ทำเอาด้อมส้มกรี๊ดแตกกลางไลฟ์รายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ของ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” หลังจากที่วันนี้ (2 มิ.ย.) รายการได้เชิญ “ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ว่าที่นายกฯ คนใหม่ของเมืองไทย มาร่วมพูดคุยกันในรายการ ทั้งการแสดงวิสัยทัศน์เรื่องการเมือง มีการพาดพิงไปถึง “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ คนปัจจุบันว่าไม่เคยประกาศยอมแพ้ และไม่เคยส่งมอบงาน เดี๋ยวนี้โลกสมัยใหม่ความเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ฉะนั้นต้องมีการเปลี่ยนผ่านของอำนาจอย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้ประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อทำงานต่อไป ตอนนี้ก็มีหลายเรื่องที่ไม่มีคำตอบ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นโมเดลใหม่ที่การเมืองไทยไม่เคยมี แต่การเมืองสากลก็เป็นเรื่องปกติที่ทำแบบนี้ในโลกใบใหม่แบบนี้ อยากให้เป็นการทำงานคู่ขนานกันไป
ส่วนที่อีกฟากอาจไม่ชอบใจ ซัดว่าไม่มีมารยาท ไม่กระมิดกระเมี้ยนอยากเป็นนายกฯ เหลือเกิน ทิม พิธาก็เผยว่า นิยามมารยาทต่างกัน ในมุมของตน ถ้าเกิดเลือกตั้งมาแล้วเจตจำนงไปฝั่งตรงข้าม ตนก็ต้องยอมรับว่าพ่ายแพ้การเลือกตั้งและพร้อมส่งมอบงานต่อให้คนต่อไป แม้กระบวนการเกี่ยวกับนิติศาสตร์ก็ดี แต่กระบวนการรัฐศาสตร์ก็ต้องไปคู่กัน
ถ้าเป็นฝ่ายแพ้ ถามว่าจะทำยังไง ก็ประกาศความพ่ายแพ้ ยินดีกับคู่แข่ง เอาประชาชน ประเทศเป็นที่ตั้ง และเตรียมส่งมอบงานให้คนชนะการเลือกตั้ง ที่ประชาชนให้ฉันทามติในการทำงานมา ถึงเป็นคู่แข่งกันในการหาเสียง แต่หลังการหาเสียง เขาจะทำงานให้ดีที่สุดเพื่อประเทศชาติในแบบฉบับของเขาตนว่านี่คือความสำคัญของระบบประชาธิปไตย ที่เป็นระบบ ไม่ใช่แค่รัฐบาลไหนรัฐบาลหนึ่ง
ถึงแม้ตอนเลือกตั้งสู้กันเต็มที่ แต่ถึงเวลาก็ส่งมอบงานกันต่อ ตนว่าไม่ใช่สากล เป็นสามัญสำนึกมากกว่า ถ้าเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เอาประเทศเป็นที่ตั้งก็ให้เขาทำงานให้ดีที่สุดในแบบฉบับของเขา แน่นอนว่าการทำแบบนี้ต้องรักษาความสมดุล เรารู้ว่ามารยาทเราทำได้แค่ไหน การพูดคุยมีหลายรูปแบบ แบบทางการ ไม่เป็นทางการ แบบเราเชิญเขา เขาเชิญเราก็มี แต่ก็ต้องพูดให้ชัดว่าเราไม่ได้ไปสั่งไป ไปขอข้อมูลลับเขา แต่อยากจะฟังเขามากกว่า ระดมความเห็น หารือ รับฟังเขามากกว่า
นอกจากนายกฯ สนใจตรงไหนอีก การต่างประเทศ เศรษฐกิจ และกลาโหม แต่ถ้ามีบุคลากรเก่งกว่าก็ให้เขาทำ ตนคิดว่าการเป็นผู้นำไม่ต้องทำทุกอย่าง บางทีเราดูภาพกว้างแล้วให้คนลงลึกให้จะง่ายกว่า เราดูได้ทุกกระทรวงอยู่แล้ว แต่เราทำงานเป็นทีม
