ตัดสินใจเอาตัวเองออกมาเป็นกรณีศึกษา แบบไม่กลัวจะชวดมงฯ เลยทีเดียว สำหรับ MUT นครปฐม “อิงอิง วิชญาดา ชาติธีรรัตน์”ผู้เข้าประกวด Miss Universe Thailand 2023 ที่ขอยืดอกยอมรับ ว่าเคยผ่านการทำแท้งมาก่อน เพราะเป็นการท้องไม่พร้อมจากความผิดพลาดทาง physical โดย “อิงอิง” ได้เปิดใจแบบหมดเปลือก ว่าเป็นสิ่งที่เสียใจที่สุดในชีวิต แต่คงเสียใจกว่านี้ ถ้าลูกเกิดมาในความไม่พร้อมของพ่อแม่ ที่กล้าออกมาพูดเรื่องนี้ ก็เพราะอยากให้เข้าใจคนที่ประสบปัญหา และอยากให้เห็นว่าผู้หญิงก็มีทางเลือกในการใช้ชีวิตของตัวเอง
“ที่อยากมาประกวด MUT เพราะเป็นการ Empowering Women และ Empowering สังคมค่ะ เพราะอิงเอาตัวเองออกมาเป็นกรณีศึกษาให้สังคมเห็น ว่าผู้หญิงควรมีทางเลือกให้การใช้ชีวิต แล้วการที่จะให้คนในสังคมได้เห็นภาพอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด คือต้องมีแรงบันดาลใจและต้องมีเคสตัวอย่าง ที่จริงอิงสามารถนอนอยู่บ้านก็ได้ หลีกเลี่ยงการตอบคำถามก็ได้ แต่อิงเอาตัวเองมาเป็นประเด็นในสังคม ทางด้านบวกและลบ เพื่อให้คนในสังคมได้เห็นภาพมุมกว้างมากขึ้น ว่าตอนนี้สังคมเกิดประเด็นอะไรอยู่ เกี่ยวกับการทำแท้งถูกกฎหมาย และที่ผ่านมาการที่อิงทำแท้งถูกกฎหมาย ไม่ได้หมายความว่าอิงไม่รู้สึกเสียใจ เราก็คือคนที่ผ่านการเป็นแม่มาก่อน เราก็สูญเสียลูกน้อยอันเป็นที่รักไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากมาบอกคนในสังคม คือปีนี้คอนเซ็ปต์ ‘The Unlimited’ จักรวาลไร้ขีดจำกัด อิงมาเพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า เวที MUT ไร้ขีดจำกัดจริงๆ ค่ะ แล้วเราก็ Empowering สังคมได้มากจริงๆ ค่ะ”
เอาตัวเองมาเป็นกรณีศึกษา เพื่อหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
“หยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูด เพราะอิงทำคอนเทนต์และโครงการเกี่ยวกับการแท้งไม่ผิด เพราะเราก็สูญเสีย และอิงคือคนหนึ่งที่ประสบพบเจอกับปัญหานั้นจริงๆ การที่เอาตัวเองออกมาเป็นกรณีศึกษาให้กับคน นั่นหมายความว่าสังคมจะมีประเด็นและมีบุคคลตัวอย่าง ในการถกเถียงกันมากยิ่งขึ้น อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งยิ่งใหญ่ และอาจจะเป็นตัวขับเคลื่อนกฎหมายการทำแท้งถูกกฎหมาย ให้กับสตรีได้มีทางเลือกอย่างถูกต้อง ให้เขาไม่ต้องไปทำแท้ง ไปเหน็บยาเอง หรือไปทำอะไรที่เสี่ยงกับตัวเอง เพราะฉะนั้นแล้วอิงไม่กลัวทัวร์ เพราะความจริงก็คือความจริง เราคือสตรีที่มาขับเคลื่อนสตรีด้วยกันค่ะ”
