xs
xsm
sm
md
lg

"แน็ก ชาลี" เลิก "เก๋ไก๋' เศร้าฉิบหาย ลั่นผมไม่ได้ทิ้งเขา ต้องยกเลิกงานคู่เป็นร้อย (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"แน็ก ชาลี" เปิดใจ เลิก "เก๋ไก๋' เศร้าฉิบหาย ลั่นผมไม่ได้ทิ้งเขา คาดเขาเบื่อผม ต้องยกเลิกงานคู่เป็นร้อย ไม่อยากโกหกลูกค้า โดนเกลียดก็ไม่เป็นไร ลั่นพูดไปงั้นว่าจะโสดอีก 10 ปี พร้อมเปิดใจ



ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือก สำหรับ "แน็ก ชาลี ไตรรัตน์"หลังประกาศเลิก "เก๋ไก๋ ณัฐธิชา นามวงษ์"หรือ "เก๋ไก๋ สไลเดอร์"ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวคบหาได้ไม่นาน โดยแน็กเผยว่าตนไม่ได้เป็นฝ่ายทิ้งเขา และรักครั้งนี้ไม่ใช่คอนเทนต์

"จากที่ผมได้คิดอะไรหลายอย่าง ได้เจอหลายคนมากมาย ผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นเหมือนเดิม สนุกตลกเหมือนเดิมที่เราเคยเป็น

ถามว่าเศร้าไหม เศร้ามากครับ ผมเศร้ามาก เศร้าฉิบหายเลยครับผม เศร้าแบบโคตรโคตรเศร้าเลย แต่ก็สงสารแฟนคลับหลายคนที่เศร้าไปกับเราด้วย ผมรู้สึกว่าการให้ใจแฟนคลับเป็นสิ่งที่ดีมาก เราไม่ได้ทำงานอย่างเดียว ครั้งนี้เราคิดแล้วจริงๆ มันเป็นความรักที่น่ารักมากนะสำหรับเรา มันได้โอกาสที่ทุกคนเปิดใจ ทุกคนยอมรับในความรักครั้งนี้ของผม มันทำให้เราได้วางแผนอย่างที่เราได้คุยกันไว้ เรามีเรื่องที่ตกลงกันหลายอย่างที่มันมีความสุขมาก เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ นะ ได้สร้างรอยยิ้มให้กับหลายคนมากมาย ผมมีความสุขมากถึงแม้ว่ามันจะจบโคตรไวเลย"

เผยไปต่อไม่ได้ อีกฝ่ายน่าจะเบื่อตน
"ผมไม่รู้ว่าจะตอบให้มันโยงเยงไปทำไม ตรงๆ เลย น่าจะเบื่อผมแหละครับ ผมก็พูดตรงๆ ครับ ไม่ใช่เรื่องผิดครับ เขาก็คงเบื่อแหละ ผมก็พูดตรงๆ มันไม่มีข้อใดอื่น ผมคิดว่าผมต้องเริ่มรู้ตัวแล้วแหละ ว่าจริงๆ มันควรจะเป็นยังไง อะไรจะเกิดขึ้นบ้างอะไรจะเป็นยังไง เราก็ต้องรู้ตัวของเรา

ไม่ใช่ไม่เป็นตัวเอง คือมันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากครับสำหรับสองคน ผมย้ำนะครับ เรื่องของคนสองคน ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนสองคน และสำหรับผมผมอายุ 30 แล้วนะครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ การที่ผมตกลงกับใครการที่ผมมีความหวังกับใคร ผมเป็นคนที่จริงใจมาก และก็ตั้งใจอยากทำให้สำเร็จเหมือนที่ยังคิดไว้ และตัวเขาผมก็มองว่าเราโตกันทั้งคู่แล้ว มันเป็นเรื่องของคนสองคน เรื่องที่เราตกลงกัน แต่ว่าวันนึงมันเป็นไปไม่ได้ ทุกคนก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ได้เป็นแบบที่เราคุยกัน

