฆัมพร” เผยสาเหตุเลิก “ไฮโซบิ๊ก” เหมือนจิ๊กซอว์ที่ไม่พอดีกัน แต่ยันที่ผ่านมาดีทุกเรื่อง ไร้ระหองระแหง แต่เลือกเป็นฝ่ายเริ่มคุยก่อนเพื่อมองหาการแก้ไข แต่สุดท้ายเลือกจบรัก ลั่นบิ๊กยังเป็นคนที่ตนรัก แต่ไม่ใช่รูปแบบเดิม “ที่ยักเอ้ย” เก็บไว้เป็นความทรงจำ เข้าไปดูได้ตลอด ไม่ปิดช่อง

หลังจากวงในออกมาเผยว่า ตอนนี้ “เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” ได้เลิกรากับหวานใจ “ไฮโซบิ๊ก ธนพนธ์ เบญจรงคกุล”ไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงมิตรภาพที่ดีต่อกัน ล่าสุดเชียรก็ได้ออกมาเปิดใจอีกครั้งด้วยตัวเองถึงสาเหตุเลิก

“ตอนนี้ไม่มีคู่ค่ะ ตัดสินใจร่วมกัน เป็นการคุยกันครั้งแรกเลยด้วยซ้ำถึงความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ แต่ขออนุญาตแก้ข่าวนิดนึงที่ก่อนหน้านี้มีข่าวระหองระแหงอันนั้นไม่มีอะไรนะ ความสัมพันธ์ดีมาโดยตลอด คู่รักมาดเท่ไม่ใช่คู่เรา ส่วนประเด็นอันฟอลโลว์กัน ต้องบอกว่าส่วนตัวเชียร์ไม่ได้คอมมิตสเตตัสที่การฟอลโลว์กัน เราไม่ได้ฟอลโลว์เขาทางอินสตาแกรมมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เราติดต่อกันทางอื่น อย่างเฟซบุ๊ก ก็ไม่รู้ไปเป็นประเด็นว่าเราอันฟอลโลว์กันได้ยังไง ตอนนั้นมันไม่มีอะไร ความสัมพันธ์ยังดีมากๆ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องมือที่สาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวันนี้คือชัดเจนแล้วว่าเรายุติความสัมพันธ์กับการเป็นแฟนกัน”

การยุติความสัมพันธ์เริ่มจากตนเปิดใจคุยกันถึงปัญหาที่ต่างฝ่ายต่างเก็บสะสมไว้ในใจ ที่คุยต้องการแก้ปัญหาไม่ได้คิดจะจบความสัมพันธ์
“เหมือนคนเราต้องตรวจสุขภาพ เหมือนเรายังแข็งแรงแต่เราต้องตรวจสุขภาพว่าข้างในเรามันแข็งแรงจริงไหม เช่นกันกับความสัมพันธ์ที่มันเดินทางมา 4 ปีกว่า เกือบ 5 ปี มันจะต้องไปอีกสเต็ปนึงแล้ว เราต้องตรวจสุขภาพของความสัมพันธ์นี้เช่นกันว่าเรายังโอเคกันจริงๆ ไหม มันเป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ ที่อาจจะไม่ได้มีความพอดีกัน เป็นจิ๊กซอว์ที่อาจจะไม่ได้พอดีกันแค่นั้นเองค่ะ ก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะแต่ว่ามันไม่ได้มีอะไรไม่ดีเลยในการใช้คำว่าเลิกรา ก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ ต่อกัน

ความพอดี ไม่พอดี เชียร์ว่ามีกันทุกคู่ ก็พบว่ามันมีบางจุดที่เราเคยจะก้าวข้ามผ่านมาในความไม่พอดีบางอย่าง แต่ ณ วันนี้บางสิ่งเราเลือกที่จะเรียกว่าปรับตัวมาแล้ว แต่การปรับในบางอย่าง พอมันยังไม่พอดีกันจริงๆ มันเหมือนจุดเล็กๆ ที่ค่อยๆ สะสม เชียร์กับบิ๊กไม่ใช่คู่ที่มาทะเลาะกันจุกจิกเลย

