xs
xsm
sm
md
lg

ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เก็ตติ้ง ปักธง โตต่อเนื่อง ด้วย “ไฮบริด มาร์เกตติ้ง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธุรกิจ “เอเจนซี” ไม่ว่าจะเป็น “มีเดีย เอเจนซี” , “แอดเวอร์ไทซิ่ง เอเจนซี” หรือ “มาร์เก็ตติ้ง เอเจนซี” ต่างถูกท้าทายจากดิจิทัล ดิสรัปชั่น ไม่ต่างจากอุตสาหกรรมอื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในวงการโฆษณาต่าง “กังวล” ว่า “ทางรอด” ควรอยู่ในบทบาทใดจากยุคเอเจนซีสู่ “ไฮบริด มาร์เก็ตติ้ง แอดเวอร์ไทซิ่ง”

เนตรประวีณ์ ศักดิ์ศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จากประสบการณ์ด้านการวางแผนการตลาดให้กับแบรนด์ระดับประเทศ มามากกว่า 20 ปี มองว่าในยุคนี้วงการโฆษณาและการตลาด มีการเปลี่ยนไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง เพราะปัจจุบันลูกค้าหรือตัวแบรนด์ สามารถสร้างสรรค์ผลงานไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด หรือโฆษณาออกมาได้เอง ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับงานที่ผลิตจากเอเจนซี เช่นเดียวกับธุรกิจโปรดักชั่นเฮ้าส์ ที่อยู่มานานมีการทำงานควบคู่กับเอเจนซีในฝั่งของการผลิตงานจากไอเดียมาตลอด ซึ่งทั้งหมดถือเป็นรูปแบบการทำงานของ “โลกใบเก่า”

"บริษัท ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เกตติ้ง จำกัด" ภายใต้แนวคิด “ไฮบริด มาร์เกตติ้ง” ที่รวมเอาทุกแพลตฟอร์มการตลาดทั้งออนไลน์ และ ออฟไลน์ มาไว้ให้ครบจบในที่เดียว โดยในตอนแรกเราเริ่มจากการมีพนักงานเพียง 3 คน ซึ่งแต่ละคนไม่ได้มีทักษะการทำงานเพียงด้านเดียว แต่ต้องมีมากกว่า 1 ทักษะ เพื่อลดขั้นตอนการทำงานและการสื่อสารฟอร์แมตเดิม ๆ เพื่อดำเนินธุรกิจให้แตกต่าง

ชุติมณฑน์ ฟ้าภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ด้วยประสบการณ์ด้าน Data Analysis รวมไปถึง ความเชี่ยวชาญในการวางแผนการใช้ Media ให้กับลูกค้า มานานกว่า 10 ปี ตัดสินใจเดินออกจากบริษัท Home Shopping ระดับประเทศที่โด่งดังในขณะนั้น หอบประสบการณ์กว่า 10 ปี จัดตั้ง "บริษัท ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เกตติ้ง จำกัด" ร่วมกับ เนตรประวีณ์ ศักดิ์ศรี

“ในยุคปัจจุบัน เราแทบจะแยกการตลาดและการโฆษณาของโลก ออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ แทบไม่ออก ซึ่งนักการตลาดเรียกเหตุการณ์แบบนี้ว่า “Omni Channel” กล่าวคือ วันนี้ถ้าลูกค้าเห็นโฆษณาสินค้า ตามป้ายบิลบอร์ดบนทางด่วนหรือในรายการทีวี ซึ่งหากมีความสนใจในตัวสินค้านั้น ๆ ส่วนมากมักจะไปตามหารีวิว ต่อในโลกออนไลน์ แล้วอาจจะจบที่เดินเข้าไปซื้อในห้างใกล้บ้าน ซึ่งทั้งหมด กลายเป็น Customer journey ของลูกค้าในปัจจุบัน “บริษัท ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด” เราจึงมีสื่อและรูปแบบการตลาดครบ และสามารถ Support ความต้องการของลูกค้า หรือ Customer Journey ในยุคปัจจุบันเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า” ชุติมณฑน์ กล่าว

