“ดิว อริสรา” เปิดใจ ไม่เหมือนในละคร! ลั่นเป็นสะใภ้ไต้หวันไม่ง่าย ต้องทำเองทุกอย่าง (คลิป)

ชีวิตดี๊ดี และลงตัว จนสาวๆ อยากมีอาชีพเป็น “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” กันถ้วนหน้า หลังได้เป็นภรรยาของ “เซบาสเตียน ลี” นักธุรกิจหนุ่มจากไต้หวัน

แต่ล่าสุดสาวดิวได้ออกมาเผยชีวิตอีกด้านที่ต่างจากสิ่งที่คนอื่นคิด ในการเป็นสะใภ้ไต้หวัน ซึ่งไม่เหมือนในละคร ในรายการสับปากหวานเจี๊ยบ EP.247 ซึ่งดิวบินลัดฟ้าจากไต้หวันมาเมืองไทย พร้อมอัปเดตชีวิตความเป็นอยู่ที่ไต้หวันให้ฟัง

“ไม่เจอกัน 3 เดือนเต็ม ไม่เรียกว่าย้าย เพราะจริงๆ แล้วบ้านเซบ ซึ่งเป็นสามีอยู่ที่นั่น ถึงเวลาไปอยู่ที่บ้านเขา เพราะพ่อแม่เขาอยู่ที่นั่น ไซลาสก็โตขึ้น ลูกเราก็จะได้มีคุณปู่คุณย่า คุณป้าโน่นนั่นนี่ เราก็ให้คุณแม่เราบินไปด้วย ซึ่งครอบครัวเขาดูแลเราดีมากนะ เป็นครอบครัวที่น่ารัก เข้าใจว่าเซบไม่ได้กลับไปไต้หวัน 3 ปี ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง เซบก็ไม่ได้มีบ้านหลังเดียวในไต้หวัน ดิวเป็นขาช็อป ปกติกล่องใส่ทิชชู่ เราเลือกก็ไม่ได้ดูราคา เลือกแล้ว 8 อัน แต่พบว่าอันนึง 4 หมื่นกว่าบาท ถอยก่อน

ถามว่าปรับตัวยากไหม เอาความเป็นจริงในช่วงแรก เราแค่รู้สึกว่าเราเหนื่อย เป็นแม่ศรีเรือนที่ต้องจัดแจงทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง ขณะเดียวกันสามีเราก็ช่วยทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่ได้ปรับตัวมาก แต่สิ่งที่ค้นพบว่าไม่ได้อยู่ในฟีลนั้น เราไปเจอที่นั่น เช่นสงบจิตสงบใจ สมองโล่ง กลับมาวันแรกๆ กินส้มต้มอยากกลับไต้หวันเลย มันจี๊ดๆ เราไม่ได้อยู่ในโหมดนั้นมา 3 เดือน แล้วมันเหนื่อย มันใช้เอนเนอร์จี้เยอะ

ถามว่าตอนนี้ชินกับสถานะตัวเองหรือยัง ความเป็นแม่ไม่ต้องใช้คำว่าชิน เพราะเราเป็นแม่ แต่ไม่คิดว่าเราจะรักอะไรได้มากเท่านี้ ความสุขมันง่ายมากเลยที่จะมี ถามว่าตอนไปถึงใหม่ๆ อะไรที่ไม่ลงตัว จัดการกับมันยังไง ในเมื่ออยู่ที่นี่มีคนทำให้ ไปวันนึงเกือบ 10 ห้าง แล้วเดินชั้นหนึ่งถึงชั้นแปด บางทีต้องมาใช้เอนเนอร์จี้กับที่ขัดชักโครก อาหารการกินอร่อยมาก ไม่คิดถึงอาหารไทยเลย เอาง่ายๆ ดิวกลับมาไทย ไม่กี่วัน ดิวคิดถึงอาหารไต้หวัน

ชีวิตในไทยกับไต้หวัน ถามว่าอันไหนสบายกว่า มันคนละฟีล พอเราไปอยู่ที่นั่นก็ค้นพบว่าทำอะไรได้มากกว่าที่เคยทำได้เยอะนะ ถามว่าสะดวกสบาย ที่นี่สะดวกสบายที่สุดอยู่แล้วเพราะเราเคยชินกับมัน และมีผู้ช่วย ต้องการอะไรเรามีคอนเนกชั่น เพื่อนถ้าพูดถึงอาจดูใจร้าย แต่เราไม่คิดถึง เราเอ็นจอยกับโมเมนต์นั้น เป็นสะใภ้จริงๆ แล้วเราไม่อยากเป็นคนที่อยู่กับครอบครัวเขาแล้วกดแต่โทรศัพท์ ดิวจะทิ้งโทรศัพท์ไปเลย ซึ่งโทร.มาดิวอาจไม่ได้รับ

ถามว่าอยากย้ายไปอยู่ไต้หวันถาวรไหม ดิวคงไปๆ มาๆ พออยู่ไต้หวันเราก็เอ็นจอยกับตรงนั้น พอกลับมาไทยเราก็เพิ่งรู้สึกตัวเองเหมือนกันว่ากูก็คิดถึงประเทศไทยว่ะ ในวันที่ไซลาสค่อยๆ โตขึ้น เซบก็อยากให้ลูกเห็นโลกเยอะๆ บวกกับเราเป็นพ่อแม่ที่ค่อนข้างมีเวลาก็ไปเลยจ้า ลุยเต็มที่

ถ้าเซบต้องการให้ดิวอยู่ข้างๆ ไซลาส ถ้าเป็นความต้องการของเซบและเป็นการตัดสินใจของครอบครัวจริงๆ และต้องทิ้งทุกอย่างที่มี ดิวก็พร้อมที่จะทำ แต่เราโชคดีที่ลึกๆ ครอบครัวเขาเข้าใจเรา สิ่งที่เราพยายามทำให้เขาได้เห็นมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาพูดว่าเขาเซอร์ไพรส์ ก่อนดิวกลับมา เซบก็พูดว่าเขาเซอร์ไพรส์ ไม่คิดว่าดิวจะเป็นได้ คือโหมดสะใภ้ที่ดี แว๊บแรกเขามาสารภาพกับดิวว่าเขาคิดภาพไม่ออกว่าถ้าพ่อแม่เขาแก่หรือป่วยไม่สบาย ดิวจะรักและดูแลพ่อแม่เขาได้ดีไหม เพราะดิวดูเป็นสาวปาร์ตี้อย่างที่ทุกคนเห็น แต่พอสามเดือนที่ผ่านมา คำตอบนี้เป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดว่าล้านเปอร์เซ็นต์ดิวทำได้”