“อแมนด้า” โบกมือลา TPN เซ็นสัญญาวิก 3 ซึ้งผู้ใหญ่ให้บทท้าทายจนอยากเป็นครอบครัวเดียวกัน ลั่นละคร 4 เรื่อง เป็นนางเอก 2 เรื่อง ไม่ลืมจริตนางงามง่ายๆ อยู่ในสายเลือดแล้ว ถึงหมดสัญญาแต่ “ปุ้ย ปิยาภรณ์” เรียกใช้ได้เสมอ
เป็นนักแสดงช่อง 3 เต็มตัวแล้ว สำหรับ “อแมนด้า ออบดัม” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2563 หลังหมดสัญญากับค่าย TPN โดย อแมนด้าเผยว่าได้ร่ำลากับ “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” เรียบร้อยแล้ว ถึงหมดสัญญาก็ยังเรียกใช้ได้เสมอ
“ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ เซ็นกี่ปีขออุบไว้ก่อน ตั้งแต่ได้มาเล่นละคร ตั้งแต่เรื่องมาตาลดา ผู้ใหญ่ช่อง 3 น่ารักมาก เอ็นดูด้ามอบโอกาสบทใหญ่ๆ บทที่ท้าทายให้ ในเมื่อเราเล่นมาหลายเรื่องขนาดนี้แล้วก็อยากอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันเลย
จากนางงามมาเป็นนักแสดงก็ชอบมากๆ เลยค่ะ ตอนเป็นนางงามเราจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวเอง แต่พอเป็นนักแสดงเราก็ต้องสวมบทบาทอีกคาแรกเตอร์ ซึ่งมันเป็นการท้าทายตัวเองทำให้เราได้พัฒนาตัวเองไปด้วยชอบไปกองถ่ายเหมือนไปหาเพื่อน ฟีดแบ็กถือว่าเป็นไปในเชิงบวกเลยนะคะ จะพัฒนาไปเรื่อยๆ”
มุ่งงานแสดงเป็นหลัก
“น่าจะเป็นหลักค่ะไหนๆ ก็มาอยู่กับช่อง 3 แล้ว ตอนนี้กำลังถ่ายทำ เว้าวอนรัก และอีกเรื่องกำลังรอเปิดกล้อง”
ไม่ซีเรียสนางเอกหรือนางร้าย
“เอาจริงๆ ไม่ได้ซีเรียสเลยแค่ให้โอกาสก็ดีใจแล้วค่ะ ถามว่าดูจากอะไรก็ชอบความท้าทายนะคะจากบทที่เล่นเรื่องลมเล่นไฟก็เป็นบทท้าทายมากๆ เอาจริงๆ ก็ไม่คิดว่าผู้ใหญ่จะมอบโอกาสให้สำหรับมือใหม่เพราะเป็นเรื่องที่สองแต่เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด ถามว่า 4 เรื่อง มีเรื่องไหนเป็นนางเอกเต็มตัวบ้างไหม ก็มีเว้าวอนรักและยิหวาดาตัง”
ถึงหมดสัญญากับ MUT แต่ยังเรียกใช้ได้เสมอ
“เรียบร้อยแล้วค่ะ 3 ปี ก็ยังเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ตอนหมดสัญญาก็เข้าไปหาแม่ปุ้ยที่มอบโอกาสต่างๆ ให้ด้า เราก็เป็น Miss Universe 2020 บอกแม่ปุ้ยแล้วว่าไม่ว่าจะมีงานอะไรก็เรียกด้าได้เสมอ เป้าหมายต่อจากนี้ก็อยากทำทุกคาแรกเตอร์ออกมาให้ดีที่สุด ก็รอดูว่าเดี๋ยวจะมีอะไรพัฒนาต่อไปจากนั้น เรื่องรางวัลถ้าได้ก็ดีนะ ทุกคนอยากได้หมดก็ต้องพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ ก็ไปเรียนตลอดค่ะ โดยเฉพาะตอนเล่นเรื่องลมเล่นไฟเพราะเป็นบทที่ท้าทายมาก เรียนหนักมากๆ เลย”
รับยากคนละแบบระหว่างนางงามกับนักแสดง แต่ตอนนี้ไฟลุกมากอยากเล่นบทท้าทาย
“มันหนักคนละแบบ เป็นนางงามมีหลายพาร์ตไม่ว่าจะการเดินการฟิตหุ่น การตอบคำถาม จะมีความกดดันมากกว่าเวลาเราไปประกวดที่เมืองนอก ในพาร์ตของนักแสดงมันจะไปหนักอยู่ที่อารมณ์ข้างในมากกว่าและความเข้าใจตัวละคร ถามว่าทำไมถึงเลือกเป็นนักแสดง ขณะที่คนอื่นอาจจะเลือกเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ตอนที่ได้เล่นเรื่องมาตาลดาทำให้เรารู้ว่าเราชอบทำงานตรงนี้ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ก็สนุกกันได้เหมือนกันควบคู่กับการเป็นนักแสดงได้ด้วยแต่พอได้มาเป็นนักแสดงจริงๆ เราสนุก เราชอบ ได้ท้าทายได้เค้นอารมณ์ข้างในออกมา ไฟตอนนี้เยอะมาก”
นางงามอยู่จิตใต้สำนึก ไม่ลืมง่ายๆ อยู่ในสายเลือด
“ไม่ลืมหรอก มันก็มีอยู่แล้วในจิตใต้สำนึก ได้เห็นซีนลงรถไหมคะ ไม่ได้ตั้งใจด้วยแล้วเขาเอามาประกบกับตอนที่ไปประกวดเมืองนอก เลยคิดว่ามันจะอยู่ในสายเลือด ส่วนจะได้เห็นจริตนางงามมาใช้ในละครอีกไหม แล้วแต่บทมากกว่าค่ะ ถ้ามันให้มันส่ง ก็คงมีบ้างแต่ถ้าไม่ก็คงไม่ ด้าไม่ได้ติดบุคลิกนางงามมาอยู่ในละคร ด้าก็เป็นผู้หญิงทั่วไปนอนบนโซฟาอยู่บ้านก็ไม่ได้นั่งหลังตรงหรอก เราก็ทั่วไป ขึ้นเวทีเราก็เฉิดฉาย”