“พุดเดิ้ล” แฮปปี้ จากหน้าผีสู่หน้าสวย ศัลยกรรมเปลี่ยนหน้า โวคนชมสวยกว่า “แอนนา” ก่อนร่ำไห้เสียใจ คนที่คิดว่าสนิทตีตัวออกห่าง เหตุเป็นเพื่อนแอนนา ไม่อยากเสียหายจากดรามาโกงทองกล่องสุ่ม
“แอนนา วรินทร วัตรสังข์” ศัลยกรรมหน้าใหม่ ล่าสุด “พุดเดิ้ล ยุพดี” เพื่อนสนิทและผู้จัดการของแอนนา ก็ทำบ้าง โดยเปิดตัวในงานศัลยกรรมพลิกชีวิต ที่ได้เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนหน้า ณ เวอร์เทค คลินิก แฮปปี้ตอนนี้คนชมว่าสวยกว่าแอนนา ก่อนร่ำไห้เสียใจ เล่าเรื่องสะเทือนอารมณ์
“ชีวิตหนึ่งเราก็อยากทำสวย ชีวิตนี้โดนด่าปากเบี้ยวมาทั้งชีวิต แบบว่าอีนี่ปากเบี้ยว ฟันไปทาง ปากไปทาง คางยื่น หน้าเบี้ยว ฟันไม่สบกัน ทำไมไม่ทำศัลยกรรมสักทีอยู่ในวงการ คือโดนด่าเยอะมาก ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรนะ แต่พอโดนด่ามากๆมันก็นิดนึง คือมันเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ เราก็ต้องทำแล้วแหละ พอเราได้มาปรึกษาที่ เวอร์เทค คลินิก เราก็ดีใจที่ได้คุณหมอมาปรับโครงหน้าให้ เขาเป็นคุณหมอจาก Let me in Thailand เลยนะ และมากไปกว่านั้นคือเราได้เป็นพรีเซ็นเตอร์คลินิกเลย ขอบคุณทางคลินิกที่เขาไว้ใจเรานะคะ
ตัดสินใจนานค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านี้มีหลายคลินิกติดต่อมาเยอะมาก อยากให้พุดเดิ้ลช่วยไปรีวิว แต่ที่เลือกคลินิกนี้ เพราะว่าคุณหมอ คือเราเสิร์จชื่อเขาเราเจอคำว่า Let me in Thailand เลย ทำให้เรามั่นใจเลยค่ะ ไม่ต้องรออะไรเลย จริงๆ ก่อนหน้านี้พุดเดิ้ลก็มีแพลนไปทำที่เกาหลี แต่ระยะเวลาการไปทำค่อนข้างนาน ต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งเราไม่มีเวลา ไม่มีคนดูแล ค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูง ก็เลยไม่ทำดีกว่า แล้วก็ผัดมาเรื่อยๆ ก็เลยตัดสินใจมาทำที่นี่ ซึ่งจริงๆ แอนนาก็เป็นคนแนะนำให้มาทำที่นี่ และที่นี่ไม่ต้องมัดฟัน เพราะคุณหมอใช้การจัดฟันเข้าช่วย
คือสมัยก่อนเวลาเขาผ่าตัดขากรรไกร เขาจะให้จัดฟันก่อน จัดฟันให้เสร็จแล้วถึงมาผ่าขากรรไกร กับผ่าก่อนแล้วมาจัดฟันทีหลัง ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการให้หน้าเข้าที่ 1 ปี แต่อันนี้คือทำพร้อมกัน รวบรัดไปเลยแล้วคือไม่ต้องมัดฟัน คือการมัดฟันทำให้กินข้าวลำบากและพูดได้น้อย เวลามัดกล้ามเนื้อมาทำให้เราพูดลำบาก อันนี้พุดเดิ้ลสามารถพูดได้เลย ตั้งแต่ 3 วันแรก สามารถใช้ช้อนกินข้าวได้ กินข้าวดื่มน้ำได้ตามปกติหมดเลย และไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน และไม่ต้องเป็นมัมมี่ ใช้ชีวิตเดินเหินได้ตามปกติ ถ้าเป็นที่เกาหลีน่าจะบวมเยอะมาก แต่อันนี้พุดเดิ้ลไม่เป็นอะไรเลย บวมที่ใต้ตาอย่างเดียว ถ้าสังเกตดูดีๆ ที่เหลือไม่มีอะไรเลย มีแค่แผลอยู่ในปาก
