xs
xsm
sm
md
lg

“คิมเบอร์ลี่ - มาริโอ้” เผากันยับ ฝ่ายชายรับขูดนมตัวเองกับกำแพง ให้ชมพู! กลัวสู้คิวท์บอยไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“มาริโอ้ - คิมเบอร์ลี่” เปิดใจละคร “หมอหลวง” ไม่ใช่ภาคต่อ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” เป็นละครน้ำดี มีสาระ แต่ไม่อยากให้คาดหวังหรือเปรียบเทียบ มาริโอ้ลั่นในเรื่องมีแต่คิวท์บอยกล้ามแน่นๆ ต้องเอาหัวนมไปขูดกำแพงให้สีชมพูสู้! คิมเบอร์ลี่ดรามาเฉย ร้องไห้ถ่ายวันสุดท้าย รับเล่นกันไหลลื่นเหมือนคนรู้ใจ

ออนแอร์ตอนแรกก็ได้ฟีดแบ็กที่ดี ทั้งเรตติ้งและกระแสชื่นชม สำหรับละครเรื่อง “หมอหลวง” ทางช่อง 3 งานนี้ “มาริโอ้ เมาเร่อ” และ “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” ก็ได้เล่าบรรยากาศในการทำงานให้ฟัง ว่าเป็นกองที่มีแต่ความสนุกสนาน เล่นกันไหลลื่น เหมือนรู้ใจในการแสดงกันไปแล้ว ก่อนยัน หมอหลวง ไม่ช่ภาคต่อ ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง

คิมเบอร์ลี่ : “ไม่ใช่ค่ะ ไม่ภาคต่อ ไม่ใช่ภาคอะไรเลยค่ะ แต่เป็นเรื่อง หมอหลวง เป็นเรื่องใหม่ แต่ก็จะมีแค่นักแสดงที่เหมือนเดิม”

มาริโอ้ : “มีเหมือนเดิมบ้าง และก็มีใหม่ๆ อีกหลายคนเลย ตอนแรกผมก็คิดว่าเป็นภาคต่อ แต่พอได้อ่านแล้วก็รู้ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย และก็ที่สำคัญคือคนละยุค คนละสมัยเลยครับ เพราะอย่างทองเอกเป็นในยุครัชกาลที่ 5 ของเราหมอหลวง ยุครัชกาลที่ 3 ครับ เป็นเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยเหมือนกัน”

คิมเบอร์ลี่ : “ในเรื่องของคิมไม่ได้ทำการบ้านเยอะมากค่ะ แต่ก็จะมีเรื่องอาการทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ เพราะเราเป็นหมอยุคปัจจุบัน ก็จะมีเรื่องอวัยวะ ภาษาที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน อันนี้ก็จะต้องท่องแล้วก็จะต้องมาเล่าให้เขาฟัง ต้องมาแลกเปลี่ยนความรู้กัน แต่ของพี่โอ้จะมีเรียนเยอะอยู่”

มาริโอ้ : “ของผมเยอะครับ ก็ตั้งแต่วันแรกเลยที่เริ่มเหยียบเข้ากองนี้ ก็เริ่มเรียนเลยครับ มีการย่ำข่าง เป็นการรักษาแบบหนึ่งในการคลายเส้นของยุคสมัยนั้น และจะเป็นเหล็กร้อนๆ เลยครับวางไว้กับถ่าน แล้วก็ให้เอาเท้าจุ่มน้ำมัน แล้วก็ผ่านให้ไฟลุกให้เท้ามีความร้อนไปเพื่อคลายเส้น แต่ขนหน้าแข้งก็หายนะครับ ร่วงไปครึ่งขา แต่คือมันเป็นยุคนั้นมันก็เป็นยุคที่ต้องเป็นแบบนี้ครับ

ในเรื่องจะมีนักเรียนหมอจริงๆ มาสาธิตให้เราดูตลอด บางทีหมอก็จะบอก เนี่ยโอ้…สบายมาก ไม่ร้อน แต่ผมมองไปที่ขนหน้าแข้งมันยู่ มันคดติดกันไปหมดเลย ลองจริงๆ ไม่ใช่แค่โอ้นะครับ นักเรียนหมอคิวท์บอยทั้งหมด เรียนกันหมดขนหน้าแข้งหายหมด แต่คือมันสนุกและมันรู้สึกว่ามันว้าว มันไม่ได้มีแค่นี้ มีแบบใช้ปลิงรักษา เอาปลิงมาเพื่อดูดพิษออก ดูดเลือด บางคนนักเรียนหมอเขากลัวปลิง ปลิงก็ไม่ใช่ตัวเล็กๆ ตัวมันเท่ามือเลย ของจริงเลยครับ นักเรียนหมอโดนกัดจริงเลยครับ แผลก็ไม่ได้นิดเลย”

