“แมท ภีรนีย์” เปิดใจกลางรายการแฉถึงดรามา “ไฮโซพก-อั้ม พัชราภา” ยันกล้าพูดว่าสนิทกับพก ถึงขนาดอีกฝ่ายเรียก “อีแมท” ที่ผ่านมากินข้าวกับสาวคนก่อนๆ ของฝ่ายชายตลอด รับเจอเรื่องหนักๆ ร้องไห้ตลอดแต่ไม่ให้ใครเห็น เคลียร์ไม่เลิก “สงกรานต์” ซาบซึ้งฝ่ายชายและครอบครัวไม่เคยปล่อยมือ จากนี้จะมีสติมากขึ้น จะหนักแน่นไม่ตกเป็นเหยื่อคำพูดใคร บอกฟ้องชาวเน็ต 10 เคส หมดเงินเป็นล้าน
ถึงขั้นต้องทำหนังสือเพื่อขออนุญาตช่อง 3 ให้ “แมท ภีรนีย์ คงไทย” มาออกรายการแฉทางช่อง GMM เลยทีเดียว หลังจากที่ “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” พิธีกรชื่อดัง เคยพูดในรายการว่าจะนำตัวแมทมาออกรายการให้ได้ เหตุนางเอกสาวเจอดรามาหนัก ถูกลือเป็นมือที่สาม ทำรัก “ไฮโซพก ประธานวงศ์ พรประภา” กับ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ล่ม งานนี้แมท ก็ได้เผยว่า
“ถามว่ากี่ปีแล้วที่เจออะไรหนักๆ ก็เกือบ 5 ปีแล้วมั้งคะ ตั้งแต่ปลายปี 2018 จำได้แม่น (หัวเราะ) ตอนนี้แมทบนราหูไว้ค่ะ จากที่ไม่ค่อยทำบุญกับวัด แต่ชอบทำบุญกับสัตว์ เด็ก ไม่ค่อยไปมู กับเทพ กับวัด ตอนนี้บนไป 9 ครั้ง
ปี 18 โดนกระแสแอนตี้ ลงภาพปุ๊บก็โดนด่า ตอนแรกคิดว่าเหมือนไปฆ่าใครตาย แต่ตอนนี้ก็ยังโอเค ก็ไม่รู้เลยว่าผ่านมาได้ยังไง จะว่าอวยตัวเองนิดนึงก็ได้ ไม่รู้อดทนเก่งอะไรขนาดนี้ บางทีรู้สึกว่าอยากอ่อนแอบ้างก็ได้ ร้องไห้ตลอด แต่ไม่ทำให้ใครเห็น”
อยากขอบคุณจากหัวใจ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” และครอบครัวแท็กทีมช่วยแก้ข่าว ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ไม่เคยปล่อยมือ
“วันนั้นครอบครัวพี่สงกรานต์แท็กทีมออกมาช่วยแก้ข่าว ก็กราบขอบพระคุณจริงๆ พี่สงกรานต์และครอบครัวพี่สงกรานต์ไม่เคยทอดทิ้งเลยค่ะ ไม่ว่ามีอะไรก็จับมือแมทตลอด เป็นสิ่งที่แมทซาบซึ้งในหัวใจมาโดยตลอด ก็อยากขอบคุณจากหัวใจ ซึ่งแมทก็ขอบคุณเรื่อยๆ อยู่แล้ว ก็ยังอยากขอบคุณไปตลอดเรื่อยๆ ถามว่าชีวิตก่อนเจอเขา ชีวิตเราราบเรียบมาตลอดไหม ไม่จริงค่ะ พี่สงกรานต์เขาเป็นต้นแบบที่ดีให้แมทในหลายๆ เรื่อง