เราไม่ได้มีปัญหากระทบกระทั่งอะไรที่ชัดเจน ความสัมพันธ์มันดำเนินมาเรื่อยๆ ตลอด แต่พอมันมีสิ่งที่จะต้องโฟกัสกันทั้งคู่บางอย่างเราก็ไม่อยากจะเอามาเป็นความหนักใจ หยุมหยิมให้อีกฝ่าย บางอย่างเขาก็ไม่อยากให้เราไม่สบายใจ บางข้อพอเราไม่คุยกันแล้วมันเก็บไว้กับเราทั้งคู่มันเลยเกิดจากการที่ไม่เป็นอะไร จริงๆ แล้วมันเป็นอะไร คนเริ่มพูดก่อนคือเชียร์ มันเป็นการชวนคุย แล้วมันก็ชึ้บตั้งแต่วันนั้นเลย เป็นการพูดคุยตัดสินใจร่วมกัน คำตอบที่เราได้คือกลับมาเป็นเพื่อนกัน”

ไม่เชิงว่าเป้าหมายชีวิตไม่ตรงกัน
“ไม่เชิงนะคะ เราเคยมองชีวิตคู่ด้วยกันอยู่แล้ว แต่แค่วันนี้ความสัมพันธ์ที่เราเดินมา พอเรามองย้อนกลับไปบางจุดมันไม่ได้ผ่านการพูดออกไป เราเก็บไว้ มารู้ตัวอีกทีความสัมพันธ์มันลดลงเรื่อยๆ ต่างคนต่างเก็บไว้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นเรื่องอะไรรุนแรงเลย เป็นเรื่องของความเข้าใจของเราทั้งคู่จริงๆ

เรามาจากการเป็นเพื่อนกันมาก่อน การคุยกันครั้งนี้เชียร์บอกเขาว่าเราคุยกันด้วยความรัก ว่าถ้าความรักนี้มันดำเนินไปในแบบชีวิตคู่อีกแบบนึงไม่ได้ มันก็อาจจะต้องกลับมารักกันแบบเพื่อน มันไม่ใช่ใครบอกเลิกใคร เหมือนเป็นการคุยกัน แล้วมันเป็นสิ่งที่เราตกลงร่วมกันมากกว่า ตอนนี้เราก็ยังคุยกัน มีความเป็นเพื่อนเต็มที่มากๆ เชียร์ยังบอกเขาเลยว่า วันนี้เชียร์รักเขาไปแล้ว ยังไงเขาก็เป็นคนที่เชียร์รักอยู่ดี เพียงแค่ว่ามันไม่ได้เป็นไปในรูปแบบเดิม

การเริ่มคุยกัน มันยากสำหรับเชียร์ จริงๆ ต้องการจะคุยเพื่อมองหาวิธีการปรับในการแก้ปัญหาค่ะ ไม่ใช่เรื่องของการคุยเพื่อจะยุติ แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันกลายเป็นเราเลือกคำตอบที่จะยุติกัน”

ไม่เกี่ยว “บิ๊ก” อยากแต่งงาน เล่าคุยกันแต่แรกแล้วคิดเห็นเหมือนกัน ไม่อยากมีลูก
“อันนั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก (บิ๊กอยากมีชีวิตอีกสเต็ปนึงแล้ว?) ไม่ใช่ประเด็นนี้ สำหรับเรื่องของการแต่งงานไม่ใช่เป้าหมายของเชียร์ตั้งแต่แรก เราเคยคุยกันด้วยซ้ำว่าไม่อยากมีลูกนะ ถ้าอยากเราอาจจะมีระยะเวลาของเรื่องอื่นมาจำกัด อันนี้น่าจะเป็นข้อบีบบังคับเรื่องไทม์ไลน์ แต่เราไม่มีเรื่องนี้ ยังไงวันนี้เราก็ยังรักเขาอยู่ดี เขาก็ยังรักและหวังดีกับเราอยู่ดีแต่เพียงแค่มาเป็นเพื่อนกันเท่านั้นเอง”