คิมเบอร์ลี่ : “ชีวิตจริงถามว่าทำเองได้ไหม ได้ๆ จริงๆ ค่ะ คือทุกอย่างที่ทำก็คือเป็นสูตรของจริงหมดเลย เป็นประวัติศาสตร์จริงด้วยค่ะ”

มาริโอ้ : “สามารถทำได้เอง แต่ว่าถ้าเป็นอะไรที่มันลึกซึ้งก็ไปหาหมอการแพทย์แผนไทยเถอะครับ ในละครจะมีบอกว่ายาตัวนี้ใช้รักษายังไง จะมีบอกตลอด สรรพคุณและวิธีการรักษา”

คิมเบอร์ลี่ : “เรื่องนี้จะมีเรื่องเกี่ยวกับตัวยา และโรคต่างๆ ค่อนข้างเยอะกว่าเรื่องทองเอกด้วยซ้ำค่ะ”

ไม่ถึงกับต้องเชือดเฉือนกันด้วยข้อมูลความรู้ที่มาจากคนละยุค
มาริโอ้ : “จะเรียกว่าเชือดเฉือนไหม ก็ไม่ถึงกับเชือดเฉือนครับ แต่ว่าคือเขามีความรู้ในยุคของเขา เราเป็นนักศึกษาเหมือนกัน เราจะให้ความเคารพความรู้ของกันและกัน คือต่อให้เขาพูดมาเราไม่เข้าใจ แต่เราก็พยายามที่จะ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้ คือเราคิดไม่ออกแต่ว่าเราก็พยายามที่จะตามเขาอย่างที่เขาเล่า เพราะความรู้เขาก็เยอะมากเหมือนกัน”

คิมเบอร์ลี่ : “พาร์ตของคิมต้องศึกษาศัพท์เฉพาะต่างๆ ขนาดนั้นค่ะ ก็คือวาดเป็นคนเลยแล้วก็อวัยวะต่างๆ และความเชื่อมโยงของร่างกายมันมีอะไรบ้างอันนี้คือทำการบ้านเองค่ะ พวกอุปกรณ์คิมไม่ค่อยได้ใช้เรื่องนี้ เพราะว่าเอาไปไม่ได้ ไปแต่ตัวค่ะ แต่ก็อย่างที่พี่โอ้บอกก็จะมีการแบบแลกเปลี่ยนความรู้ คือตัว บัว เองก็เป็นนักเรียนที่ฉลาดมากเหมือนกันค่ะ แล้วก็หัวไวเหมือนกัน แล้วก็มีความรู้เยอะ แต่ว่าเป็นคนแบบไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง 

คือมีความผิดพลาดเพราะความไม่มั่นใจในตัวเอง มันก็เลยเป็นการสื่อสารที่สมบูรณ์ที่ทำให้เรามาเจอกัน ก็อยากจะให้ไปดูในเรื่องว่า เราเติมเต็มอะไรให้กันและกัน ส่วนศัพท์เฉพาะค่อนข้างจะมีเยอะ ก็ต้องคล่องเลยค่ะ ต้องฝึก ต้องทำการบ้าน แล้วก็ท่องบทให้จนคล่องเลยค่ะ แต่คิมรู้สึกว่ายากก็จริง แต่ว่าไม่ได้ยากเท่าศัพท์โบราณแบบที่พี่โอ้ท่อง คือคิมไม่สามารถท่องได้แบบนั้น เพราะเคยแล้วในเรื่องทองเอก แล้วสุดท้ายก็คือแก้ไขยับเลย”

มาริโอ้ : “ส่วนเรื่องเคมีของเรา จริงๆ แล้วคือเราเริ่มมาจากเราไปช่วยเขาก่อน คิมเขาหลุดมาแล้วในยุคนั้นมันมีสงครามอยู่ มันมีการสู้รบ มีการฆ่าฟันกันเกิดขึ้น แล้วเราดันไปเจอเขา ไม่รู้หรอกครับว่ามาจากไหนแต่รู้แค่ว่าแต่งตัวแปลก ก็เลยพากลับมาเพราะว่าเห็นเขาเจ็บอยู่ อุ้ย เล่าเยอะไม่ได้ เริ่มจะไปไกลแล้ว”

เผยคิวท์บอยมีแต่กล้ามแน่นๆ ต้องเอาหัวนมไปถูกำแพงให้สีชมพูสู้!
คิมเบอร์ลี่ : “โอ้โห คิวท์บอยซิกแพ็กหมดเลย (หัวเราะ)”