ถ้าย้อนกลับไป ถามว่าชีวิตเปลี่ยนไปเพราะคบพี่สงกรานต์ไหม ในมุมของแมท แมทรู้สึกว่าแมทเปลี่ยนไปในมุมที่ดีขึ้นค่ะ โตขึ้นด้านความคิด เพราะพี่สงกรานต์เขาโตกว่าแมทเยอะมาก เขาเจออะไรที่หนักกว่าแมทมาเยอะ ที่แมทซาบซึ้งตลอดคือพี่เขาไม่เคยปล่อยมือเลยค่ะ ทุกครั้งที่มีอะไรที่ทำให้เราท้อ เสียใจ ร้องไห้ หรือดาวน์ เขาจะเป็นคนจับมือ และบอกว่าเอ็งต้องขึ้นมาดิวะ แบบนั้นเสมอ”
ยันชัดๆ เราไม่ได้เลิกกัน
“ถามว่าเลิกกันไหม ไม่ได้เลิกค่ะ ยังคงเหมือนเดิมค่ะ พี่เขายังให้กำลังใจ แมทก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง รู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต่อไปนี้เราทำอะไรต้องโตกว่านี้ คิดให้มากขึ้นกว่านี้ ต้องมีสติให้มากกว่านี้ ทุกคนให้กำลังใจ คอยช่วยเหลือก็จริง แต่เราจะปล่อยให้คนอื่นมาคอยช่วยเราต่อไปไม่ได้แล้ว เราต้องมีสติด้วยตัวเราเองให้ได้แล้ว”
กล้าพูดว่าสนิทกับไฮโซพก รู้จักก่อนสงกรานต์ และไปทานข้าวกับสาวคนก่อนๆ ของไฮโซพกด้วยเสมอ
“พี่สงกรานต์เขาไม่หยุมหยิมกับเรื่องพวกนี้ เขาขยันทำงาน มีเป้าหมายชีวิต มีวิชั่นของเขาตรงจุดๆ นั้น พวกนี้ไม่สามารถดึงความสนใจเขาได้อยู่แล้ว อย่างที่บอก พี่เขาทราบอยู่แล้วว่าเรารู้จักพี่พกก่อนรู้จักพี่สงกรานต์อีก เราแฮงค์เอาต์ พี่เอมมี่ (มรกต แสงทวีป) รู้ดีที่สุด พี่เขาทราบทุกอย่าง เคยเจอ เคยแฮงค์เอาต์ กับคนก่อนๆ ของพี่พก ดิฉันก็ไปทานข้าวด้วยเสมอ อันนี้กล้าพูด เพราะแมทกับพี่พกสนิทกัน แฮงค์เอาต์กันมาตลอด อยู่กลุ่มเดียวกันค่ะ”
รับข่าวกระทบเยอะ ห่วงความรู้สึกผู้หญิงด้วยกัน แต่ยันสนิทฝ่ายชายถึงขนาดเรียกอีแมท
“ข่าวพี่พกก็สร้างผลกระทบกับแมทเยอะ แต่ที่แมทซีเรียส อันดับที่หนึ่ง ข้อแรกที่แมทกังวลที่สุด แมทเข้าใจมุมมองของผู้หญิงค่ะ แมทเป็นห่วงความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกัน สองเราทำให้คนรอบตัวเราเดือดร้อนอีกแล้ว แมทต้องขอโทษจริงๆ ว่าเราไม่ได้ตั้งใจ และยอมรับว่าเราคิดน้อยเกินไปจริงๆ ค่ะ จริงๆ กับพี่พกมากกว่าเพื่อน เพราะเราคือพี่น้อง จริงๆ พี่พกเรียกแมท อีแมท (หัวเราะ) นึกออกไหมคะ (หัวเราะ)”
ต้องหนักแน่นกว่านี้ ไม่งั้นจะเป็นเหยื่อคำพูดหรือข่าว
“(มดดำถามว่าได้โทรเคลียร์กับดาราสาวอีกคน ทางไดเร็กแมสเสจ) เนี่ย ไม่ค่อยชอบ แมทไม่อยากพูดแล้วกับเรื่องนี้ แมทรู้สึกว่าแมทต้องหนักแน่นกว่านี้ ถ้าไม่หนักแน่นพอ แมทจะกลายป็นเหยื่อของคำพูดหรือข่าวของคนอื่น แมทต้องหนักแน่น แมทได้พูดอธิบายซึ่งค่อนข้างเคลียร์นะคะ แมทไม่มีอะไรแก้ตัวหรืออธิบายไปมากกว่านี้แล้ว ซึ่งข่าวนี้เสียใจ และนอยด์ พี่สงกรานต์ก็ตักเตือนว่าทำอะไรต้องคิดแล้ว ต้องมีสติมากกว่านี้ ซึ่งก็เห็นจริงๆ ก็ได้ขอโทษค่ะ”