ที่ออกมาประกาศยุติความสัมพันธ์เพราะอยากชัดเจนกับคนที่รักและหวังดีที่คอยถามตนทั้งคู่ว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดี
“วันนี้เชียร์ก็อาจจะจำเป็นต้องพูด ไม่อย่างนั้นคือคนที่รักและหวังดีกับเราทั้งคู่ก็จะแบบว่าจะแต่งเมื่อไหร่อะไรแบบนี้ เหมือนเพื่อให้มันชัดเจนด้วย แล้วก็ไม่ให้มีคำถามไปถึงเขา ไม่ให้มีคำถามมาถึงเรา

ทุกคนก็แล้วแต่การตัดสินใจของเราแหละทั้งฝั่งครอบครัวเรา ครอบครัวของทางบิ๊กด้วย อย่างที่บอกว่าเชียร์ไม่ได้พูดอะไรจริงๆ มันตั้งแต่ตุลาคมแล้วด้วยซ้ำเรื่องนี้ มันคุยกันตั้งแต่ตุลาคมแล้ว แต่ว่ามันเป็นด้วยความเข้าใจกันจริงๆ เชียร์ถึงบอกว่ามันเป็นเหมือนสถานการณ์ที่ดีในการคุยกันครั้งนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เชียร์เชื่อว่าเราทั้งคู่ต่างแข็งแรงกันอยู่แล้วเราก็แค่เก็บเป็นเส้นทางดีๆ ที่เราเดินทางกันมาค่ะ แต่ว่ามันก็ไม่ได้หายไป”

ตอนนี้กลับมาโฟกัสที่ตัวเอง เจอหน้ากันได้ กำลังจะมีทริปไปเที่ยวด้วยกัน
ตอนนี้ก็คงอยู่กับตัวเองก่อนแล้วกันทำงานในสิ่งที่มีและเชียร์เชื่อว่าเขาก็คงจะมีเป้าหมายที่ดีกับชีวิตเขาเหมือนกัน เพราะยังไงเราก็อยู่ในช่วงวัยที่ยุ่งกันทั้งคู่ ในธุรกิจเองหรือในสิ่งที่จะทำมันก็มีธงค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว ช่วงนี้ก็ดูแลเรื่องงานดูแลตัวเองค่ะ

เราเจอหน้ากันได้จริงๆ ก็ยังมีทริปที่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันอยู่เลย ก็มีความเป็นเพื่อนกันจริงๆ ค่ะ (แสดงว่าก็ยังให้ความสำคัญกับคำว่าคู่ชีวิตอยู่?) ถ้าจะมีหรือไม่มี มันไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังเลยค่ะ มีก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่มีก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เช่นกัน”

“ที่ยักเอ้ย” เก็บไว้เป็นความทรงจำ เข้าไปดูได้ตลอด ไม่ปิดช่อง
ที่ทำคลิปยูทิวบ์ จริงๆ มันมีความหมายซ้อนความหมาย คือจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะทำนะ มันเหมือนเป็นความทรงจำในการเดินทางของเราค่ะ วันนี้คือมันไม่ได้จบแค่ซีซั่นมันไม่ได้จบแค่อีพี การเดินทางของคำว่าที่ยักเอ้ย ในชีวิตจริงมันก็หยุดการเดินทางจริงๆ จริงๆ มันเป็นเหมือนแค่บันทึกการเดินทางของเราวันนี้มันก็เลยจบตรงนั้นไปค่ะ แต่ยังดูได้ตลอดนะคะไม่ได้ปิดช่องนะคะ”

















กำลังโหลดความคิดเห็น