“ต่าย ชุติมา” เคลียร์ทุกประเด็นดรามา ยันไม่ได้โพสต์แอปเปิ้ลแขวะ “แอฟ ทักษอร” ทักไปหาอีกฝ่ายนิดหน่อย หวั่นเข้าใจผิด แต่ไม่ต้องถึงขั้นยกหูเคลียร์ เพราะไม่จำเป็น ไม่มีเจตนาแซะจะแก้ตัวทำไม พูดเรื่องจูบเท้าก็ไม่ได้หมายถึง “พิธา” ลั่นแฟนเก่ามีหลายคน เชิดใส่ชาวเน็ตขอไม่ให้พูด ไม่ต้องต่อแถว เพราะอยู่หัวแถว
เจ้าแม่ดรามาของแท้ สำหรับ “ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ” หลังจากโดนทัวร์ลงประเด็นแฟนเก่าจูบเท้าสุดโรแมนติก ทำให้คนโยงไปถึง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”จนต้องออกมาเคลียร์ผ่านไอจีส่วนตัว ว่าจะทัวร์ลงเพื่ออะไร เพราะไม่ได้หมายถึงพิธา ล่าสุดก็มีดรามาถูกจับผิดว่าเจ้าตัวโพสต์ภาพแอปเปิ้ล พร้อมข้อความ ONLINE ISN'T REAL. โยงว่าแขวะ “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ”ซึ่งกำลังมีข่าวกับพิธา สามีเก่าหรือไม่
ล่าสุดต่าย ชุติมา เลยขอเคลียร์ทุกดรามา ในงาน ซีไลฟ์ แบงคอก เปิดแคมเปญใหม่ “ผจญภัยกับเปปป้าพิกหมูน้อยสีชมพู ณ ใต้ท้องทะเลสุดมหัศจรรย์” ลั่นมีแต่คนอคติเท่านั้นที่โยงเรื่องนี้ แค่อยากแชร์คติสอนคน ไม่ได้แขวะใคร
“บางทียังไม่ได้ทำอะไร แต่โดนพาดหัวข่าวแบบที่มันไม่ถูกต้อง ก็รู้สึกว่าทำไมไม่ตรวจสอบให้ดีก่อน มันหลายเรื่องๆ อย่างเรื่องรูปแอปเปิ้ล ปกติเราเป็นคนโพสต์เรื่องคติ ธรรมะ สัจธรรมเป็นปกติ ซึ่งพอครั้งนี้โพสต์ไปก็รู้สึกความหมายของในรูปว่าทุกสิ่งทุกอย่างออนไลน์ทุกคนแชร์กิจกรรมกับรูปมันไม่เหมือนกันหรอก มันเป็นสัจธรรม บางคนโชว์แต่ด้านดีๆ อาหารแพงๆ แต่ความจริงเป็นยังไง เหมือนโพสต์ให้ข้อคิด
แต่ทีนี้คือดันเป็นรูปแอปเปิ้ล ซึ่งเราไม่รู้เรื่องว่ามันคืออะไรเหรอ เพราะเราไม่ได้รู้เรื่องราวในโซเชียลว่าเขาเรียกใครแทนใคร เพราเราเป็นคนไม่อ่านเรื่องคนอื่น เราเป็นคนไม่ยุ่งเรื่องคนอื่น เพื่อนก็เลยมาบอกว่าเดี๋ยวคนเข้าใจผิด เราก็เอ๊ะ ทำไมคนต้องตีความ แล้วอีกอย่างนึงมันมีคนแคปรูปแล้วก็เอาไปโพสต์ใส่แคปชั่น ถ้าดูดีๆ ก็จะมีหัวคนที่รีโพสต์ คือเราไม่ได้โพสต์อะไร พอโดนพาดหัวข่าวอีกว่าเราโพสต์รูปนี้พร้อมกับแคปชั่นว่า ‘ดูพยายามดีนะ’ ซึ่งเราไม่ได้โพสต์ เราก็งงว่าเราแชร์อะไรที่มันเป็นคติสอน กลายเป็นว่าโดนผลกระทบมาอีกว่าอยู่นิ่งๆ เหอะ เราก็อ้าว! เราโพสต์อะไรเกี่ยวกับธรรมะ คติสอนไม่ได้เลยเหรอ งง กลายเป็นว่าโดนโยงๆ เพราะฉะนั้นเราโพสต์ด้วยเจตนาดี เจตนาบริสุทธิ์ ไม่ได้คิดอะไรแล้วก็อยากให้ข้อคิดสอนคนด้วย แต่ว่าคนที่อคติ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงคิด ถึงโยงไปเป็นเรื่องอะไรแบบนั้นได้”
