xs
xsm
sm
md
lg

“เงาะ กชกร” เปิดใจที่แรก เคยผ่าตัดเปลี่ยนไต ตอนนี้ต้องกินยากดภูมิไปตลอดชีวิต!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เงาะ กชกร” เปิดใจที่แรก เคยผ่าตัดเปลี่ยนไต ตอนนี้ต้องกินยากดภูมิไปตลอดชีวิต! พร้อมแจงทิ้งวงการไปเลย 5 ปีเพราะไม่อยากรับบทแม่ ขอมีความรักแบบพาร์ตไทม์ ไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชม. แต่ถ้ารู้ว่าถูกนอกใจก็เชิญค่ะ ลั่นวางแผนตอนแก่ ทำตัวให้แข็งแรง ไม่เป็นภาระใคร

นักแสดงแถวหน้ากว่า 30 ปี “เงาะ กชกร” ที่วันนี้มาเผย มุมมองความรักเป็นยังไงบ้าง พร้อมเล่าเหตุการณ์สุดช็อกกับการผ่าตัดครั้งใหญ่ ที่ถึงขั้นต้องเปลี่ยนไต ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี หนิง ปณิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ถูกวางตัวให้เป็นบทนำตลอด ต่อให้ไม่ได้เป็นนางเอก หรือเป็นตัวร้ายชัดๆ แต่บทต้องโดดเด่นมากๆ ?
เงาะ : เรียกว่ามีเนื้อเรื่องให้เล่นอยู่ แต่บางเรื่องก็มีนิดหน่อยที่หลวมตัวรับเล่น คือคุยกันไม่ชัดเจน

ถ้าพูดถึงบทบาทแม่ นี่คือตัวท็อปคนนึงเลยที่ผู้จัดต้องนึกถึง แต่วันที่เปลี่ยนเทิร์นจากไม่ได้เป็นแม่ แล้วผู้ใหญ่วางว่าเธอมาเล่นบทแม่ให้หน่อย ซึ่งตอนนั้นอายุพี่เงาะก็ยังไม่เยอะ เฟลมั้ย?
เงาะ : อย่างที่บอกตอนแรกๆ เราได้รับบทบาทเป็นตัวสอง เป็นตัวเด่นมาตลอด ก็ยังเล่นเป็นเพื่อนนางเอกบ้างไปสักพักผู้ใหญ่บอก เงาะเดี๋ยวมารับเรื่องนี้นะ รับบทเป็นแม่ เราก็แบบช็อกนิดนึง ตอนนั้นอายุยังไม่ 30 เลย ยังรับไม่ได้ แล้วช่วงนั้นประกอบกับว่ามีธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเสริมเข้ามาด้วย กำลังศึกษาอยู่ เราแพลนตัวเองไปเป็นนักธุรกิจก่อนดีกว่าไหม ตอนนั้นเรายังไม่น่าเหมาะกับบทแม่
 
เรียกว่าเกือบทิ้งวงการไปเพราะคำว่าบทแม่?
เงาะ : ถูกต้อง ทิ้งวงการไปเลย 5 ปี โดยไม่รับละครเลย เรายังคิดตัวเรายังไม่ถึงขนาดบทแม่ ยังเล่นเป็นเพื่อนนางเอกได้ เล่นเป็นตัวสอง ตัวสามได้ แล้วอยู่ดีๆ มาเปลี่ยนเป็นบทแม่ เราจะถึงไหม ลองเปลี่ยนไปทำธุรกิจก่อนไหม แล้วตอนนั้นก็มีโอกาสมาด้วย ก็ไปศึกษาธุรกิจก่อนดีกว่า ตอนนั้นถ้ามันดีอาจจะไม่กลับเข้าวงการอีก และหลังจากธุรกิจมันเริ่มดีแล้วก็มีคนติดต่อเข้ามาพอดี ถ้าเรารับละครอีกมันก็ช่วยธุรกิจที่เราทำอยู่ มันยังไปเอื้อกันได้ ก็ลงมารับบทแม่เรื่องแรก หลังจากนั้นก็แม่มาเรื่อยๆ เลย