โลกที่มีการแข่งขันกันด้วย “ความเร็ว, Content และต้องไปครบทุกแพลตฟอร์ม”การที่ธุรกิจเอเจนซีต้องปรับตัว ก็มาจากแรงกดดันของฝั่งนักการตลาดและลูกค้าองค์กร ก็ต้องปรับตัวตามให้ทันพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและสถานการณ์ที่ส่งผลต่อธุรกิจ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ วันนี้การแข่งขันจึงอยู่ที่ “ความเร็ว” ลักษณะการการทำงานในฝั่งเอเจนซีแบบเดิมจะเริ่มจากการรับบรีฟลูกค้าจนกระทั่งออกมาเป็นชิ้นงานโฆษณาหรือการสื่อสาร แต่ละแคมเปญต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน เพราะต้องทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน จึงเป็นการทำงานที่สวนทางกับโลกธุรกิจที่ต้องแข่งกันเร็ว! วันนี้เมื่อนักการตลาดและแบรนด์เห็นโอกาส ก็ต้องการทำแคมเปญทันที ทั้งการคิดไอเดียและผลิตงาน แต่โลกของเอเจนซีอาจไม่ตอบโจทย์นี้

เนตรประวีณ์ กล่าวว่า “บริษัท ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด” เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่า รูปแบบ เอเจนซี ในปัจจุบัน ต้องทำงานแบบ “ไฮบริดมาร์เกตติ้ง” คิดงานที่เป็น “มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่น” มีการลดขั้นตอนการทำงานลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับเอเจนซีทั่วไป หรือราว 1 เดือนตั้งแต่รับบรีฟถึงออกมาเป็นชิ้นงาน โดยเคสเร็วที่สุดคือ 10 วัน ขั้นตอนการทำงานที่ลดลง มาจากทักษะปรับตัวและมองเกมให้ขาดบนข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว มีสื่อที่สามารถนำเสนอผลงานได้ครบทุกแพลตฟอร์ม มีแผนการขายรองรับที่ชัดเจน

เนื่องจากทางเรา มองลูกค้าทุกคนเป็น Big Partner ทำให้เวลาที่รับโจทย์มาจากลูกค้า จะมีการตั้งคำถาม ลงรายละเอียด รวมทั้งประเมินความเสี่ยง เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพที่ชัดเจนก่อนเริ่มงาน ทางเราจึงค่อนข้างเข้าใจ ในความต้องการของลูกค้า รวมถึง งบประมาณที่ลูกค้ามี ดังนั้น แผนการตลาดที่ออกมาจึงตรงตาม งบประมาณ โจทย์ที่ได้รับ ในขณะเดียวกันจะคอยช่วยระวังเรื่องข้อจำกัดบางอย่างที่ลูกค้ากังวลอยู่ รวมถึงมีแผนงานรองรับมากกว่า 1 แผน เสมอ นอกจากนี้เรายังมีทีมงานด้านการตลาดที่มีความพร้อมแบบไฮบริดไม่ว่าฝั่งกลยุทธ์ ฝั่งมีเดียแพลนเนอร์ และฝั่งครีเอทีฟ มีประสบการณ์ตรงด้าน Customer Journey โดยเฉพาะ ประกอบกับการประสานงานตรงกับลูกค้าแบบทันที สแตนด์บายแบบ 7/24 ทำให้สามารถตัดสินใจได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการตัดสินใจหากมีการทำงานข้ามสายงาน “ไฮบริด มาร์เกตติ้ง” จึงเป็นลักษณะการทำงานที่ยืดหยุ่นและรวดเร็ว ในยุคที่สถานการณ์เปลี่ยนอย่างรวดเร็วและทางแบรนด์ก็ต้องการ “Solution” ที่ทันเกม

