เป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจหลังจากที่สื่อญี่ปุ่นได้มีการเผยแพร่เรื่องราวอื้อฉาวของบริษัทผลิตภาพยนตร์อนิเมชันระดับตำนานอย่าง "สตูดิโอ จิบลิ" (Studio Ghibli) ออกมา โดยพุ่งเป้าไปยัง "โทชิโอะ ซูซูกิ" อดีตประธานบริษัทซึ่งปัจจุบันรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ของบริษัทว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังหลงหญิงไทยอย่างหนักกระทั่งทำเอาบริษัทระส่ำระสาย
ตามข่าวระบุว่านอกจากจะเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการเงินแล้ว โปรดิวเซอร์ของจิบลิยังดึงหญิงไทยคนนี้เข้ามามีบทบาทในการทำงานของสตูดิโอด้วยการให้ทำโปรเจ็กต์ต่างๆ ทั้งที่ไม่มีความสามารถ เรียกง่ายๆ ว่าผลาญเงินบริษัทไปเปย์ให้กับสาวที่ตนหลงรักนั่นเอง
(อ่านข่าว : สื่อญี่ปุ่นตีข่าว Studio Ghibli ระส่ำระสายหนัก! หลังผู้ก่อตั้งบริษัทเปย์หญิงไทยไม่ลืมหูลืมตา)
สำหรับหญิงไทยที่กำลังตกเป็นข่าวนั้นมีชื่อว่า "เมย์ กานต์ญาดา พระแท่น" ตามรายงานระบุว่าทั้งสองพบกันหลายปีก่อน จากการที่อดีตประธาน Studio Ghibli เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทย แล้วไปเที่ยวที่ร้านอาหารอีสานร้านหนึ่งในอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นของฝ่ายหญิง
หลังได้พูดคุยจึงรู้ว่าเจ้าของร้านคนนี้เป็นหญิงลูกติดชื่อ "เมย์" ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับตัวละครหลักในเรื่อง My Neighbor Totoro หนึ่งในผลงานสร้างชื่อของจิบลิ ทำให้เขารู้สึกถึงความผูกพันมากขึ้น
พอได้รู้ว่าหญิงไทยคนดังกล่าวกำลังมีปัญหาเรื่องเงิน ร้านกำลังจะปิด เขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือเธอด้วยการเปิดร้านอาหารที่ชื่อ May’s Garden House Restaurant ในซอยสุขุมวิท 29 พร้อมยกลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนจิบลิให้หญิงสาวมาใช้ ในตอนนั้นเองที่ชื่อของ "เมย์ กานต์ญาดา พระแท่น" จึงปราฏขึ้นมาเป็นครั้งแรกในฐานะแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดร้านดังกล่าวขึ้นมา
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เปิดตัวได้ไม่นาน May’s Garden House Restaurant ก็ต้องปิดตัวลงในปี 2018
จากผู้บริหารร้านอาหาร เวลาต่อมาสาวไทยคนนี้ก็เริ่มเข้าไปมีบทบาทในบริษัทจิบลิมากขึ้น เริ่มจากการที่ "โทชิโอะ ซูซูกิ" ได้สร้างให้เธอเป็นช่างภาพในชื่อ "กานต์ญาดา" ด้วยการตีพิมพ์ภาพถ่ายและบทกวีที่ระบุว่าเป็นฝีมือของเธอเป็นประจำทุกเดือนในชื่อ จากปักธงชัย ‘From Pak Thong Chai’ ลงใน Neppu จุลสารรายเดือนที่จัดพิมพ์โดยสตูดิโอจิบลิ
จากนั้นจึงมอบหมายให้เธอถ่ายภาพพิพิธภัณฑ์จิบลิพร้อมตีพิมพ์รวมเล่มในชื่อ Mitaka no Mori Ghibli Museum, The Tale of Ghibli Museum รวมถึงหนังสือภาพ “KANYADA”(Toseisha) ซึ่งเป็นการรวบรวมภาพทิวทัศน์ของปักธงชัย ประเทศไทย ซึ่งเล่มนี้มีการพิมพ์ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อปีที่แล้วนี้เอง
