xs
xsm
sm
md
lg

“กวาง ฟ้ารุ่ง” เผยเป็นเพื่อน “พิ้งกี้ สาวิกา” จากจิตวิญญาณ พูดถึงเพื่อนในเวอร์ชั่นใหม่หลังออกจากเรือนจำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เป็นอีกคู่เพื่อนที่รักกันมากๆ สำหรับ “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” และ “กวาง ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม” มิสยูนิเวิร์ส 2007 ซึ่ง กวาง ฟ้ารุ่ง ได้มานั่งคุยในรายการ คุยแซ่บshow เปิดใจครั้งแรกหลังเพื่อนสนิท พิ้งกี้ สาวิกา ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวพร้อมเผยความรู้สึกหลังพิ้งกี้โดนแอบอ้างเป็นผู้จัดการโกงเงิน 

“พิ้งกี้ สาวิกา” เขาน่ารัก หรือดียังไง เราถึงมั่นใจที่จะเปิดเผยและอยู่เคียงข้างเขา?
“พิ้งกี้เป็นเพื่อนกันมา 10 กว่าปีแล้ว เราผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทุกข์หรือสุข เขาน่ารักกับเราตลอดแล้วเขาซัปพอร์ตเรา เวลาเรามีเรื่องทุกข์เขาก็คุยกับเรา เวลามีความสุขเราก็แชร์กัน มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนยาวนาน”

ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่ เราซัปพอร์ตเพื่อนเต็มที่เลย?
“กวางว่าอันนี้มันคือหน้าที่ของเพื่อน เพื่อนที่ดี เราเป็นเพื่อนที่จิตวิญญาณ เหตุการณ์ที่แฮปปี้มีความสุข เราก็อยู่ด้วยกัน แต่คำว่าเพื่อนจริงๆ คือตอนที่อยู่ด้วยกันคือตอนที่ทุกข์ที่สุด แล้วกวางก็เลือกตรงนั้น”

ก่อนที่กวางตัดสินใจโพสต์ข้อความ ตอนนั้นกวางได้คิดไหมว่าถ้าเราโพสต์ไปแล้ว เราจะโดนกระแสแบบไหน และเชื่อว่ากวางรู้ว่าต้องโดนทัวร์ลง แต่กวางก็เลือกทำแบบนั้น เพราะอะไร?
“ใช่ กวางมองเรื่องความสัมพันธ์เป็นอันดับ 1 แล้วยิ่งเรามีครอบครัว เรามีลูก เราตระหนักถึงความรักและความสัมพันธ์มากๆ พอคนที่ใกล้ชิดกับเรา ที่เรามีทุกข์ มีสุขร่วมกัน แล้วคนข้างๆ เขาเป็นทุกข์ ทำไมเราต้องมานึกถึงด้านอื่นเหรอ กวางรู้สึกว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือครอบครัวของเราก่อน คนใกล้ชิดของเราก่อน นั่นคือสิ่งที่สำคัญมากๆ กวางเลยไม่ได้นึกถึงตัวเองว่าเราจะต้องกลัวอะไรไหม”

ช่วงนั้นก็เครียดมากเหมือนกัน เครียด เพราะโดนทัวร์ลงหรือเพราะสงสารเพื่อน?
“สงสารเพื่อน มันค่อนข้างจะช็อก ก่อนที่จะมีเรื่องอะไรก็ตาม กี้ก็มาที่บ้าน 2 วัน เขาก็จะมาเล่นกับน้องอารยา (ลูกสาว)”

ก่อนที่จะขึ้นศาลถูกไหม?
“ใช่ ก็มาเล่นที่บ้าน มีความสุขร่วมกัน พอมีข่าวมาปุ๊บ ตอนแรกกวางคิดว่าข่าวปลอมหรือเปล่า แต่พอมาเจอตอนนั้นมันเป็นความจริง ก็เครียดมากเลย ตอนนั้นตามข่าวทุกอย่าง ตามหาความจริงว่ามันเป็นยังไง เราไปที่ศาลด้วย คือรู้ว่ามันอาจจะไม่ได้คำตอบอะไรใดๆ แต่คือแบบจะต้องทำยังไงให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

ได้มีโอกาสถามเพื่อนไหม?
“คือถ้าช่วงนั้นไม่ได้คุยกันแล้ว เพราะว่ามันเกิดเหตุการณ์พร้อมกันหมดที่ทุกคนได้ทราบ”

