xs
xsm
sm
md
lg

บลูสโคป ฉลอง 28 ปีแห่งความเป็นผู้นำเมทัลชีท เดินหน้าก้าวสู่เป้าหมายวิสัยทัศน์ความยั่งยืนของประเทศดันแนวคิด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กว่า28ปีที่บลูสโคปได้ดำเนินงานธุรกิจในประเทศไทย และก้าวขึ้นเป็นผู้นำในฐานะผู้ผลิตเหล็กเคลือบโลหะและเหล็กเคลือบสี (เมทัลชีท)บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค พร้อมเป็นอีกหนึ่งพลังในการขับเคลื่อนและส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศไทยให้พัฒนาไปไปสู่ความยั่งยืน
​เพื่อเป็นการตอกย้ำความยิ่งใหญ่และเดินเกมรุกในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งบริษัทเอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงาน“INSPIRING STRENGTH TOWARDS A LONG LASTING WORLD”ฉลองครบรอบ28ปีเมื่อวันที่27มกราคม2566 ณ สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยโดยได้รับเกียรติจากมิสเตอร์ ยาน ซู ประธานบริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด, มิสเตอร์ คอนเนล ชาง ประธานกรรมการบริหารบริษัทเอ็นเอส บลูสโคป, ดอกเตอร์ แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย,นายธงชัย ล่ำซำ ประธานกรรมการบริษัท ล็อกซเล่ย์จำกัด (มหาชน)และนายสืบตระกูล สุนทรธรรมรองประธานกรรมการบริษัท ล็อกซเล่ย์จำกัด (มหาชน) และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ มาร่วมแสดงความยินดีภายในงาน
​บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มดำเนินธุรกิจในไทยตั้งแต่วันที่13ธันวาคม2538โดยตลอดระยะเวลา28 ปีที่ผ่านมา ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมเศรษฐกิจของไทยให้มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการลงทุนขยายธุรกิจการขยายกำลังการผลิต และการจ้างงานในประเทศไทย ทั้งนี้ยังช่วยส่งเสริมการเติบโตของโครงการก่อสร้างในภาคอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ภาคธุรกิจการค้า ที่อยู่อาศัย และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย
​“บลูสโคป เป็นบริษัทของคนไทย มีการร่วมทุนกับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) สินค้าบลูสโคปเป็นสินค้าที่ผลิตในไทย100%กระบวนการผลิตทั้งหมดเกิดขึ้นในประเทศไทยในโรงงานบลูสโคปที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง บลูสโคปในดำเนินการผลิตและจำหน่ายสินค้าในประเทศไทยมาเกือบ3ทศวรรษ”มิสเตอร์ ยาน ซู กล่าว
นายสืบตระกูล สุนทรธรรมรองประธานกรรมการบริษัทล็อกซเล่ย์จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “สำหรับล็อกซเล่ย์การร่วมมือกับพันธมิตรเราต้องมั่นใจว่าพันธมิตรนั้นๆที่มีความน่าเชื่อถือ มีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนั้นบลูสโคปก็เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่เราภูมิใจในการร่วมทุน เพราะบลูสโคปเป็นผู้นำตลาดเมทัลชีทในไทยมาตลอด28 ปีและเราก็มีส่วนร่วมในการนำสินค้าคุณภาพดีมาให้คนไทยได้ใช้กัน”
​สำหรับบลูสโคป การผู้นำในการผลิตเหล็กเคลือบโลหะและเหล็กเคลือบสี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการนำความรู้จากประสบการณ์กว่า 100ปีของบลูสโคปออสเตรเลีย มาร่วมกับประสบการณ์ในการผลิตเหล็กในประเทศไทยกว่า28ปี มุ่งมั่นพัฒนา เพื่อส่งมอบสินค้าที่ดี มีคุณภาพมากที่สุดให้กับผู้บริโภคมาโดยตลอดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยประกอบกับความรู้ ประสบการณ์เฉพาะของบลูสโคป ทำให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานการผลิตจาก4ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย, ประเทศญี่ปุ่น, ประเทศออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกาโดยล่าสุดได้รับฉลากCircular markซึ่งเป็นเมทัลชีทเจ้าเดียวที่ได้รับฉลากนี้ ยิ่งเป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์บลูสโคป
​ความแข็งแกร่งในแบรนด์ของบลูสโคปคือ การเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทั้งจากพาร์ทเนอร์หลายบริษัท รวมถึงสถาปนิกและผู้ออกแบบจำนวนมาก ที่ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์บลูสโคป นำไปเป็นส่วนหนึ่งการออกแบบ ก่อสร้าง และเสริมสร้างโปรเจกต์สำคัญต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์, สนามบินสุวรรณภูมิ, ศูนย์การค้าเวลา แอด สินธร วิลเลจ ฯ อีกทั้งในฐานะผู้นำในการผลิตเหล็ก บลูสโคปยังมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน(Sustainability)และให้ความสำคัญตั้งแต่กระบวนการผลิต เพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้ได้สูงสุด อาทิเช่น การลดปริมาณน้ำที่ใช้ในการผลิต เพิ่มการใช้พลังงานสะอาดอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ในโรงงาน หรือแม้กระทั่งสินค้า ก็เน้นการพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
​นอกจากนี้บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย)จำกัดยังร่วมกับสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประกวดงานออกแบบอาคารBlueScope Design Award 2022เพื่อเป็นเวทีที่สถาปนิกและนักออกแบบมีโอกาสนำเสนอผลงานที่โดดเด่นจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบ และเหล็กเคลือบสีของบลูสโคป รวมถึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันงานออกแบบสถาปัตยกรรมที่เน้นการออกแบบในเรื่องความยั่งยืน และขับเคลื่อนสภาพแวดล้อมเพื่อโลกที่ดีกว่าเดิมสำหรับคนรุ่นใหม่ในอนาคตทั้งยังสนับสนุนการศึกษา การวิจัยและการประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม และเป็นการส่งเสริมการใช้วัสดุเมทัลชีทในการออกแบบเพื่อสนับสนุนนักศึกษาที่กำลังจะก้าวเข้ามาในสายอาชีพให้มีศักยภาพ เพื่อความก้าวหน้าในการประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมและทันกับการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย โดยเฉพาะในเรื่องสังคมแห่งอนาคต ที่มุ่งเน้นไปที่สิ่งแวดล้อมการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ได้ประสิทธิภาพ













กำลังโหลดความคิดเห็น