ที่สำคัญ ที่ผ่านมาผู้บริหารญี่ปุ่นคนนี้ยังมีการจัดงานอีเว้นท์ นิทรรศภาพถ่าย ออกงานแจกลายเซ็นคู่กับเธอ เพื่อพยายามชูบทบาทและความสำคัญของหญิงไทยคนนี้อยู่ตลอด ทั้งที่ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทยเมื่อช่วงต้นปีพ.ศ. 265 ในชื่อ My style, My ghibli ซึ่งเป็นการจัดร่วมกันระหว่าง "ยูนิโคล่ ประเทศไทย" กับ "สตูดิโอจิบลิ" และนั่นเองที่ชื่อของ "กานต์ญาดา" ปรากฏชื่อในฐานะช่างภาพคนสำคัญของจิบลิอย่างเป็นเรื่องเป็นราวครั้งแรกในบ้านเรา
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สิ่งหนึ่งที่แฟนๆ รวมถึงพนักงานของ Ghibli เองอดสงสัยไม่ได้ก็เห็นจะเป็นความสามารถในด้านการถ่ายภาพของเธอว่ามือดีถึงขนาดที่ได้รับหน้าที่หรือไม่? ไม่เพียงเท่านั้นหลายคนยังสงสัยด้วยว่าจริงๆ แล้วเจ้าตัวนั้นมีความรักและผูกพันในตัวการ์ตูน Ghibli มากน้อยเพียงใดอีกด้วย
ทั้งนี้ ถ้าย้อนกลับไปมื่อ 2 ปีที่แล้ว แม่เลี้ยงเดี่ยวชาวไทยคนนี้เคยให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่มีโอากาสได้มาถ่ายภาพให้กับสตูดิโอยักษ์ใหญ่โดยระบุว่า..."ดีใจนะคะที่เป็นคนไทยที่มีโอกาสมาร่วมงานกับบริษัทใหญ่ๆ แล้วก็โดยส่วนตัวก็ชอบตัวการ์ตูนของ...เอ่อ โตโตโร่ อยู่แล้วด้วย แล้วมีโอกาสได้มาถ่ายทำถ่ายรูป แล้วก็มีผลงานของตนเอง ก็ดีใจค่ะ ดีใจมากๆ"
"ครั้งแรกที่ได้ไปดูเลยก็ไปกับโรงเรียน เพราะว่าเคยมาเรียนภาษาที่นี่แล้วก็โรงเรียนเค้าพาไป ก็คือ ไปถึงก็ อ่า ได้ไปเห็น เค้าเรียกว่าอะไรนะ ที่เหมือนแบบเป็นโรงหนังเล็กๆ ค่ะ ที่ถ่ายทำเป็นตัวการ์ตูนอะไรแบบนี้น่ะค่ะ มันเป็นฉากต่างๆ ก็รู้สึกแบบชอบมาก"
"จริงๆ ปกติแล้วตัวเองเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว แต่คือจะถนัดถ่ายรูปวิว อะไรอย่างนี้น่ะค่ะ ไม่ถนัดถ่ายคน อือโดยปกติมันไม่มีการเซ็ตฉากค่ะ คือถ้าแบบเจอบรรยากาศแบบไหนที่ชอบหรือว่าอะไรที่เป็นจุดสนใจเรา แบบดึงดูดให้ตัวเราอยากถ่าย ก็ถ่ายเลยค่ะ ไม่ได้มีการเซ็ตอะไรใดๆ ทั้งสิ้น"
"น่าจะเป็นวิว เป็นธรรมชาติ เป็นแสงอะไรแบบนี้ ตอนที่ถ่ายเราก็จะดูในมือถือของเรา ภาพมันก็จะเล็กๆ ใช่มั้ย แต่พอมาดูที่มันเป็นรูปเล่มแล้วคือ มันแบบมันดูใหญ่ขึ้น แล้วก็ดูสวยขึ้นกว่าในมือถือเยอะเลยน่ะค่ะ ก็ภูมิใจ..."
นอกจากนี้ในการให้สัมภาษณ์ตอนท้ายเธอยังบอกถึงความรู้สึกที่มีต่อโปรดิวเซอร์ของจิบลิด้วยว่า "เหมือนพ่อ"
จากคนที่นำเคยเอาแรงบันดาลใจของตัวเองมาทำงาน สร้างสรรค์ตัวการ์ตูนกระทั่งกลายเป็นที่ถูกใจของคนทั่วโลก แต่ตอนนี้ "โทชิโอะ ซูซูกิ" เองกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักว่ากำลังทำให้จิบลิเองต้องสั่นคลอนเพราะแยกเรื่องส่วนตัวกลับเรื่องงานไม่ออกเสียแล้ว
คงต้องติดตามกันดูว่าสุดท้ายเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร?
![](https://w3.mgronline.com/banner/ent-banner.png)