จริงๆ เราไม่ได้คาดหวังอะไรเลย เราแค่อยากให้ฟันของเราสบกันเท่านั้นเอง และอยากให้หน้าของเราตรง เพราะพุดเดิ้ลคางเบี้ยว หน้าเบี้ยว ฟันเบี้ยวไปอีกฝั่งนึง คือคางจะยื่นออกมา คือคุณหมอก็มีการขยับหน้าที่ยื่นออกมาให้มันเข้าที่ จากหน้าที่ไม่ตรงกับเซ็นเตอร์ ตอนนี้ก็ตรงแล้ว
ตอนนี้ไม่มีกระทบกันแล้ว ตอนนี้พุดเดิ้ลไปนอนกับเพื่อน ก็ลองให้เพื่อนอัดเสียงดูว่ามีการกัดฟัน หรือกระทบกันไหม เพื่อนบอกว่าการนอนกัดฟันหายไปเลย คือเราดีใจมากๆ คือการกัดฟันทำให้เรามีปัญหากล้ามเนื้อผิดปกติ อย่างที่พุดเดิ้ลบอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ คือมันดูดีขึ้น ถามว่าทำไมเรามั่นใจขนาดนี้ คือเราไปดูรูปก่อนทำและหลังทำ คือมันพลิกไปเลยจากหน้ามือเป็นหลังมือ”
รับตอนเรียนมหาวิทยาลัยโดนบูลลี่หน้าผี หน้าเบี้ยว
“ใช่ โดนเยอะมาก หน้าผีบ้าง หน้าเบี้ยวบ้าง อีนี่ปากเบี้ยว อีนี่หน้าเบี้ยว ถามว่าผ่านมาได้ยังไง คือเพื่อนเราบอกว่าเราสวยในแบบฉบับของเรา คือมันเป็นการให้กำลังใจ แต่ว่าเราไม่ได้สวยไง เราก็เก็บคำพูดต่างๆ นานามาคิด ชีวิตหนึ่งเราก็อยากทำแต่มันเรื่องของจำนวนเงิน คือมาหลายปัจจัยหนึ่งเวลา สองจำนวนเงิน การผ่าตัดครั้งหนึ่งมันใช้เวลามันใช้เงิน คือเราก็ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น ก็คือดีใจที่คลินิกให้โอกาสให้พุดเดิ้ลเป็นพรีเซ็นเตอร์ คือถ้าตีเป็นเงินก็มูลค่าหลักล้าน ก็ประมาณ 7 หลักได้”
ฟุ้งหลายคนชม ทำแล้วสวยกว่าแอนนา
“เจอเพื่อน เพื่อนก็ชมตลอดเลยว่าหล่อนสวยเหมือนชะนีม.ปลาย นางพูดแบบนี้ตลอดเลย เราก็มองหน้า มีคนบอกว่าพุดเดิ้ลทำแล้วสวยกว่าแอนนาเยอะเลย คนคอมเมนต์เยอะมาก ว่าพุดเดิ้ลทำแล้วสวยกว่าแอนนาอีก คือมันก็สวยใครสวยมันมากกว่า คือมันก็สวยคนละทาง พุดเดิ้ลก็สวยไปทางเกาหลี ประมาณ 20 ต้นๆ แอนนาก็สวย ดูเด็กลง พุดเดิ้ลเลข 3 เหลือ เลข 2”
เรื่องจริง ไม่กล้าถ่ายรูปคู่แอนนา หวั่นโดนตามทวงหนี้ รับเคยโดนข่มขู่จนจิตตกจะมาตบที่บ้าน
“ก็คือเรื่องจริงค่ะ เพราะหนึ่งแอนนาเป็นคนติดต่อยาก แล้วพุดเดิ้ลเป็นผู้จัดการ เบอร์พุดเดิ้ลก็ขึ้นอยู่ในไอจีของแอนนาอยู่แล้ว คนก็จะโทร.มา ซึ่งแรกๆ คนโทร.มาพุดเดิ้ลก็รับ สามารถช่วยตามได้ว่าแอนนาอยู่ไหน แต่บางทีมันมากเกินไป มันล้ำเส้น ในความเป็นส่วนตัว