มาริโอ้ : “(เราก็เป็นตำนานคิวท์บอย?) อุ้ย แต่คิวท์บอยของหมอหลวง โอ้บอกเลยว่าเด็ดมาก”

คิมเบอร์ลี่ : “แต่หัวนมเขาชมพู (หัวเราะ)”

มาริโอ้ : “น้องไม่รู้ ผมขยี้ก่อนเข้าฉาก

คิมเบอร์ลี่ : “(หัวเราะ) อ้าวเหรอ”

มาริโอ้ : “ผมบิวต์ๆ เพราะผมได้ชื่อนั้นมาแล้วไง ก่อนเข้าฉากผมบิวต์ เดินขูดกับกำแพง (ทำท่าส่ายหน้าอก)”

คิมเบอร์ลี่ : “(หัวเราะ) เลือดซิบหรือเปล่า”

มาริโอ้ : “ซิบนิดหนึ่ง แต่ชมพูไง หลุดเรื่องคิวท์บอยไปไกล คือคิวท์บอยน่าสนใจทุกคน ต้องบอกว่าวันแรกที่ได้ไปลองเวิร์กช็อปผมประทับใจมาก เพราะถอดเสื้อกันหมดเลย ผมแบบเฮ้ยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ใจตุ๊บๆ ทำไมเราเห็นกล้ามแล้วใจเราเต้น อ๋อ มันหลายคน พาตื่นเต้นไงเฮ้ยผู้ชายๆ อะไรแบบนี้ (หัวเราะ) ถามว่าผมสู้ได้ไหม ผมบอกเลยว่า ไม่แพ้กันเพราะแต่ละคนมีเสน่ห์ของตัวเอง”

ต้องเข้าฟิตเนส ไม่อยากแพ้คิวท์บอย
คิมเบอร์ลี่ : “ไม่แพ้หรอกเพราะหลังจากที่พี่โอ้เห็นเขาถอดเสื้อเขาเข้าฟิตเนสเลยจนดัมเบลตกใส่เท้า (หัวเราะ) เท้าแตก”

มาริโอ้ : “บางอย่างไม่ต้องเล่า (หัวเราะ) (อันนี้เรื่องจริง?) เรื่องจริง

คิมเบอร์ลี่ : “พอดัมเบลตกใส่เท้าก็เลยช่างมัน ขายหัวนมแล้วกัน (หัวเราะ)”

มาริโอ้ : “ช่างมัน ก็เลยเน้นที่หัวนม คราวนี้เน้นหัวนม เฮ้ย ก็ได้อยู่นี่หว่า (ยิ้ม) (เน้นสิ่งที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว?) ใช่ (ยิ้ม) เรื่องนี้ถอดเยอะครับ คือไม่ใช่แค่ผมคนเดียวแก๊งคิวท์บอยด้วย บอกเลยว่าเป็นสีสันและเสน่ห์ของหมอหลวงเลยนั่นแหละครับต้องติดตาม”

นอกจากหุ่น ฝีมือการแสดงก็สุดยอดทุกคน
มาริโอ้ : “ฝีมือเพื่อนนักแสดง โอ้บอกเลยว่าสุดยอดเพราะเห็นตั้งแต่วันเวิร์กช้อป พอวันมาเล่นจริงๆ พวกเขาเอ็นเนอร์จี้เต็มมาก พอเล่นรู้สึกว่าเขาเตรียมมาดีการบ้านเขาก็เต็มที่พอได้เล่นด้วยกันก็รู้สึกว่า เฮ้ยไม่ต้องเล่นเลย เหมือนกับคิมเบอร์ลี่ครับเล่นกับเขาก็ไม่ต้องเล่น”

“คิมเบอร์ลี่” ไม่ให้คิวถ่าย เพราะไม่อยากให้จบ ร้องไห้ดรามาเข้าฉากวันสุดท้าย
คิมเบอร์ลี่ : “ถามว่ามีนอกบทไหม มันไม่ได้เรียกว่าอิมโพรไวส์ เพราะว่าบทมันไม่ได้เป๊ะอยู่แล้ว (หัวเราะ) คือมันเข้าปากเรา พี่ชุจะบอกตลอดเลยว่าถ้าติดตรงไหนเอาที่เข้าปากเราไม่ต้องบทเป๊ะอะไรแบบนี้เราก็เลยไม่จำเป็นต้องอิมโพรไวส์แล้วเพราะเราก็พูดไปเรื่อยอยู่แล้ว (หัวเราะ) ความสนิทก็ช่วยรับส่งได้ง่าย ไม่ใช่แค่สนิทกับพี่โอ้นะแต่คือทั้งกองสนิทกันหมดเลยกับทีมงานเหมือนมาอยู่กับพี่น้อง เหมือนอยู่บ้าน เหมือนไม่ได้มาทำงาน”