ไม่มีปัญหากับแอฟ และไม่ใช่คนโพสต์ด่าออนไลน์
“คิดดูถ้ามีปัญหาจริงๆ จะโพสต์ทำไมเราโตแล้ว เราไม่ใช่คนที่จะมาโพสต์ด่าออนไลน์ มันไม่ใช่ แล้วเราก็ไม่ได้มีปัญหากันด้วยเลยค่ะ”
ไม่ยกหูเคลียร์ แอฟ เพราะไม่จำเป็น ไม่มีเจตนาแซะ จะแก้ตัวทำไม
“ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิด เพราะเราก็รู้สึกว่าเขามีความเป็นผู้ใหญ่ เขาก็เข้าใจสถานการณ์อยู่แล้ว แล้วเราไม่ได้มีปัญหากัน เพราะฉะนั้นถ้ามีปัญหากันอาจจะคิดว่าเรา.. แต่เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย ทีนี้เขาจะโยงได้อย่างไร ถามว่าต้องยกหูไหม ไม่จำเป็น แต่ว่าเพื่อนก็บอกว่าบอกเขาหน่อยไหม เพื่อนก็ชาวบ้าน 1 (หัวเราะ) บอกเขาหน่อยไหมว่าเห็นข่าวหรือยัง แต่เราแค่รู้สึกว่าถ้าเจตนาเราไม่ได้มีอะไรแบบนั้นจะแก้ตัวทำไม”
ทักไปหานิดหน่อย คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเข้าใจ
“แต่ก็มีถามไปว่าเห็นข่าวหรือยัง เพราะตอนนั้นที่เรามีข่าวพี่แอฟเขาก็กลัวเราเข้าใจผิด ซึ่งเราก็ไม่ได้มีอะไร ก็มีทักไปนิดหน่อย อันนี้ไม่ได้มีอะไรเลยนะ เขาก็น่าจะเข้าใจนะคะ”
ย้ำไม่มีปัญหากับแอฟ แต่คนชอบโยงให้มีเรื่อง
“ไม่ได้มีค่ะ เหมือนว่าคนชอบมาโยงทุกเรื่อง ให้มีเรื่อง เอาจริงๆ เรื่องที่หนักคือพาดหัวข่าว เพราะคนไทยอ่านแค่พาดหัวข่าว เนื้อข้างในมันไม่ใช่ ทุกอย่างอยากให้พาดหัวข่าวถูกต้อง เป็นจริง อันนี้ทำข่าวได้เลย แต่ถ้าทำให้คนเข้าใจ ทัวร์มาลง ไม่รู้จะทำ ทำไม
ส่วนที่มองว่าด้วยความที่เราโพสต์กลางๆ อาจจะทำให้คนเข้าใจผิด ก็ถึงได้บอกว่าเราโพสต์ด้วยเจตนาดีและบริสุทธิ์ แต่ถ้าเกิดว่าคนที่อ่านมีเจตนาที่มีความอคติ หรือมีเจตนาที่คิดลบหรือคิดไปเอง อันนี้เราห้ามไม่ได้ แต่เรารู้สึกว่าไม่อย่างนั้นเราโพสต์รูปหรืออะไรต้องมีความหมายแฝงทุกครั้งเหรอ เราไม่ได้เป็นคนยากหรือมีเลเยอร์ขนาดนั้น เป็นคนตรงๆ โพสต์อะไรก็ตามนั้นเลย
ถามว่าอาจจะผิดจังหวะไหม เรามีเรื่องอะไรกับเขาเหรอ คือหมายถึงว่าเพิ่งมีข่าวแล้วก็โพสต์ อันนี้มันก็เหมือนกับว่าเป็นการดำเนินชีวิตของเรามาเรื่อยๆ แล้วเราก็โพสต์อะไรแบบนี้อยู่แล้ว (อยากบอกอะไรคนโยง?) เราก็งงว่าเขียนตอนไหน หรือข่าวที่ก่อนหน้านี้ที่บอกเราพูดก็คือยังไม่ได้พูด พอพาดหัวปุ๊บคนก็มาด่าๆ ว่าเราพูดแบบนี้ได้ไง ตอนไหน ไม่ได้พูด”