แต่พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นทางศาลก็อนุญาตว่ามีบุคคลแค่ 10 คนเท่านั้นที่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยม แล้วเราเป็นคนเดียวในวงการบันเทิงที่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยม “พิ้งกี้”?
“ตอนแรกที่เราจะรู้ว่าเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ได้มันต้องใช้เวลา ต้องเขียนรายชื่อ ใจเราคิดอยู่แล้วว่า เธอต้องเขียนชื่อเราลงไปนะ คนข้างนอกไม่สามารถที่จะแจ้งได้ ต้องเป็นคนข้างในที่เขาจะเลือกให้เข้าพบได้ ไม่ได้โฟกัสเลยว่าเราจะเป็นคนเดียวหรือไม่ เพียงแต่เรารู้สึกว่าเราจะทำยังไงให้เพื่อนเรามีกำลังใจ และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตเขา”

ที่เจอเขา เขาบอกอะไร เขาพูดอะไรกับเราบ้าง?
“ส่วนมากมันเป็นการให้กำลังใจกันมากกว่าว่าเดี๋ยวทุกอย่างจะต้องผ่านพ้นไปด้วยดี แล้วเราเองดูแลหน้าที่ซัปพอร์ตจากเพื่อนๆ เพราะเพื่อนๆ จะรู้ว่าพอเราได้เจอก็จะมีการฝากข้อความแล้วก็ส่งจดหมาย มีรูปแนบให้เขาเพราะว่าเราสามารถส่งให้เขาได้ แล้วบอกถึงความเป็นไปว่าเป็นยังไง แต่ส่วนมากเราจะรับฟังมากกว่า เพราะว่าคนที่เป็นทุกข์เขาอยากจะพูด อยากจะระบาย เพียงแค่เจอหน้าเราปุ๊บ เขาก็รู้สึกแล้วว่าเขามีกำลังใจ แล้ววันหนึ่งก็ได้แค่ครั้งเดียวที่เจอกัน”

เห็นบอกว่าในบทสนทนาของ “พิ้งกี้” จะพูดแต่เรื่องเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าเป็นห่วงตัวเอง แต่ในมุมพวกเราทุกคนเป็นห่วงเขา?
“ใช่ กวางยังพูดกับเขาเลยว่ายูโฟกัสกับตัวยูก่อนนะ แต่พอไปถึงปุ๊บเขาก็จะมีความเป็นห่วงคนอื่น งานเป็นยังไงบ้าง งานที่ค้างคา แล้วเขาก็พูดถึงภาวะที่เกิดขึ้นว่าด้านในมันเป็นแบบนั้น แบบนี้ เป็นปรัชญาออกมาเลย”

ในขณะที่ห่วงคนอื่น ตัวเองก็ทุกข์อยู่ แต่สิ่งที่เขาห่วงที่สุดคืออยากให้กวางไปติดต่องานที่เรารับค้างไว้ โดยเฉพาะงานที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ เหมือนเราถ่ายเสร็จก็รับเงินมา แต่เหมือน “พิ้งกี้” บอกอยากจะคืนเงินก้อนนั้น เพราะไม่สามารถทำงานให้เขาได้?
“เอาเป็นว่ากี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาเป็นห่วงคนอื่นเสมอ อันนี้เป็นจุดเด่นของเขาเลย เขาไม่เคยคิดถึงตัวเขาเลย เขาเก็บตัวเองตลอด เวลาทำอะไรให้คนอื่นแฮปปี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเขารู้สึกว่าเขาทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ได้เพราะฉะนั้นเขายินดีที่จะคืนเงินให้ เขาเป็นห่วงคนอื่นเสมอ เขาทำอะไรได้ที่ซัปพอร์ตคนอื่นเขาจะทำ แม้ตัวเองอยู่ในนั้น บางทีเราฟังเรารู้สึกว่าโอ้ย ก็เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่รู้ว่าแม้กระทั่งที่เขาอยู่ ณ ตรงนั้นแล้ว เขายังเป็นแบบนั้น ซึ่งถ้าเป็นหลายๆ คน อาจจะไม่รู้สึกที่จะต้องทำ”

อย่างล่าสุดก็มีข่าวว่ามีคนแอบอ้างว่าเป็นผู้จัดการของ “พิ้งกี้” ไปเอาเงินค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ของพิ้งกี้มาแล้วเรียบร้อย อันนี้กวางได้มีโอกาสรับรู้เรื่องนี้บ้างไหม?
“รับรู้ตามข่าว อย่างที่บอกตั้งแต่สมัยไหนแล้ว พิ้งกี้เป็นคนทำอะไรเอง ดูแลตัวเองมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์การรับงาน อันนี้เขาจะดูแลตัวเอง แต่มีผู้ช่วยของเขา ซึ่งคนนี้เป็นผู้ช่วยเฉยๆ เพราะฉะนั้นเขาดูแลตัวเองมาตลอด (ในความเป็นจริงแล้วพิ้งกี้ไม่ได้มีผู้จัดการส่วนตัว?) เท่าที่เห็นเขาดูแลตัวเองมาตลอดเลย”