มาริโอ้ : “ใช่ๆ เหมือนไม่ได้มาทำงาน เหมือนมาพักผ่อน”

คิมเบอร์ลี่ : “ จนไม่อยากให้ปิดกล้องเลย ตอนนั้นเศร้ามาก”

มาริโอ้ : “ดรามาเฉย (หัวเราะ) ผมดีใจนะ เพราะร้อน ถ่ายกลางแจ้ง คิมร้องไห้วันสุดท้ายแล้วไม่อยากถ่าย

คิมเบอร์ลี่ : “ไม่ให้คิวด้วย”

มาริโอ้ : “แต่วันร้อนบ่นนะ วันสุดท้ายร้องไห้”

คิมเบอร์ลี่ : “วันสุดท้ายคือ ไม่ ไม่อยากให้คิว คิวสุดท้ายบอกพี่ต้นไม่ต้องให้คิว ไม่อยากปิดกอง”

มารีโอ้ : “ถ่ายกัน 6 เดือนครับ”

คิมเบอร์ลี่ : “ถ้าไม่มีโควิด 3 เดือนปิดแน่นอน”

มีนำการรักษามาใช้ในชีวิตจริง
คิมเบอร์ลี่ : “มี คิมเป็นภูมิแพ้วันนั้นกำเริบหนักมาก แล้วตอนนั้นอยู่ในกอง หมอเขาก็แนะนำสูตรหนึ่งมาให้ นำเอาหัวหอมมะนาว มาใส่หม้อแล้วเอาหน้าไปอังให้น้ำมูกไหล อันนั้นใช้ได้จริงนะ รู้สึกจมูกโล่งเลย แล้วในเรื่องก็มีจริง”

ชมพี่โอ้หล่อนัมเบอร์วัน ฝ่ายชายลั่นต้องใช้เงินซื้อหาพวกเพิ่ม
คิมเบอร์ลี่ : “พี่โอ้เขานัมเบอร์วันอยู่แล้ว (หัวเราะ) เอาเงินมาด้วย จริงๆ เขาจ้างทุกคนเลยให้พูด(หัวเราะ) ไม่มีมุมไหนที่พี่โอ้ไม่หล่อเลย อันนี้พูดจริงๆ เพราะว่าพี่โอ้หน้าเล็กไง”

มาริโอ้ : “อายุมันก็เริ่มเพิ่มครับ เราก็ต้องหาพวกเพิ่มนิดนึง ใช้เงินซื้อนิดหนึ่ง(หัวเราะ)”

ประทับใจ มาริโอ้ร้อนแค่ไหนก็ไม่เคยบ่นเลย มาริโอ้รับเล่นกับคิมเหมือนเล่นกับคนรู้ใจ
คิมเบอร์ลี่ : “ประทับใจในการทำงานด้วย เพราะว่าไม่เคยได้ยินพี่โอ้บ่นเลยสักครั้งเดียว ถึงแม้เขาจะเหงื่อออกขนาดไหน ร้อนขนาดไหน พี่ชุเดินมาถามโอ้ร้อนไหมลูก พี่ก็จะบอกไม่เลยครับพี่ชุ แต่ก็ปาดเหงื่อไปด้วยนะ เราก็จะบอกสุดยอด การแสดงเยี่ยม(หัวเราะ) คือเราขี้บ่นไง จะพูดไปเรื่อยโอ้ยร้อน หิว แต่พอเห็นพี่โอ้ เราก็เลยรู้สึกว่าต้องทำแบบพี่โอ้บ้าง(หัวเราะ)”

มาริโอ้ : “คุ้นเคยกันอยู่แล้ว เขาเป็นคนตั้งใจ แล้วเขาเป็นคนที่เวลาเล่นแล้วไม่กั๊ก รู้สึกว่าเขามีความธรรมชาติเวลาเล่นกับคิมมันเหมือนรู้ใจกัน เราเจอกันมาอยู่แล้ว พอจะเข้าฉากดรามา เราจะรู้ใจ ไม่เล่นกันเยอะ จะเงียบๆ ถ้าเฮฮา เราก็จะเล่นกันเต็มที่ ที่กองมันทำให้เราสองคนจูนกันง่ายมากครับ ทำงานกับน้องง่ายมากๆ”