ชุติมณฑน์ บอกว่า ปัจจุบัน “บริษัท ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด” นอกจากจะดูแลและวางแผนการตลาดให้กับลูกค้าแล้ว ยังมีสื่อโฆษณาในมือครบทุกแพลตฟอร์ม ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น สื่อทีวี สื่อ Out of home ดารา KOL และ Influencer รวมไปถึง Live streaming ทุกแฟลตฟอร์มออนไลน์
ไฮบริดมาร์เก็ตติ้งโตสวนอุตสาหกรรมโฆษณา เนตรประวีณ์ มองว่าแนวคิดการทำงานและการบริหารงานแบบไฮบริด เป็นคำตอบของการทำงานด้านสื่อสารการตลาดแบบโลกใหม่ เพราะจะมีทั้งความเร็ว (Speed) และความยืดหยุ่น (Flexibility) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดกับการทำงานร่วมกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน “เอเจนซียุคใหม่” จะอยู่รอดได้ต้องเป็น One stop service ให้กับลูกค้าและองค์กร มีแผนงานที่เป็น “Marketing Solution” ที่มากกว่า 1 แผน และมีความสามารถในการประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างชัดเจน

คู่แข่งของ “บริษัท ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด” ไม่ใช่เอเจนซีระดับท็อป และโปรดักชันเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้อยู่ใน Red Ocean ของ Business แต่เรามาในรูปแบบ Marketing Agency พันธุ์ใหม่ที่ คิด ผลิต ขาย จบที่นี่ที่เดียว ท่ามกลางอุตสาหกรรมโฆษณาที่อยู่ในภาวะทรงตัว แต่ “บริษัท ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด” ยังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ปี 2019 ยอดรวมบริษัทอยู่ที่ 5 ล้านบาท ปี 2020 ผลประกอบการอยู่ที่ 31 ล้านบาท ปี 2021 อยู่ที่ 49 ล้านบาท และปีล่าสุด 2022 อยู่ที่ 92 ล้านบาท โดยในปี 2023 ตั้งเป้าที่ 150 ล้านบาท แต่ผ่านไปครึ่งปีแรกทำตัวเลขเติบโตได้เกิน 80 ล้านบาท
จากจุดเริ่มต้นบริษัทเรามีพนักงานเพียง 3 คน ปัจจุบัน เรามีพนักงานมากกว่า 50 คน ที่เรียกได้ว่า Full function เท่ากับ เอเจนซีระดับสากล ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราขายงานได้ มากกว่า 15 แบรนด์ โดยมี Billing มากกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่มาถูกทาง ปัจจุบันลูกค้าของ บริษัท ทูที มัลติมีเดียแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด มีทั้งลูกค้ากลุ่มอาหารเสริม เครื่องสำอาง และกลุ่มธุรกิจบริการ อาทิเช่น แบรนด์ Mizumi / Bomi, แบรนด์เจ้านาง, แบรนด์คอลลาจีไฟว์ (ในเครือสหพัฒน์), แบรนด์ฮาวิลาห์, ร้านบาร์เบอร์ NEVERSAYCUTZ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นการบอกต่อจากลูกค้าเดิม ถึงแนวทางการทำงานแบบ ไฮบริดมาร์เก็ตติ้ง

“วันนี้โลกเปลี่ยนไปเร็วมาก คนที่จะอยู่รอดได้ต้องเปลี่ยน Mindset เดิม ต้องเรียนรู้และพัฒนาตลอดเวลา ที่สำคัญ ต้องไม่ยึดติดกับวิธีการเดิมๆ เพราะแค่วันนี้ถ้าเรายังอยู่กับที่ เท่ากับว่าพรุ่งนี้ โลกจะผลักเราให้เดินถอยหลังทันที” เนตรประวีณ์ กล่าวทิ้งท้าย

ช่องทางติดต่อ
Inbox : http://m.me/2TMultimedia2018
Line : https://bit.ly/3TkAIw0
TikTok : https://www.tiktok.com/@2tmultimedia
Website : www.2tmm.com







กำลังโหลดความคิดเห็น