ตอน 47 พี่เงาะเคยป่วยหนักอยู่ครั้งนึง หรือว่าตอนปี 47 ?
เงาะ : ปี 47

แล้วพี่ก็หายไปแว๊บนึง เพราะว่าไม่สบาย?
เงาะ : ไม่ใช่ จริงๆ เรื่องไม่สบายไม่มีใครรู้เลย นอกจากครอบครัวแล้วก็คนรอบข้าง แต่คนวงการบันเทิงไม่เคยรู้ ก็เปิดที่นี่ที่แรกเลยนะ อยากให้เป็นประสบการณ์ให้ดูแล ระวังการใช้ชีวิต อย่าประมาทในการใช้ชีวิต เพราะว่าประสบมากับตัวเอง ก่อนหน้านี้ช่วงเข้าวงการใหม่ๆ เราทำงานตั้งแต่อายุ 19 ถ่ายละครตั้งแต่เช้า ยันเที่ยงคืน บางครั้งเกือบถึงตี 4 เข้าไปนอนแป๊บเดียว มันก็วนเวียนอยู่แบบนี้ การกินไม่เป็นเวลา การนอนไม่เป็นเวลา ขับถ่ายไม่เป็นเวลา อาหารการกินทุกอย่างมันดูแย่มาก มันส่งผลมาถึงสุขภาพของเรา

ประมาณปี 47 มีอาการปวดหัว เราก็ไปซื้อยามากินเอง ตอนแรกปวดเยอะ ตอนหลังรู้สึกว่าตัวเองปวดแต่ยังไม่ปวดหรอกนะ แต่ก็กินแล้ว กินยาคลายกล้ามเนื้อ จนยาแก้ปวดมันเอาไม่อยู่ เราก็ไปกินยาที่มันแรงขึ้นไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายยาแรงก็เอาไม่อยู่ เป็นอย่างนั้นอยู่ 3-4 ปีที่กินยาเองโดยที่ไม่ได้หาหมอ สุดท้ายวันนึงเหมือนเอาเท้าสัมผัสพื้น มันร้าวถึงสมองเลย ปวดไมเกรน ก็กินยา นอนพัก สุดท้ายที่พีกจริงๆ คือปวดจนอาเจียน บอกแม่ให้พาไปแอดมิต หมอเขาก็ตรวจความดัน ตอนนั้นความดันขึ้นไป 180 ซึ่งมันสูงมาก

ตอนนั้นเราอายุ 41 ก็ถือว่าอายุไม่เยอะกับโรคที่เราจะเจอคือ หมอเขาจับอัลตร้าซาวด์โน่นนี่นั่นอวัยวะภายในเราทั้งหมด ปรากฏว่าไปเจอไตเสื่อม เขาเรียกว่าไตวายเรื้อรัง หมายถึงว่าเนื้อไตมันจะตายไปเรื่อยๆ ซึ่งมันไม่สามารถกลับมาฟื้นฟูทำงานได้ปกติแล้ว เป็นเพราะว่าเราไม่ดูแลตัวเอง จริงๆ ตรวจสุขภาพทุกปีด้วยนะ มันมีค่าไขมันในเส้นเลือดสูง แต่ตอนนั้นเราอายุน้อย เราไม่ได้คิดว่ามันจะส่งผลเสียไปถึงอวัยวะภายใน ไขมันสูง ให้คุมอาหาร ออกกำลังกาย ถ้ายังไม่ได้ต้องกินยา หมอถามเรากินยาไหม เราบอกไม่กิน เพราะคิดว่าตัวเองไม่ต้องอะไรขนาดนั้น พอไม่กินยา คลอเลสเตอรอลขึ้นถึง 280-300 ซึ่งตัวเองผอมนะ มันทำให้ไตโหลดด้วย นั่นหมายถึงทำงานหนัก ผสมผสานกันหลายๆ อย่าง

มันมาจากไขมันในเส้นเลือดสูง?
เงาะ : ใช่

พอเขาบอกเราเป็นไตเสื่อมกระบวนการจัดการและการส่งผลของโรคนี้มันส่งผลอะไรกับเราบ้าง?
เงาะ : ตอนแรกที่รู้ก็รู้สึกนิดนึง แต่ไม่ได้คิดมากว่าเป็นไตแล้วมันต้องเป็นอย่างโน้น อย่างนี้ เรียกว่าไม่ไปปรุงแต่ง ก็ใช้ชีวิตปกติ แต่ก็อยู่ในความควบคุมดูแลของหมอ หมอจะเรียกเราเจาะเลือดทุก 2 เดือน ค่าไตเป็นประมาณนี้ๆ จนถึงระยะนึงที่ค่าไตเราทำงานขับของเสียออกมา คือไตทำงาน 5% นะ นั่นหมายความว่าเราจะต้องเปลี่ยน แต่เราไม่ได้อยู่ในขั้นตอนการฟอกไต เพราะคุยกับหมอตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าถึงขั้นตอนนั้น เราจะไม่ฟอกนะ

ถ้าฟอกไตมันยังใช้ไตเดิมได้ แต่ของพี่ต้องเปลี่ยนไต ?
เงาะ : แต่กว่าจะเปลี่ยน ตอนเจอปี 47 แต่เราเปลี่ยนจริงๆ ปี 56 ก็ 9 ปีกว่าจะได้เปลี่ยน