เคารพความเห็นของทุกคน แต่ไม่อยากให้ลูกเกิดมาเจอกับความไม่พร้อมเหมือนตัวเอง
“อิงเคารพการตัดสินใจและเคารพการแสดงความคิดเห็นของทุกท่าน เพราะอิงไม่สามารถกลับไป และบอกตัวเองว่าไม่ทำแท้งไม่ได้ ณ วันนั้นอิงอยู่ในสถานการณ์ที่กลั่นกรองแล้วว่า ถ้าลูกอิงเกิดมาในภาวะที่พ่อและแม่ไม่สมบูรณ์ พ่อและแม่ไม่พร้อม เขาจะต้องมีปัญหาทางด้านการศึกษา การเงิน สังคม และเขาจะต้องรู้สึกไปตลอดชีวิต ว่าทำไมพ่อกับแม่เลี้ยงดูฉันได้ไม่ดีพอ ซึ่งอิงก็เป็นหนึ่งในนั้นอิงไม่อยากให้ลูกโตมาเหมือนที่อิงเป็น เพราะฉะนั้นหลายคนอาจจะคิดได้ว่ามันคือสิ่งที่ผิด แต่ถ้าสังคมได้ตระหนักถึงเรื่องนี้บ่อยๆ หรือถ้าอิงออกมาพูดเรื่องนี้บ่อยขึ้น คนก็จะเห็นเอง ว่าเจตนารมณ์ของผู้เข้าประมูลคนนี้ทำมันคืออะไร อิงไม่ได้ต้องการแสงหรือคอนเทนต์ แต่มันเป็นการ Empowering คนจริงๆ”
ท้องตอนอายุ 22 ยังเรียนไม่จบ มีการวางแผนครอบครัวแล้ว แต่ก็ไม่พร้อมด้วยทุนทรัพย์
“เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก่อนประกวดทุกเวทีในประเทศเลย อิงก็ป้องกันอย่างดีค่ะ แต่ในโครงการของอิง จะบอกว่าตัวอิงเองและตัวผู้อื่น สามารถตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้ด้วยเหตุสุดวิสัย การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การถูก sexual harassment แต่ของอิงมีการป้องกันถูกวิธี แต่มันก็เกิดความผิดพลาดทาง physical กับอดีตแฟนที่เลิกกันไปแล้วค่ะ ก็จบกันด้วยดี ด้วยความเข้าใจ ว่าถ้าไปต่อในฐานะของคู่ชีวิตไม่ได้ ก็ให้จบลงในฐานะเพื่อนค่ะ คือเราไม่ได้ตั้งใจที่จะมีน้อง และไม่ทราบด้วยว่ามีการตั้งครรภ์ แต่มันอยู่ในสัปดาห์ที่กระทรวงสาธารณสุขบัญญัติไว้ ว่าสามารถทำแท้งแบบถูกต้องตามกฎหมายได้ค่ะ
ตอนที่รู้ว่าท้อง ก็คุยกับแฟนทุกวิถีทาง ในการหาทางออก หาวิธีการที่จะเลี้ยงดูเขา เราไตร่ตรองทุกอย่างถี่ถ้วน คำตอบก็เหมือนเดิม อย่าเกิดมาในสภาวะที่พ่อและแม่ไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาเลยยอมรับตรงๆ ว่าอิงคือประชาชนคนธรรมดา ที่พบเจอปัญหาจริงๆ อิงเลยเอาตัวเองมาเป็นกรณีศึกษา ว่าฉันอาจจะเคยผิด แต่ความผิดพลาดครั้งนั้น ฉันก็คือคนที่สูญเสียเช่นกัน อิงเลยตัดสินใจว่า ไว้พร้อมเมื่อไหร่ฉันจะดูแลเด็กคนนี้ ให้เขารู้สึกว่าภูมิใจเหลือเกิน ที่เขาได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อและแม่
