อันเนื่องมาจากเป็นจำพวก ‘ผู้เสพข่าว’ ทุกแขนงมาตั้งแต่ยุคหนังสือพิมพ์ ครั้นพอสื่อติจิตอลเข้ามายึดหัวหาด ผู้เขียนก็ยังมีนิสัยเดิมๆ อยู่ จึงพอรู้แบบงูๆ ปลาๆ ว่าสังคมการเมืองเป็นอย่างไร เศรษฐกิจไปทิศทางไหน กีฬา บันเทิง และอื่นๆ อีกมากมายทั้งในบ้านเมืองเราและชาวโลกคลื่อนไหวในรูปแบบใดกันแล้วบ้าง
ว่ากันตามสัตย์ ผู้เขียนไม่รู้มาก่อนว่าดาราสาวชื่อ ‘แพท’ หน้าตาเป็นอย่างไร มาเริ่มคุ้นก็ตอนที่สามีของเธอ คือ ‘เบนซ์’ ตกเป็นข่าว
จากนั้นในรอบหลายปีเรื่องราวของพวกเขาก็ผ่านการรับรู้อยู่เรื่อยๆ ทว่าเป็นไปในแบบผ่านตาแวบๆ เท่านั้น
จนต่อเมื่อฝ่ายเบนซ์ได้รับอิสรภาพ เห็นข่าวหลายสำนักเสนอภาพแพทร้องไห้โฮ เพราะถูกกดดันจากชาวเน็ต ตั้งคำถามเกี่ยวกับสถานภาพของอดีตสามี
ผู้เขียนเริ่มเกิดความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แบบผ่านตาแวบๆ เหมือนอดีต
ฟังมาว่าบรรดาชาวเน็ตบางส่วนเกิดความห่วงใยต่อคนข้างกายคนใหม่ของแพท เลยอยากรู้ดำรู้ดีว่าแพทจะตอบตรงๆ อย่างไร
ผู้เขียนไม่รู้จักแพท ไม่เคยดูหนังดูละคร หรือทุกรายการที่เธอเป็นพิธีกร กระนั้นก็รู้ดีว่าหัวอกของผู้หญิงคนหนึ่งกับเรื่องแบบนี้มันสาหัสสากรรจ์ปานใด พูดง่ายๆ ไม่ว่าจะตอบแบบไหน ใคร่ครวญเพียงไร เธอก็ตกเป็นนางร้ายวันยังค่ำ
ตั้งคำถามลอยๆ ว่า....งั้นพวกเอ็งถามไปทำไม และหรือ...รู้แล้วได้อะไร?
เบนซ์เป็นคนอย่างไรผู้เขียนไม่รู้ แต่อ่านข่าวที่เขาพูด - อธิบายในเรื่องที่ว่า เบนซ์สมควรคารวะ
‘บัวไม่ช้ำ - น้ำไม่ขุ่น’ ทั้งที่อาจเป็นไปได้ว่าในส่วนลึกไหวสะเทือนแค่ไหน
ยังไม่ต้องเอ่ยถึง ‘ผู้ชาย’ อีกสองคนผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนี้ด้วย
โลกโซเชียลเป็นสังคมกว้างใหญ่ไพศาล แต่ต้องไม่ลืมว่า ‘สิทธิ’ ของครอบครัว ส่วนตัวของคนอื่นก็มีค่าและกรอบเกณฑ์เช่นกัน
หยุดแส่เรื่องแบบนี้ดีกว่าครับ