กรณีมีคนบอกจะค้านเต็มที่ เพราะจะเข้ามาจะแก้ 112 ไม่ได้กังวลเรื่องข้อกฎหมาย กังวลเรื่องความสัมพันธ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์กับคนในยุคปัจจุบัน และอนาคต และจะทำยังไงต่อ ก็ยอมรับว่ามีความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจอยู่ ก็เลยเสนอว่าการรักษาที่ดี ไม่ใช่ทำให้สิ่งที่เรารักและหวงแหนย่ำอยู่กับที่ แต่ให้เกิดวิวัฒนาการ พัฒนาไปกับบริบทใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ผู้ใหญ่หลายท่านพอกังวลใจเรื่องนี้พอได้ยินแบบนี้ก็เข้าใจ และสิ่งที่ตนทำจะอยู่ในสภา ท่านมีสิทธิ์ที่จะได้พูด ไม่มีใครผูกขาดความจงรักภักดีได้ ไม่มีใครผูกขาดว่าจะจัดสัมพันธ์สถาบันกับสังคมแบบไหน ท่านก็มีสิทธิ์พูด มีสิทธิ์ออกความคิดเห็น ในที่สุดจะหาทางออกทางนี้ได้ คิดว่าตนคงไม่ได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์หรอก แล้วท่านก็คงไม่ได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ด้วย แต่อย่างน้อยคิดว่าน่าจะดีขึ้นกว่าปี 63 64 65 ที่ผ่านมา ต่อไปในอนาคตทำยังไงให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนรุ่นต่อไป กับสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการรักษาและพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อให้ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขคงอยู่ได้
ถามว่าจะไปเปิดช่องให้เขาวิจารณ์สถาบันไหม ตนมองว่าสาระสำคัญของเรื่องกฎหมายมาตรา 112 คือการหาจุดสมดุลใหม่ ระหว่างสิ่งที่อยู่ในใจของพี่น้องประชาชน สิทธิเสรีภาพ กับการคุ้มครองประมุขของรัฐ ที่ท่านกังวลใจ คือเป็นจุดสมดุลในอดีต ความรู้สึกของยุคสมัยเป็นแบบนั้น การจัดการบริหารความสัมพันธ์เป็นแบบนั้น แต่ต้องยอมรับใช่ไหมว่าเวลาผ่านไป ก็ต้องมีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ
ถ้าเราจะรักษาสิ่งที่เป็นขนบธรรมเนียมจารีตของเราให้คงอยู่ สิ่งที่ต่างกันคือต้องการแช่แข็งเหมือนเดิม เป็นจุดสมดุลแบบเดิมๆ หรือเป็นจุดสมดุลใหม่ๆ เพื่อให้เกิดวิวัฒนาการ และสามารถอยู่คู่กับสังคมไทยในทศวรรษที่ 21 ได้ นั่นก็ยังเป็นการเห็นต่างกัน แต่ท่านส.ว.หลายท่านก็เริ่มเข้าใจ เขาก็กังวลเหมือนที่ผมกังวล เขายอมรับว่าปัจจุบันนี้ความสัมพันธ์ไม่เหมือนในอดีต และอนาคตถ้ายังไม่ทำอะไร อาจมีท่าทีห่างเหินกันไปเรื่อยๆ คำถามคือจะรักษายังไงให้อยู่ในระบอบการปกครองที่เราอยู่ปัจจุบัน คือระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต่อไป อธิบายให้เขาฟังว่าสิ่งที่เสนออาจไม่ได้เป็นอย่างที่ผมพูด พอเข้าไปอยู่ในสภา ส.ส. และส.ว. ก็มีสิทธิ์ ซึ่งในรายการ ทิม พิธา มีการตอบอีกหลายคำถาม ที่ประชาชนอยากรู้
ช่วงท้ายรายการ สรยุทธ ก็บอกว่ามารายการนี้ต้องเต้น ทิม พิธาก็ให้สรยุทธเต้นด้วย เพลงน่ารักอะไรเบอร์นี้ ของ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร รวมทั้งเล่นกีต้าร์ ร้องเพลงโชว์ ไปหลายเพลง อาทิ คืนนี้ขอหอม , ขอจันทร์ , เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ ร้องได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ดำน้ำกันไปจนจบรายการ