แซวยับเรื่องเดินชูแหวนถูกขอแต่งงาน
มาริโอ้ : “สวยซิจ๊ะ ราศีเขาจับสาวเยอรมันไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ช่วงที่เขาเดินอยู่ในกอง เป็นช่วงที่ได้แหวนมาใหม่ๆ เรียกยังไงก็ไม่หัน สวยมากน้องตอนนั้น เดินเชิดเลย ผมจะถามคิมเหมื่อยไหม คิมเดินชูมือตั้งแต่ลงรถมาเลย”

คิมเบอร์ลี่ : “พี่โอ้บูลลี่แหวน (หัวเราะ)

มาริโอ้ : “ผมบอกว่าแหวนพาหุรัดหรือเปล่า (หัวเราะ) หมากๆ (ปริญ สุภารัตน์) เพชรพาหุรัดหรือเปล่า ของจริงๆ”

ห่วงคนดูจับผิด ทุกอย่างต้องเป๊ะ
มาริโอ้ : “ห่วงครับ อย่างที่บอกว่าว่าเรามีแพทย์มาดูให้หมด ทั้งแพทย์แผนไทย และแผนปัจจุบัน ซึ่งถ้าผิดก็เทกใหม่ บางทีแค่นิดๆ หน่อยๆ แค่เทตัวยาผิด ก่อนหรือหลังกันก็ไม่ได้ ต้องทำให้ถูกต้องตามหลักการแพทย์ทั้งหมดเลยครับ ถามว่ากังวลไหม ก็ทุกอย่างครับ กังวลทั้งแบบแผน กังวลทั้งบล็อกกิ้ง กังวลทั้งไดอะล็อก กังวลไปหมด เพราะว่าผิดก็ต้องถ่ายใหม่ บางทีกดดันตรงที่ตัวยามีน้อย ใช้สอยอย่างประหยัด เทพลาดไปเทกหนึ่ง ทีมพร็อบมองหน้าเลย เข้าใจใช่ไหม บทก็ต้องพูดเทยาก็ต้องแต่น้อย ลำบากไปหมด

ถามว่าจะมีแบบนี้ให้เล่นอีกไหม ตอนนี้ต้องสนับสนุนยุคของ ร.3 ก่อน ขอเรตติ้งเยอะๆ อยากจะบอกว่าในยุครัชกาลที่ 3 น่าสนใจมากๆ เพราะว่ามีเรื่องของการแพทย์แผนตะวันตก และตะวันออกเข้ามาด้วย และก็มีเรื่องสงครามด้วย”

ออกอากาศพร้อมกันหลายประเทศ ยันเป็นละครน้ำดี มีสาระ ฟีลกู้ด ไม่อยากให้เปรียบเทียบและคาดหวัง
คิมเบอร์ลี่ : “ใช่ค่ะ ทั่วอาเซียเลย ใช่ไหมพี่โอ้”

มาริโอ้ : “ไม่เยอะขนาดนั้นมั้ง (หัวเราะ) ก็ดีใจครับ เพราะชาวต่างประเทศเขาเคยดู ทองเอก Herbal doctor มาก่อนแล้ว คราวนี้เขาก็ต้องมาดู Royal doctor ด้วย”

คิมเบอร์ลี่ : “ที่เกาหลีดังมากเลยนะ เขาพูดว่า ทองเอก ได้ แล้วเขาก็เรียกละครเราว่าละคร ไม่ได้เรียก Drama ตอนไปเกาหลี มีคนมาขอถ่ายรูปเยอะ แล้วก็บอกว่าเขาดู Herbal doctor ยังไงก็ฝากละครด้วยแล้วกันนะคะ ขอให้ดูอย่างมีความสุข ไม่ต้องคิดอะไรเลย ปล่อยใจให้สบายๆ ไม่ได้ไปเปรียบเทียบ และก็ไม่ต้องคาดหวังเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ไปเลย รับลองว่าจะฟีลกู้ด ทุกคนจะได้สาระ และเป็นละครที่น้ำดีมากๆ อยากให้ทุกคนได้ดูกันจริงๆ ค่ะ

มาริโอ้ : เหมือนอย่างที่น้องคิมบอก มันน่าสนใจมาก แล้วก็ไม่ได้มีละครที่พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับแพทย์แผนไทยแบบนี้บ่อยๆ และยังมีแพทย์แผนปัจจุบันทุกอย่างมารวมกันอยู่ในภาคนี้ครับ ฝากไว้ด้วย หมอหลวง ไม่ใช่ภาคต่อจากเรื่องที่แล้ว มาดูกันได้เลยครับ ทุกวันจันทร์-อังคาร 2 ทุ่มครับ”









กำลังโหลดความคิดเห็น