ตอนนั้นเราก็มองถึงเหตุผล ทุนทรัพย์ การใช้ชีวิตต่อ วางแผนครอบครัวเป็นอย่างดี แต่คิดว่าถ้าเขาต้องเกิดมาในภาวะที่เรารักเขา แต่ทุนทรัพย์ไม่ได้รักเขาในตอนนั้น เชื่อว่าหลายคนในสังคมจะพูดว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็จะสามารถหาเงินได้ สมัยก่อนกับสมัยนี้ต่างกันมากนะคะ เลี้ยงลูกด้วยความรักอย่างเดียวไม่พอค่ะ ต้องเลี้ยงลูกด้วยเงินด้วยค่ะ ตอนนั้นอิงอายุ 22 ปี ยังเรียนไม่จบก็ไปวางแผนครอบครัวที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลก็สอบถามพ่อของเด็กและอิง ซึ่งคำตอบที่ถูกต้อง คือต้องบรรลุนิติภาวะ หากไม่บรรลุนิติภาวะ จะต้องมีผู้ปกครองเซ็นยินยอม และช่วยเหลือในการวางแผงครอบครัว หลังจากนั้นเขาก็จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่ขึ้นตรงกับรัฐ เพื่อเอาเด็กออกด้วยวิธีที่ถูกต้อง และปลอดภัยกับผู้เป็นแม่”
ไม่ได้เลิกกับแฟนเพราะท้อง แต่เพราะทัศนคติที่ไม่ตรงกันและเรื่องความซื่อสัตย์
“ไม่ได้เป็นส่วนนั้นซะส่วนใหญ่ค่ะ ก็จะเป็นเรื่องของทัศนคติไม่ตรงกัน การทำงาน การใช้ชีวิตที่ไม่ตรงกัน และมีเรื่องของความซื่อสัตย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยค่ะ”
เสียใจที่สุดในชีวิต กับการต้องเลือกตัดสินใจแบบนั้น
“เสียใจที่สุดในชีวิต เท่าที่ลูกผู้หญิงคนหนึ่งจะเสียใจได้ แต่มันจะเสียใจกว่า ในวันที่เราเห็นลูกต้องมาทุกข์ทรมาน จากการที่มีเราเป็นแม่ และเราก็ไม่ได้ให้ความรักเขาอย่างเต็มที่ อันนั้นจะน่าเสียใจกว่าถ้าเขาเกิดมาแล้วเขาไม่พร้อม เราเองก็ไม่พร้อมเช่นเดียวกัน ไม่อยากให้ลูกเกิดมามีตราบาป รู้สึกว่าทำไมแม่ไม่อยากมีหนู อยากให้ลูกเกิดมาในฟีลลิ่งที่ว่า ขอบคุณแม่นะคะที่ทำให้หนูเกิดมา และแม่ก็ขอบคุณหนูเหมือนกัน ที่หนูเกิดมาเป็นลูกแม่ค่ะ”
มีทางออกหลายทาง แต่คำนวณแล้วการทำแท้งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ณ ตอนนั้น
“จริงๆ ทางออกมันมีหลายทางมา รวมถึงวิธีการในการเลี้ยงดูเขาต่อ แต่เราคำนวณการเงินเป็นอย่างดี เราคำนวณถึงภาวะทางสังคม สิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ เราเลยได้คำตอบสุดท้าย ว่าการเอาเด็กออกต้องเป็นกระบวนการวิธีที่ถูกกฎหมายและปลอดภัย อิงไตร่ตรองทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน เพราะจริงๆ การทำแท้งถูกกฎหมายเปิดกว้างมากๆ นะคะในต่างประเทศ แล้วเขาก็บัญญัติอยู่ในกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ว่าเด็กหรือเยาวชนที่ไม่พร้อม หรือสตรีที่มีการตั้งครรภ์ไม่พร้อม สามารถทำแท้งถูกกฎหมายได้ค่ะ ดีกว่าการเอาเด็กไปทิ้งกองขยะ หรือให้เขาไปเป็นเด็กกำพร้า”