คือมันเป็นเบอร์ติดต่อเรื่องงาน แต่ถ้าอยากติดต่อแอนนาเรื่องส่วนตัวก็ไปที่หน้าเพจแอนนาเลย คือบางคนก็ใช้ข้อความที่ข่มขู่เรา บอกว่ากูจะไปหามึงที่หน้าบ้าน กูจะไปตบมึง คือเราเป็นพุดเดิ้ลเราไม่ใช่แอนนา เราไม่ได้ไปสร้างความเสียหายให้กับเขา เขาพูดจากับพุดเดิ้ลเขาใช้คำหยาบคาย ใช้คำข่มขู่จนทำให้เรารู้สึกว่าเราจิตตก จนพุดเดิ้ลไม่กล้ารับโทรศัพท์ จนเรากลายเป็นคนกลัวการรับโทรศัพท์ คือคนโทร.มาเราก็ไม่อยากรับ เขาก็ด่าโทร.ไปทำไมไม่รับเลยติดต่อยากมาก คือใช้คำพูดคำจาข่มขู่เรา เราก็กลัวจนไม่อยากรับโทรศัพท์ คือไม่ใช่เราไม่อยากรับรู้นะ คือเรารับทราบ และช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ ตัวพุดเดิ้ลกับแอนนา มันคือคนละคนกัน พุดเดิ้ลมีหน้าที่หางานให้แอนนา เราไม่ได้มีหน้าที่ตามเงิน คือมันไม่ใช่
คนก็ถามว่าทำไมพุดเดิ้ลช่วยแอนนามากขนาดนั้น ต้องย้อนไปว่าแอนนาคือคนที่เคยให้โอกาสพุดเดิ้ล จากคนที่ไม่มีอะไรเลยเป็นนางโชว์ตกอับ แอนนาก็ช่วยให้พุดเดิ้ลมีชื่อเสียง คือมันมีอะไรมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง มันเหมือนเป็นครอบครัว เราบอกแอนนาว่า แอนนาอันนี้ล้มมากเลยนะ มันเป็นวิกฤตใหญ่ เราต้องยอมรับความจริง ปัญหาทุกอย่างมันมีทางออกเสมอ เราก็ให้กำลังใจกัน นอนกอดคอร้องไห้กันเลย แอนนาชอบบอกว่าอยากฆ่าตัวตาย พุดเดิ้ลก็บอกเสมอว่าอย่าเลยพอแล้ว นางก็บอกว่าไม่มีใครอยู่ข้างๆ นางเลย”
ร่ำไห้เสียใจ คนคิดว่าสนิทตีตัวออกห่าง เหตุข่าวดรามาโกงทองกล่องสุ่มแอนนา หวั่นทำให้เสียหาย
“ตอนมี เพื่อนในวงการเข้าหานางเยอะมาก เราเคยไปงานนึงเราเสียใจมาก (ร้องไห้) คนที่เรารู้สึกว่าสนิทมากๆ ตีตัวห่างออกจากเรา ด้วยความที่เราสนิทกับแอนนาเขาก็ไม่อยากอยู่ใกล้เรา เหมือนทำให้เขาเสียหาย คือเราไม่ได้ออกงาน 3 เดือน คนก็แบบเฮ้ย ยังกล้ามางานอีกเหรอ ตอนที่มันเกิดข่าวที่มันไม่ดี
เราบอกแอนนาว่าเราเครียดมาก ทำไมคนที่อยู่ข้างเรา เขาถึงคิดกับเราแบบนั้น เหมือนเขาบอกว่าเพิ่งมีข่าวไม่ดี ไม่อยากอยู่ใกล้พุดเดิ้ลกับแอนนาเวลาร่วมเฟรมกัน ตอนมีข่าวผู้เสียหาย เรื่องทอง พอมาร่วมเฟรมกันเดี๋ยวภาพลักษณ์มันจะไม่ดี คือเราก็เจียมตัวตลอด แต่ลูกค้าก็ติดต่อมาอยากให้เราไปร่วมงาน เวลาเราไปงานเราก็ไม่เคยถือวิสาสะไปงาน ถ้าลูกค้าไม่ติดต่อมาให้ไปร่วมงาน บางทีเขาก็อยากจะช่วยแอนนากับพุดเดิ้ล แต่แอนนามันก็ไม่ค่อยอยากจะออกไปงาน ตั้งแต่มันเกิดเรื่องขึ้น คือเราก็เสียใจ แต่ก็ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราก็บอกแอนนาว่าไม่เป็นไร ในเมื่อมันเป็นวิกฤตแบบนี้ เราก็ยอมรับและแก้ปัญหาในสิ่งที่มันผิดไป พุดเดิ้ลเชื่อว่ายังไงสังคมก็ให้อภัยเสมอ”