หลักๆ ผมว่าไม่ใช่มาจากตัวผมครับ วันนี้ผมคงไม่ได้เป็นลูกผู้ชายพอ ที่จะออกมาพูดว่า เพราะว่าผมรักเขามากใช่ไหม จะให้ผมเอามาพูดอีกเหรอ เพราะเขาโพสต์ว่าอกหักอะไร ทุกคนเห็นโพสต์อยู่ใช่ไหม ผมจะต้องมายอมรับว่าผมทิ้งเขา ให้เขาอกหัก ทั้งที่ผมไม่ใช่คนทิ้งเหรอ ผมคงไม่ใช่ลูกผู้ชายพอขนาดนั้น เพราะ 2 อาทิตย์ผมก็หนักใจอยู่เหมือนกัน'

ยืนยันไม่ได้ทิ้งเขา
"ผมไม่ได้ทิ้งเขา ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ทิ้งเขา เลยบอกว่าช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมไม่ได้อยากพูดอย่างนี้ แต่ผมรู้สึกว่าผมโดนคนพิมพ์ด่าเยอะมาก ว่าผมเป็นคนไปทิ้งเขา ผมไปทำให้เขาเสียใจ ผมก็จะพูดตรงๆ ว่า ถึงผมจะรักเขาหรือยังไง เมื่อมาถึงจุดนี้ ผมไม่ใช่คนทิ้งเขานะครับ แล้วระยะเวลา มันก็ผ่านมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว การที่เขาลงอะไรผมก็พูดตรงๆ มันไม่น่าจะใช่ที่ลงถึงผม เพราะผมยังจำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเดินออกมาได้อยู่ ว่ามันเป็นยังไง"
ขอให้ด่าแค่ตนคนเดียว ไม่ฟ้องแน่นอน
"จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากให้สัมภาษณ์อะไร ที่มีการแบ่งฝั่งแบ่งฝ่าย แบ่งพวกและไปกระทบอีกฝั่ง ผมก็จะย้ำและขอร้องตรงนี้ว่า ใครจะด่าอะไรผมด่าให้เต็มที่ ทุกคนจะด่าอะไรผมไม่ฟ้องแน่นอน เพราะผมผ่านจุดนั้นมาแล้ว แต่สำหรับใครที่อาจจะฟังแล้วรู้สึกไม่ดีอย่าไปโจมตีฝั่งตรงข้าม ผมไม่ได้เป็นห่วงงานแต่ผมเป็นห่วงทุกคน ทุกคนก็รู้ว่าอะไรมันน่าจะเกิดขึ้นได้นะ"

ลั่นร้องไห้หนัก
"ร้องไห้ไหมเป็นเรื่องธรรมดามาก ผมร้องไห้หนักมาก แล้วก็เป็นเรื่องที่ผมร้องไห้ไปเท่านั้นเอง

ผมได้คุยกับเขาล่าสุด จริงๆ วันที่เขาตอบผมคือวันที่ 19 ผมเป็นคนจำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ผมไม่กลัวเรื่องอะไรที่เป็นความจริง ผมรู้สึกว่าผมอยู่กับทั้งอาทิตย์ที่โดนแต่คอมเมนต์ว่า เดี๋ยวก็หงาย คือด้วยความที่ผมไม่อยากให้ทุกคนไปแบ่งฝ่าย ผมก็หงายมาเลย อยากรู้จะเป็นยังไง เพราะผมก็มีวุฒิภาวะสูงพอ ผมมีการตัดสินใจมีสติสูงมากระดับหนึ่งนะครับ การที่ผมจะควบคุมตัวของผม เหมือนที่วันนี้เราอยากจะให้ทุกอย่างออกมาเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่ไม่เป็นไรผมยังต้องทำงานนะครับ อยากให้คนที่มายืนให้กำลังใจเรามีความสุขด้วย

เมื่อกี้เจอเด็กๆ เราก็รู้สึกดี จริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากผมก็ไม่อยากให้ไปรกสมอง ผมรู้สึกว่าเวลาเราไปเลื่อนอ่านเจอ ผมก็รู้สึกว่าไม่ได้มีหลายคนที่อยากรู้ข่าวเรื่องนี้ มันเป็นข่าวที่รกหัวรกสมองของคนหลายคนมาก ผมก็อยากจะขอโทษตรงนี้จริงๆ ด้วย ที่ต้องให้มีข่าวไอ้คนนี้มันเด้งมา มันไปรกข่าวเขาจริงๆ คุณเอาเวลาไปอ่านข่าวที่มีสาระดีกว่าเยอะ"