ไม่หวั่นเสียภาพลักษณ์นางงาม เพราะไตร่ตรองมาดีแล้ว
“ต้องขอบคุณความคิดพวกนี้ที่เข้ามาเช่นกัน เพราะอิงก็มีการไตร่ตรองตัวเองก่อนที่จะมาประกวดแล้ว สิ่งหนึ่งที่ไตร่ตรองคือโจทย์ของเวที การเสริมศักยภาพให้คนอื่น การเป็นกรณีศึกษา การเป็นแรงบันดาลใจ อาจจะไม่ได้เป็นแรงบันดาลใจในทางที่ถูก แต่จำไว้นะคะ อิงคือกรณีศึกษาให้คนเห็นว่า การคุมกำเนิดเป็นเรื่องที่สำคัญ และการทำแท้งถูกกฎหมายก็เป็นเรื่องที่คนในสังคมควรตระหนัก ว่าผู้หญิงหลายๆ ท่านควรมีทางเลือกในการใช้ชีวิตของตัวเอง เข้าใจถึงภาพลักษณ์ของการเป็นนางงามค่ะ แต่โจทย์ของเวทีคือการเสริมศักยภาพให้คนอื่นในด้านที่ถูก ถึงแม้การทำแท้งจะเป็นเรื่องที่ยังถกเถียงกันในสังคม แต่อิงเชื่อเหลือเกินว่าถ้าทุกเข้าใจในความเป็นลูกผู้หญิง ในความที่เด็กคนหนึ่งต้องเกิดมาในความไม่พร้อม คนในสังคมจะช่วยกันผลักดันให้ผู้หญิงเหล่านี้มีทางเลือกในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้นค่ะ”
ไม่ได้สนับสนุนใหัทำแท้ง แต่อยากสอนวิธีคุมกำเนิดที่ถูกต้อง
“จริงๆ โครงการของอิง ไม่ได้สนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนมีทางเลือกในการทำแท้งเพียงอย่างเดียวนะคะ หลักๆ เราจะสอนและจะบอกวิธีคุมกำเนิด วิธีดูแลใส่ใจตัวเองในเรื่องเพศทั้งสตรีและ LGBT ทุกอย่างรวมอยู่ในโครงการของอิง เพราะว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเกิดการท้องไม่พร้อมได้เสมอ”
ยอมรับเป็นตราบาป แต่แค่อยากให้เห็นว่าผู้หญิงมีทางเลือกในการใช้ชีวิต
“ตราบาปก็อาจจะใช่ ศีลธรรมก็อาจจะใช่ แต่ความเชื่อนั้น ความรู้สึกนั้นเราอาจยกไว้ในใจได้ แต่ความจริงของมนุษย์ ของคนรากหญ้าเหมือนที่อิงเป็น เราคือคนที่ประสบปัญหา อิงไม่อยากให้คนมองว่า ยกโครงการนี้มาเพื่อให้ได้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น อิงแค่อยากให้เห็นว่าผู้หญิงทุกคนมีทางเลือกในการใช้ชีวิตของตัวเอง”
จะพลาดมงฯ ก็ไม่เป็นไร แค่ได้ออกมาพูดเรื่องนี้ก็พอใจแล้ว
“ถ้าวันนี้จะพลาดมงฯ MUT แต่สิ่งหนึ่งที่ภาคภูมิใจ คืออิงได้เห็นพลังของคนในสังคมเรียบร้อยแล้ว อิงมาแค่นี้เลย อยากให้สังคมได้รับแรงกระเพื่อมจากโครงการที่อิงทำ แค่นี่อิงพอใจแล้ว เพราะคนในโครงการ 200 กว่าคนรออิงอยู่ เป้าหมายของอิงคืออยากให้เรื่องนี้ ถูกยกไปในระดับโลก เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่ยอมรับการทำแท้ง แต่ทำไมประเทศที่พัฒนาแล้วเขาถึงยอมรับ”