พ้อกระพริบตา หรือหายใจก็ผิดแล้ว
“แค่กระพริบตา แค่หายใจก็ผิดแล้ว ก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ก่อนหน้านี้ตลอดมา ไม่ได้เคยคิดที่อยากจะทำให้เป็นข่าว หรือทำให้ใครเดือดร้อน แต่แค่ขยับนิดเดียวก็เป็นอะไรไม่รู้ เกินคาดเรามากเลย แต่มีประเด็นหรือคำพูดอะไรที่เออ ก็คิดได้เนอะ เป็นถึงขนาดที่เป็นข่าว บางทีเราไม่ได้นึกถึงเลย”
เสียเงินค่าฟ้อง 10 เคสใช้เงินเป็นล้าน
“เจอคอมเมนต์รุนแรง ธงอันแรกที่เริ่มฟ้อง เริ่มกระบวนการธงที่เขาถามเราเลยว่าอยากฟ้องคือเรื่องอะไร ตอนนั้นแมทไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมายมาก ก็คิดว่าถ้าเราไปอยู่หน้าบัลลังก์แล้ว ถ้าคนต่อว่าเราเขามีหลักฐานหรือมีอะไรที่จะพิสูจน์ว่าเราทำจริงหรือผิดจริง เราพร้อมเอาข้อมูลหรือหลักฐานของเราไปแก้ให้เห็นต่อหน้าศาลเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วมันไม่สามารถทำได้ขนาดนั้น ก็เลยกลายเป็นหมิ่นประมาทมากกว่า ซึ่งในศาลพอทุกคนไป ก็ไม่ได้รู้อะไรจริงเลย เพียงแต่ให้เหตุผลว่าหนูอินค่ะ สามีหนูทิ้งหนู หนูก็เลยอินไปกับข่าว เขาเอาตัวเอง ซึ่งแมทเข้าใจจริงๆ พอเราทำอาชีพพวกนี้ เราอยู่ในจอทีวี คนมองว่าเป็นบทละคร เป็นชีวิตที่บางทีเราชอบคนนี้จังเลย เราเกลียดคนนี้จังเลย เขาเลยเอาตัวเองมาอินกับข่าว จนเขาลืมไปว่าความอินของเขา ทำให้ผู้หญิงคนนึงบอบช้ำขนาดไหน
แมทขึ้นศาลแล้วสงสาร ธงที่บอกไม่ได้เพื่อเอาเงินอยู่แล้วค่ะ จ่ายค่าทนาย ค่าทุกอย่าง 10 เคสนี้ก็เกือบล้านค่ะ โดยที่แมทไม่ได้เอาเงินเก็บส่วนตัว คือเงินที่ทำงานมาตลอดชีวิตอยู่กับคุณแม่ ไม่ได้เอาส่วนนั้นมาทำ เป็นเงินที่แมททำแบรนด์สบู่แล้วจ่ายเองทั้งหมดเอามาเพื่อดำเนินคดี แล้วคนที่เขาพอมีเงินจ่าย เขาก็จ่ายเรา ซึ่งเราไม่ได้เอาเขาเต็มจำนวน เพราะก็สงสารแหละค่ะ ทุกเคสก็บอกประมาณนี้ว่าอิน”
ก้าวข้ามทุกอย่างโดยไม่รับงานละคร เฮิร์ตที่สุดคือเรื่องไร้สาระของตนกระทบคนอื่น