โต้ซุ่มกินข้าวกับผู้หญิงใหม่ ขอโทษลูกค้ายกเลิกงานคู่เป็นร้อย
"โอ้โห ผมไม่ได้ไปกินข้าวกับใครเลยนะครับ ชีวิตผมตั้งแต่ มีไปกินข้าวกับผู้จัดการ ที่ทำให้ผมได้ทำงานเป็นผู้เป็นคน มาเกือบหนึ่งปี ผมต้องขอบคุณเขาด้วย

ถามว่าทำไมถึงรู้ว่าเขาเบื่อ จริงๆ เมื่อกี้ก็ไม่น่าพูดออกไปเลย จริงๆ ผมเป็นคนที่นิ่งนะครับ แต่การที่เขาลงผมก็พูดตรง ๆนะ เราจะรักกันเราก็พูดตรงๆ ผมรู้สึกว่าผมโกหกคนดูไม่ได้ ในการทำงานนะ ถ้ามันเป็นงานที่ค้างอยู่ผมยกเลิกหมดเลยนะ อันนี้ผมขอโทษลูกค้าจริง ๆ เลยนะ ที่ผมวางแผน ผมกล้าพูดเลยว่ามีอีกเป็น 100 งาน งานคู่นะครับ ผมไม่ได้พูดเล่น ผมยกเลิกทุกงานนะครับ ผมขอโทษลูกค้าจริงๆ

ตอนแรกเราหนักใจกันมาก ว่าเราจะบอกลูกค้ายังไง แต่ผมว่าเราอายุ 30 แล้ว เราอย่าไปโกหกเขา แล้วสิ่งที่ผมจะทำงานได้มากที่สุดคือการจริงใจกับคนทำงานที่จ้างเรา ตัวผมไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย วันนี้มันก็ถือเป็นการระบาย ถ้ากระทบผมก็ต้องขอโทษจริงๆ ด้วย ก็ฝากย้ำนะครับสำหรับใครที่ฟังอยู่ อย่าไปพาดพิงอีกฝั่ง ด่าผมได้คนเดียวครับ

ตั้งแต่มีเรื่องไม่ได้คุยเลยครับ และผมขอย้ำอีกทีหนึ่ง เรื่องของคนอายุ 30 ที่เขาคุยกันสองคน มันควรจะเป็นเรื่องที่ คือ...ผมโตแล้วจริงๆ เหมือนที่ผู้จัดการเขาให้สัมภาษณ์ประมาณว่า น้องเขาเป็นอย่างนี้ทั้งคู่อยู่แล้ว ชอบลบๆ บล็อกๆ เลิกๆ คืออย่าเหมารวมนิสัยผมนะครับ ผมไม่ได้นิสัยแบบนั้น ผมเป็นคนที่แคร์คนอื่นมากนะครับ เราทะเลาะกันหลายครั้งมาก เวลาที่เขาอยู่ดีๆ เขาก็บล็อกผมโดยไม่มีเหตุผล แต่คนไม่เข้าใจ คนชอบคิดว่าผู้ชายบล็อก ซึ่งผมก็โดนถล่มโดนด่า แต่ก็ไม่เป็นไร ผมก็อยู่ของผมไปแบบนั้น และผมก็ไม่รู้ด้วยว่า ผมจะอธิบายยังไง ว่าผมไม่เคยบล็อกเขานะ เพราะมันไม่ใช่นิสัยผม"

ตกลงกันทั้งสองฝ่าย เพราะโตแล้ว
"มันเป็นข้อตกลงสำหรับสองคนที่โตแล้ว ที่คุยกันรู้เรื่องตั้งแต่แรกแล้ว และวันที่กลับมา ผมก็คิดว่า ผมจะได้มีความรักที่สุดยอดแล้ว เพราะผมมีความสุขมาก ผมจริงใจมาก ผมจริงใจกับเขาเป็นที่หนึ่ง จริงใจกับลูกค้า จริงใจกับคนดู เพราะว่าผมหลอกคนดูไม่ลงอยู่แล้ว ถ้าหากวันหนึ่งเรายังมีงานที่ค้าง แต่เราต้องไปฝืนทำ คือผมทำไม่ได้