จะโพสต์คงต้องคิดให้เยอะขึ้น แต่เชื่อคนจิตใจดีอ่านแล้วก็ไม่มีอะไร
“ก็นิดนึงค่ะ เพื่อนก็คอยเตือนว่าถ้าเป็นกระแสเยอะก็ไม่ต้องโพสต์ ซึ่งเรารู้สึกว่าแล้วทำไมจะโพสต์ไม่ได้ ถูกไหม เราก็โพสต์ปกติอยู่แล้ว และถ้าเกิดว่าเราโพสต์ให้คนที่มีจิตใจที่ดีเขาอ่าน เขาก็ไม่ได้มีอะไร เราทำตัวปกตินะ การโพสต์รูปหรือทำกิจกรรม แต่คนจะชอบมองว่าทำแบบนี้ ทำแบบนั้น ซึ่งเราก็ทำตามปกติ
ถามว่าอึดอัดไหม โดนจับจ้องได้ แต่ว่าอยากให้จับจ้องให้ถูกในเจตนาของเรา ซึ่งครอบครัวเราหรือตัวเราเองไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว เป็นคนปกติธรรมดานี่แหละ ที่เลี้ยงลูกทำงานปกติเลย ไม่ได้แขวะใคร ไม่ได้มีเรื่อง ไม่ได้มีปัญหา ถามว่าก่อนจะโพสต์ต้องคิดไหมว่าจะเป็นประเด็นอีกไหม ก็นิดนึง บางทีเราจะโพสต์เรื่องเป็นห่วงลูก เรายังต้องคิดเลยว่ามันจะกระทบใครหรือเปล่า”
งง ถูกจับโยง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ทุกเรื่อง บอกอยากรู้ให้ดีเอ็มมาถามได้
“คือทุกเรื่องเขาโยงหมด ไม่ต้องไปพัทยา เขาไปนั่งกินข้าวก็จับคู่จาน หรือเราเองไปเขียงใหม่ คนก็ตามไปถามที่ร้านว่าเขามากับใคร ดีเอ็มมาถามก็ได้นะ (หัวเราะ)อะไรแบบนี้ ก็ไม่ต้องขนาดนั้น ถามว่าหรือบางคนอยากเห็นภาพครอบครัวหรือเปล่า พ่อ แม่ ลูก ก็มีเยอะแยะในเน็ต (รู้สึกยังไงที่คนยังลุ้นและเชียร์?) อย่างที่บอกนานาจิตตัง แล้วแต่เขา อยากให้ลุ้นไปด้วยเหรอ (ไม่ต้องลุ้นแล้วใช่ไหม?) ไม่หรอก อย่างที่บอกคือเราทำหน้าที่ตรงนี้หรือเป็นคุณพ่อคุณแม่ของพิพิมก็แฮปปี้ดี”
ไม่มีหนุ่มให้เปิดตัว เพราะโสด
“ไม่มี เปิดตัวหนุ่มอะไร (เจ้าของแหวนล่ะ?) เห็นไหม เล่าให้ฟังว่ามันเคยเกิดขึ้นนะ คนจะคิดว่าไทม์ไลน์คือตอนนี้ ตอนนี้แหละ เพราะฉะนั้นคือเวลาพูดอะไรต้องลงท้าย ณ วันที่ เวลา อะไรอย่างนี้บางทีเราตอบอะไรไปมันเป็นการอัปเดตช่วงนั้น สมมติวันนี้เราทะเลาะกัน เราตอบสื่อว่าโสดค่ะ อีก 2 วันดีกันแล้ว ทุกคนเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ถูกไหม
ตอนนี้โสด ไม่ใช่ ณ วันนี้ คือตอนนี้โสด (หัวเราะ) เหมือนบางทีเล่าอะไรให้ฟังในเรื่องของอดีต อดีตต้องเป็นคนนี้แน่เลยใช่เปล่า คืออดีตก็ไม่ได้มีคนเดียวอายุจะ 40 แล้ว ไม่ได้มีคนเดียวหรอกค่ะ (แหวนวงนั่นคือโมฆะไปแล้ว?) เวลาเล่าอะไรมันเป็นอดีต ถามว่าจบนานหรือยัง จริงๆ เขาก็มาง้อแหละ แค่แบบว่าพอดีกว่า เรารู้สึกยังไม่พร้อมด้วย ถ้าจะมีครั้งที่สองมันก็ต้องมั่นใจกว่านี้นะ เขาก็ยังไม่ได้ทำตัวให้มั่นใจด้วย ถามว่าตอนนี้ก็ลุ้นได้ อีกแล้วหรอ (เมื่อกี้บอกว่าแล้วแต่เขา?) ไม่ใช่ไม่ได้พูด เอาอีกแล้ว พูดตอนไหน ตอนนี้เป็นคุณพ่อคุณแม่ก็แฮปปี้แล้ว ต่างฝ่ายต่างเป็นพ่อแม่ให้พิพิม”