“วันนี้ผ่านมาแล้ว ถามว่าเคยท้อไหม ละครที่เราเล่น ไม่ดังอย่างที่ต้องการ หรือละครที่แมทเล่นเขาไม่ดู แมทก็ก้าวข้ามโดยการไม่รับอะไรเลย กลัว ถ้าโดนคนเดียวจะบอกเสมอว่าน่าจะทนไหว แต่พอคนอื่นต้องโดนผลกระทบไปด้วย แมทรู้สึกว่าไม่แฟร์กับเขาเลยที่ต้องมาเกี่ยวกับอะไรก็ไม่รู้ที่ไร้สาระของเรา อันนั้นเฮิร์ตที่สุดแล้ว ไม่รับมา 3-4 ปีได้แล้วมั้งคะ ช่องต่อว่าตลอดว่ารับได้แล้ว จริงๆ ก็คิดถึงแต่ยังไม่พร้อม”
ไม่ไฝว้เพื่อให้ตัวเองได้กลับมา เพราะไม่ได้อยากเกิดมาเป็นดารา
“ถามว่ากลัวอะไร จริงๆ ด้วยลึกๆ แล้วก็ไม่ได้กลัวสักเท่าไหร่ขนาดนั้นหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าถ้าคนรู้จักแมทจะรู้อยู่แล้วว่าแมทดีลกับวงการไม่เป็น เราไม่ได้เกิดมาอยากเป็นดารา พอเราไม่ได้มีแพชชั่นตรงนี้ เราก็เลยไม่ได้ทำมันได้เต็มที่ เลยกลายเป็นว่า ไม่เป็นไร ฉันเท่าไหนก็เท่านั้น ไม่ได้ขวนขวายต้องต่อสู้หรือไฝว้ให้ตัวเองกลับมา พอไปอยู่ต่างจังหวัด ก็ซิตี้เกิร์ลมากๆ เราก็ปาร์ตี้ระดับนึง แต่พื้นฐานจริงๆ ชอบอยู่เงียบๆ ไม่มีคนเยอะ ชอบอยู่คนเดียว อยู่บ้านทน อยู่บ้านได้ อยู่กับธรรมชาติ ต้นไม้ พื้นฐานชอบขายของ ชอบทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก เลยกลายเป็นว่าพอเราได้ถอยห่างออกจากวงการแล้ว นี่แหละคือความสุขอย่างหนึ่งของเราเหมือนกันนอกจากการเล่นละคร เมื่อก่อนเรารู้สึกว่าเราเล่นแต่ละครเป็นอย่างเดียว เพราะเราทำงานตั้งแต่ 12-13 มันไม่ได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตในรูปแบบอื่นเลย แต่พอได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตในรูปแบบอื่น ก็รู้สึกว่าเนี่ยแหละคือทางอีกทางของเรา ที่เราชอบมาก ส่วนร้านไอติม พี่สงกรานต์สร้างให้ ก็เปิดร้านไอติมอยู่ที่นั่นเลยค่ะ”
คิดถึงตลอด อยากเล่นละคร แต่อยากเลือกบทที่ไม่เคยเล่น
“ตอนนี้พยายามดึงสติให้กลับมาเล่นละครอยู่ค่ะ ถ้าความกลัวของแมท แมทรู้สึกว่าออกมานานแล้ว ไม่แน่ใจว่าโปรดักชั่นเป็นยังไงแล้วมากกว่า ได้ยินจากพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ เขาบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่ได้ถ่ายเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ แมทคิดถึงอยู่ตลอด อยากกลับมารับละครนานแล้ว แต่ด้วยความที่เราเล่นเป็นนางเอก ตัวนำกุ๊กกิ๊กวัยใส ปีนี้ 30 กว่าๆ แล้ว ไม่ได้เรื่องมากนะคะ แต่อยากเลือกอะไรที่เราไม่เคยเล่น หรือท้าทาย หรือว้าวๆ หน่อย น่าจะรอบทอยู่ค่ะ วันนี้มารายการก็เกรงใจช่อง 3 มากค่ะ”