แล้วใครให้ไตพี่ในการเปลี่ยน?
เงาะ : น้องสาว เป็นคนในครอบครัว

แต่หมายความว่าเขาต้องเหลือไตข้างเดียว?
เงาะ : เราถึงบอกในความโชคร้ายของเรา มันยังมีความโชคดีอยู่ครอบครัวเรารักกัน แค่เขารู้ว่าเราต้องเปลี่ยนไตแล้ว แล้วเขาจะไปหาหมอกับเราตลอด เวลาไปเจาะเลือด เขารู้ตลอด คุณหมอบอกว่าถึงขั้นตอนนี้แล้ว เขาไม่ลังเลที่จะกลับบ้านไปคุยกับครอบครัวก่อน เขาพูดเลยว่าเงาะเอาของเขาไปนะ พอหมอบอกเขาพูดถึงขั้นตอนนี้แล้วยูต้องไปหาอะไหล่มา ไม่งั้นก็ต้องฟอก ก็บอกว่าไม่ฟอก น้องก็บอกว่างั้นเอาของจิ๊บไปเลย เอาไปตรวจ

ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกยังไง ?
เงาะ : เรารู้สึกโชคดีที่มีน้องสาวดูแลใส่ใจเรา เขาเต็มใจที่จะให้เราเลย เขาบอกถ้าของเขาไม่ได้ เขาจะเอาของลูกมาให้ ซึ่งเป็นลูกชายเขาทั้งสอง

แล้วพอเขาเหลือไตข้างเดียวหมอได้บอกไหมว่าส่งผลต่อสุขภาพยังไงบ้าง?
เงาะ : จริงๆ เราไม่ได้อยากรับของน้องเลย เอาของเขามา เราก็สงสารเขา เขาต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไป หมอบอกไม่จำเป็น คนเรามีไตข้างเดียวก็อยู่ได้แล้ว ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองยังไง เรื่องกิน เรื่องการพักผ่อน สำคัญ

พี่เงาะผ่านกระบวนการผัดตัดไตที่เสื่อมออก?
เงาะ : ไม่ได้ตัด วาง ทับ ตอนนี้มี 3 ไต ของเราจะค่อยๆ เสื่อมไปจนไม่ทำงาน ก็กลายเป็นว่าตอนนี้ของน้องทำงานอยู่

แล้วเราต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษไหม?
เงาะ : หลังจากเปลี่ยนถ่ายอวัยวะทุกอย่าง เราจะต้องกินยากดภูมิ เพราะว่าเราไปเอาอวัยวะของคนอื่นมา ซึ่งมันไม่ได้เกิดกับร่างกายของเราเอง มันจะมีการต่อต้าน เราจะต้องกินยากดภูมิไปตลอดชีวิต อย่างเช่นช่วงโควิด ถ้าเราเป็นโควิด หมายถึงเราไม่ได้รักษานะ ก็ตายเลย เพราะร่างกายมันไม่มีภูมิอะไร เพราะเรากินยากดภูมิอยู่

ช่วงนั้นพี่ดูแลตัวเองยังไง?
เงาะ : ไม่ประมาท แต่ไม่ถึงกับจำกัดตัวเองทุกอย่าง มันก็จะไม่มีความสุขในชีวิต เราต้องรู้ว่าเราประมาณได้แค่ไหน พอมีอะไรนิดหน่อย เราต้องหาหมอแล้ว เราก็จะมีหมอคอยปรึกษาอยู่ตลอด

ตอนนี้ไข้หวัดใหญ่กำลังระบาดเลย สำหรับพี่น่ากลัวไหม?
เงาะ : ถ้าเป็นมันก็จะแรงกว่าคนอื่น หมอบอกเลยเวลายูไปไหนต้องใส่รองเท้าเดินนะ อย่าถอดรองเท้าเดินตามพื้นดิน ถ้าพยาธิมันไชเข้ามาในเท้าเนี่ยคนปกติมันยังมีภูมิที่จะสู้กับพยาธิได้ แต่เราไม่มีภูมิมันอาจจะถึงแก่ชีวิตได้

มันใช้ชีวิตลำบากมาก?
เงาะ : เราถึงคิดอย่างนี้ เราเป็นไต เราไม่ได้เป็น แต่มันเป็นไป แค่เราอย่าไปผสมกับมัน เป็นแล้วต้องอย่างโน้น อย่างนี้ ไม่งั้นสภาพจิตมันจะสั่งการ