งานที่เข้ามาเป็นงานคู่รักแทบทั้งนั้น เป็นงานที่เราตั้งใจวางแผนกันไว้ ว่าถ้าเรากลับมาคบกันจริงๆ นะ คือผมก็วางแผนไปไกลแล้ว เห็นผมเป็นคนตลกแบบนี้ แต่ผมจะบอกให้ว่า ผมวางแผนไว้จริงจัง เพราะผมเองก็อายุเยอะแล้วด้วย

ผมคิดว่าคนที่อายุเท่าๆ กัน รู้กันอยู่แล้ว คนสองคนรู้กันอยู่แล้วว่าคุยอะไรกัน ตกลงอะไรกัน แต่ในเมื่อมันต้องแยกกัน เราก็ต้องแยก อย่างน้อยผมก็ยังรู้สึกว่า ผมยังให้เกียรติงาน ให้เกียรติคนที่สนับสนุนเรา ให้เกียรติคนที่จิ้นเรา ผมรู้สึกว่าทุกคนน่ารักกับเรามากๆ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ผมเปิดใจเรื่องความรัก และทุกคนก็จิ้นเราสองคนมากๆ แต่ถ้าจะให้ผมต้องเดินหน้าแบบที่ต้องโกหกทุกคน ผมคิดว่าผมทำไม่ได้

เพื่องานก็ไม่ได้ เพราะเรื่องนี้มันเริ่มต้นจากความรัก และผมก็ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองดีขึ้น ยกเลิกหลายงานครับ เป็น 10 งาน"

โดนเกลียดก็ไม่เป็นไร
"ผมเชื่อว่า วันนี้สิ่งที่ผมพูดอาจจะทำให้คนเกลียดผมเยอะขึ้น ซึ่งก็ไม่เป็นไร แต่เขาจะโตขึ้น และเขาจะมีสติในการโพสต์มากขึ้น หลายคนอาจจะถามผมว่า ทำไมผมอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ คือจริงๆ แล้ว ผมอยากอยู่นิ่งๆ มากเลยนะ แต่ว่าเขาโพสต์ด่าผมเป็นเพลง แล้วเขาก็ลบ แล้วเขาก็โพสต์รูปสวดมนต์ ผมเลยรู้สึกว่า คุณโพสต์ด่าผม คุณลบทำไม หรือที่คุณไปด่าในคอมเมนต์ แค่ผมอ่านผมก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ตัวเขาพิมพ์ แล้วผมผิดอะไร ผมถามตรงๆ ว่าใครให้คุณพิมพ์เหรอ มันไม่ใช่ เราต้องจริงใจกับคนที่เขาจริงใจกับเราสิ คนที่เขาทุ่มเงินให้เรา คนที่เขารักเราจริงๆและจะต้องมานอนไม่หลับแทนเรา ผมสงสารพวกเขามาก ผมเลยรู้สึกว่าให้ทุกอย่างมันมาลงที่ผมเถอะ"

พูดไปงั้นจะโสดไปอีก 10 ปี หลังจากนี้จะยอมเปิดใจ
"ผมพูดไปอย่างนั้นแหละ เพราะผมก็รู้สึกแล้วว่า หลังจากนี้ผมจะลองเปิดใจ และก็คงจะไม่ได้นั่งรอที่บ้านเหมือนที่ผมทำมาตลอด ผมจะเติบโตในด้านของผม และผมต้องขอย้อนกลับไปขอโทษในตอนแรก ที่ผมให้สัมภาษณ์ว่าเขาเบื่อ ผมขอโทษนะครับ (ยกมือไหว้) เราแยกกันอย่างดีนะครับ ต่างคนต่างทำงานให้มีความสุข

ไม่เข็ดความรักครับ เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร และผมก็จะไม่แกล้งทำอะไรที่มันไม่ใช่ตัวผม ถามว่าเป็นคอนเทนต์ไหม เป็นความรักจริงๆ ครับ ถึงมันจะมีช่วงเวลาที่คุยกันไม่รู้เรื่องบ้าง หรือทะเลาะกันบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของคนสองคน"











กำลังโหลดความคิดเห็น