แจงกรณีบอกถูกจูบเท้า วอนชาวบ้าน 1 2 3 ช่วยศึกษาข้อมูลก่อนด่า
“พอพูดว่าอดีต คนก็จะคิดว่าคนนี้แหละ มีคนเดียว แล้วก็เข้ามาด่า เข้ามาคอมเมนต์ ทุกคนเลยนะคะ ศึกษาข้อมูลก่อนนะคะ ทั้งหมดเลย รวมถึงชาวบ้าน 1-2-3 คือเวลาไปออกรายการทุกคนก็โดนถามความรักครั้งแรกเป็นยังไง อดีตมีเรื่องราวอะไรบ้าง อยากให้ดูที่เจตนาของคนตอบจริงๆ มากกว่า ว่าเขาตอบคำถามพิธีกรก่อน ไม่ใช่มีอะไรจะจับโยงไปหมดทำไมคะ โยงเก่ง โยงเก่งมาก”
พอให้ยืนยันว่าไม่ได้หมายถึง “พิธา” เจ้าตัวก็หัวเราะก่อนบอกว่าแฟนเก่ามีหลายคนค่ะ
“(หัวเราะ) จะบอกว่าแฟนเก่าดิฉันมีหลายคนค่ะ ก็หลายคนไงคะ ไม่ได้เหรอ จะเป็นใครก็เถอะ แต่มันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นกับหนึ่งคนแล้วกัน โอเคไหม จบเปล่า แต่ก็ไม่อยากจะไปเจาะจงว่าเป็นใคร ก็แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ ว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว แล้วเรารู้สึกโรแมนติกแบบนี้ เราประทับใจนะ ถ้าบอกว่าได้ดอกไม้ คุณจะมานั่งถามกันไหม เพราะไม่ว่าจะคบใครก็ต้องดอกไม้ทุกคนนั่นแหละ”
โต้โหนกระแส นักปั่น ไม่ได้อยู่ดีๆ ก็เดินไปพูด
“เราไม่ได้อยู่ดีๆ เดินไปพูดนะ รายการเชิญไปแล้วเขาก็ถาม ไม่ใช่ว่าเราไปขอออก ไม่ใช่ เราอยู่เฉยๆ เราอยู่ในวงการอยู่แล้วการไปออกรายการมันก็เป็นเรื่องปกติไหม ก่อนหน้านี้เราอาจจะถอยจากวงการออกมาเพราะไปมีครอบครัว แต่ตอนนี้กลับมาทำงานแล้ว เขาก็เชิญเราไปออกรายการ”
เมินชาวเน็ตขอไม่ให้พูด บอกเป็นิสทธิ์ของตน สามารถเล่าได้
“คือเขาหวงส่วนตัวหรือเปล่า คือเธอ ฉันพูดแล้วเธอรู้สึกอะไรเหรอ ทำไม เป็นสิทธิ์ของเรา แล้วอดีตที่ฝั่งนั้นเขามีเป็นหนังสือเขาก็มี ทุกคนก็มีเรื่องราว มีความประทับใจ มีอดีตที่สามารถเล่าได้”
ไม่ต้องต่อแถว เพราะอยู่หัวแถว
“ก็บอกแล้วไง ไม่ได้ต่อแถวแล้ว ทุกวันนี้คือช่วยกันเลี้ยงลูกกันไป อยู่หัวแถวค่ะ เข้าใจไหม คืออยู่ช่วยกันเลี้ยงลูก ช่วยกันดูว่าลูกจะเรียนอะไร ค่าเทอมยังไง ก็พูดว่าอยู่หัวแถวก็เจอดรามาอีก คืออยากจะบอกว่าอยู่หัวแถวก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ มันต้องรับผิดชอบลูกนะคะ ไหนจะค่าเรียน ค่าอะไรทุกอย่าง ต้องช่วยกันเลี้ยง”