ทางนั้นเขาให้เงินมาแล้ว แต่เงินก็ไม่ถึงน้อง?
“กวางก็ไม่แน่ใจ เป็นเรื่องของเขาที่เกิดขึ้น แต่ก็คิดว่าเป็นไปตามที่เราทราบกัน”

ได้คุยกับ “พิ้งกี้” ส่วนตัวไหม?
“มีเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น แต่เราก็ไม่ได้ไม่แตะมาก เพราะเป็นเรื่องของเขา ที่เขาต้องมาจัดการตรงนี้ แต่อย่างที่บอกกวางเห็นเลยว่าทุกอย่างเขาทำด้วยตัวเอง รับงาน พิจารณางานด้วยตัวเอง”

ครั้งแรกเลยที่เราได้ยินว่าเขาจะได้ออกมา เรารู้สึกยังไงบ้าง?
“ร้องไห้เลย เพราะว่าทุกๆ ครั้งที่ไปเราใช้พลัง มันเหมือนคนที่อยู่เคียงข้างเราแล้วเป็นทุกข์ ต่อให้เรามีความสุขยังไง ตอนนั้นกวางไปต่างประเทศหนึ่งเดือนก็ยังคิดถึงตลอด แล้วพอวันที่เขาจะได้ออกมาก็รู้สึกว่าดีแล้วก็แฮปปี้”

เจอกันได้พูดคุยอะไรกันบ้าง หลังจากที่ “พิ้งกี้” ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว?
“พิ้งกี้นี่คือ ถ้าเขามาแล้วเขาจะทำเลยคือเล่นกับลูกสาว แทบไม่ได้คุยเลย คือเขาคิดถึงหลาน เขาอยากเห็นหน้าอารยา เขาชอบความสดใส พอมาถึงเรารู้แล้ว บางทีเราไม่ต้องคุยกันเลย เขามาแล้วเขามาเล่นกับหลาน ส่วนมากจะเป็นแบบนั้นมากกว่า”

เห็นว่า “พิ้งกี้” เองตอนที่ออกมามีความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่เห็นได้ชัดด้วย?
“เติบโตขึ้น เติบโตที่ภายใน คิดว่าสิ่งที่เขาเจอ ทำให้เขาเป็นพิ้งกี้อีกหนึ่งเวอร์ชั่น เรียกว่าอัปเกรดเวอร์ชั่นเลย สมัยก่อนเราคิดว่าพิ้งกี้เป็นแบบนี้ พอมันผ่านจุดตรงนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปเลย วิธีคิดที่ดีขึ้น เราเห็นการเปลี่ยนแปลงตรงนี้เรารู้สึกว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี”

“พิ้งกี้” ร้องไห้บ้างไหม?
“ร้องอยู่แล้วค่ะ กวางอยู่ข้างนอกขับรถบางทีคิดถึงเขาปุ๊บก็ร้อง ร้องเพราะอัดอั้น เพราะมันมีหลายสิ่งหลายอย่าง การเป็นเพื่อน เราก็มองตัวเองเหมือนกันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราทำหน้าที่เพื่อนได้ดีหรือยัง เราดูแลคนรอบข้างได้ดีหรือยัง เราก็ย้อนกลับมาเหมือนกัน”

อีกจุดหนึ่งที่ “พิ้งกี้” เขาแคร์มากๆ คือคนที่อยู่รอบๆ ตัวเขาจะคิดยังไงกับเขา?
“กี้เป็นคนห่วงอยู่แล้วว่าทุกคนจะคิดยังไงในสิ่งที่มันเกิดขึ้น แต่เวอร์ชั่นใหม่ของเขา เขาคงเริ่มเข้าใจแล้วว่ามันก็ต้องเดินทางต่อ”

อีกหนึ่งกำลังใจสำคัญเลยคือลูกสาวของเรา น้องอารยา ทำไมถึงรักกันขนาดนั้น?
“พิ้งกี้อยู่กันมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว เราผ่านขั้นตอนชีวิตมา เขาก็จะเห็นเราตั้งแต่ท้องมา แล้วพิ้งกี้เขาชอบเด็กๆอยู่แล้ว เขาเห็นคนนี้มา มาแล้วสบายใจ”













กำลังโหลดความคิดเห็น