ก่อนที่จะมีไต 3 อัน ตลอด 9 ปีที่เราพยุงมา ข้อที่ควรระวังมีอะไรบ้าง?
เงาะ : เรื่องอาหาร เค็ม ไม่กินผักสด องค์ประกอบหลายอย่าง แม้กระทั่งข้าวกล้องก็กินไม่ได้นะ ผลไม้สีก็ไม่ได้ พวกสีแดงอะไรอย่างนี้ เราต้องสังเกตตัวเราเองว่าช่วงนั้นตัวเราบวมไหมมันจะมียาขับน้ำจากร่างกาย

ไม่ค่อยเห็นข่าวเรื่องความรักของพี่ แต่ก็มีแว๊บๆ ความรักแบบพาร์ตไทม์คืออะไร?
เงาะ : มุมมองความรักมันก็เปลี่ยนไปตามอายุ พอเราอายุมากขึ้น เราก็ไม่ต้องการที่จะมาเจอกันทุกวัน อยู่กัน 24 ชม. ก็เจอกันเมื่อว่าง สำหรับพี่ตอนนี้ไม่ได้คิดเรื่องแต่งงาน ไม่ได้คิดเรื่องชีวิตคู่ ถ้าสมมติจะมีแฟนไม่ต้องมาอยู่ด้วยกันตลอด แบบตื่นมาแล้วเจอกันทุกวัน เราว่าเราไม่ได้ ถามว่าเหงาไหม ไม่เหงา

ทำไมพี่ถึงคิดแบบนี้ขึ้นมา?
เงาะ : มันมีช่วงนึงที่พี่ชอบตั้งเป้ากับชีวิตว่าอายุเท่านี้เราต้องมีบ้าน อายุเท่านี้เราต้องมีรถ อายุขนาดนี้เราควรจะแต่งงานมีครอบครัว พอเสร็จแล้ว 2 อันได้ สุดท้ายไม่ได้ก็ผ่านๆ ไป ก็ไม่เอาอยู่คนเดียวมันก็มีความสุขแล้ว ไม่ชอบให้ใครมาโทร.ถามว่าทำอะไรอยู่ จะกลับกี่โมง

มันเพราะเคยผิดหวังเรื่องความรักมาหรือเปล่า?
เงาะ : เคยผิดหวังเรื่องความรักมาแน่นอนอยู่แล้ว แต่พื้นฐานเป็นคนที่รักตัวเองมาก ฉะนั้นเรื่องผู้ชายถ้ารู้สึกว่าคบแล้วไม่ปลอดภัย หมายถึงความรู้สึกเริ่มไม่ได้แล้ว เราจะทิ้งก่อนเลย คือป้องกันตัวเอง

แล้วทุกวันนี้พี่มีไหมความรักแบบพาร์ตไทม์?
เงาะ : ก็มีคนคุยอยู่ ว่างก็เจอกัน คือไม่ต้องมาอยู่ด้วยกัน 24 ชม. แล้วไม่ได้คิดว่าจะมีใครเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา ตื่นขึ้นมาเจอกันทุกวัน นอนไปพร้อมกันอย่างนี้

แล้วถ้าเขามีคนอื่น?
เงาะ : ถ้าเรารู้ก็เชิญค่ะ แต่จะไม่เสาะแสวงหาว่าอยู่ไหน ทำอะไร ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์ เอ้า...อ่านไลน์ไม่ตอบคืออะไร เราอายุขนาดนี้แล้วก็ไม่ได้คาดหวัง เราอยู่คนเดียวพี่ก็มีความสุขมากอยู่แล้ว เราเลยไม่ต้องหาความสุขจากคนอื่นมาให้เรา เราสร้างได้จากตัวของเราเอง

ว่าแผนตอนแก่ไว้แล้ว?
เงาะ : วางแผนไว้แล้ว คือต้องทำสุขภาพตัวเองให้แข็งแรง พอเราอายุมากขึ้นอย่าไปเป็นภาระใคร แล้วเราไม่ได้มีลูก จะไปหวังว่าหลานที่เราดูจะมาดูแลเรา มันก็ดูเห็นแก่ตัวเกินไป เพราะฉะนั้นเราทำตัวเองให้แข็งแรง มีเงินแล้ว อยากไปเที่ยวไหนก็ไป แค่เอาสภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงก่อน คำว่าเหงาไม่นะ บางครั้ง 24 ชม.ยังไม่พอสำหรับเราเลย คือกิจกรรมของเรามีทั้งวัน อยู่ตรงไหนมีความสุขก็อยู่ อยู่ตรงไหนแล้วรู้สึกอึกอัดก็เดินออกมาแค่นั้นเองชีวิต

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama









กำลังโหลดความคิดเห็น