“เบิ้ล ปทุมราช” ยอมรับลงทุน Forex-3D เสียดายเงินแสนแต่ไม่คิดแจ้งความเพราะไปเล่นเองไม่มีใครบังคับ ไม่หวั่นตำรวจเรียกสอบ มั่นใจในความจริง มีอัยการเป็นที่ปรึกษา
“เบิ้ล ปทุมราช”มีข่าวว่าเกี่ยวข้องกับ Forex-3D รับเงินแม่พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ไปสร้างหนัง 2 ล้าน งานนี้เจ้าตัวยอมรับว่า ได้ลงทุน Forex-3D จริง พร้อมพูดความจริง
“จริงๆ เป็นการร่วมธุรกิจหนัง เมื่อปี 62 ชื่อหนังเรื่อง ออนซอนเด ก็มีการพูดจาเซ็นสัญญาเรื่องกู้ยืมเงินมาทำหนังปกติ เป็นการร่วมลงทุนกันในการทำหนังซึ่งเป็นเงินที่แม่พิ้งกี้โอนเงินมาให้ อันนี้ยอมรับความจริงครับ”
ไม่เครียดเพราะมีอัยการสูงสุดเป็นที่ปรึกษา
“ผมไม่ได้เครียดเพราะได้มีการปรึกษาทางคุณอาที่เป็นอัยการสูงสุดอยู่แล้ว ว่าอาครับถ้ามีกรณีแบบนี้ต้องทำยังไง เพราะมีการโยง มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของชื่อด้วย ผมก็ไม่ได้บอกว่าผมไม่เกี่ยวนะ เพราะเราอยู่ในวงการบันเทิงเราต้องรู้จักกันอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ส่วนเรื่องของการจะทำหรือไม่ทำตัวเราจะรู้ดีที่สุด แต่ตอนนั้นที่ผมเลือกจะเงียบเพราะยังไม่มีการอัปรูปหรือเอ่ยชื่อที่เป็นทางการ มีแค่อักษร บ. ผมก็คิดว่าข่าวออกมาเดี๋ยวก็เงียบไป แต่อาจจะมีหลายเพจที่จากเขียนอักษรย่อ มาเขียนชื่อเต็ม จากเขียนชื่อเต็มกลายมาเป็นลงรูป ผมก็เลยต้องออกมาปกป้องตัวเองทางแฟนเพจ”
“ผมว่าการเดินทางของสื่อโซเชียลมันมีทั้งดีและร้าย ถ้ามองในแง่ดีคนจะได้รู้จักเรามากขึ้น แล้วเราค่อยมาแก้ไขปรับปรุงตัวเองว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่อย่างน้อยก็มีคนรู้จักชื่อเราในการที่มีข่าว แต่ในระหว่างการทำงานมันอาจจะมีผลกระทบ เราต้องไปให้คำอธิบายกับผู้ที่สงสัยในงานใหญ่ๆ ในงานแต่ละชิ้นว่าเราเกี่ยวจริงหรือเปล่า อันนี้คือผลกระทบที่เกิดขึ้น”
เจ้าหน้าที่ติดต่อมา
“มีครับ มีทางคุณอาด้วยครับ คุณอาติดต่อทางดีเอสไอ คุณอาผมที่เป็นอัยการดูแลเรื่องนี้ให้ แต่ยังไม่ได้เข้าไปครับ รอให้เขาติดต่อมาก่อน พร้อมให้ตรวจเส้นทางการเงิน มั่นใจว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรแน่นอน”
เบิ้ลยอมรับว่าเทรดเงินมาก่อน
“เคยครับ แต่ลงไม่เยอะเพราะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ แค่หลักแสน ของ Forex-3D เหมือนกัน เพิ่งมาทราบเรื่องเป็นแชร์ลูกโซ่เมื่อต้นปีที่แล้ว ถามว่าใจล่นวูบไหม มันเป็นเรื่องของมิตรภาพมากกว่า เพราะเราเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้จักพี่พิ้งกี้ แล้วพี่พิ้งกี้ก็เป็นพี่สาวที่น่ารักของเรา ผมเลยมองเป็นเรื่องที่ผิดถูกจังหวะชีวิตของเราดีกว่า อย่างผมจะบอกว่าผมไม่เกี่ยวข้อง ผมเป็นผู้เสียหาย ผมไม่เกี่ยวกับพี่พิ้งกี้ ผมไม่เกี่ยวกับคุณแม่ มันจะเป็นการที่ดีดตัวเองหนีเพื่ออยู่รอด เบิ้ลก็เป็นคนในวงการบันเทิงก็มีการรู้จักเป็นปกติมีมิตรภาพที่ดี ส่วนเรื่องผิดถูกเราอาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆ ก็ต้องเป็นไปตามกลไกของชีวิต”
เผยที่ดาราไม่ออกมาแจ้งความเป็นเรื่องส่วนบุคคล
“ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องของส่วนบุคคล น่าจะไม่เหมือนกัน ผมเชื่อว่าคนเราร้อยพ่อพันแม่ความคิดอาจจะไม่เหมือนกัน เขาอาจจะปกป้องอะไรบางอย่าง ยังไม่พร้อมที่จะออกมาบอกอย่างเป็นทางการ หรือบางคนอาจจะต้องเดินทางให้มันถูกต้องก่อนค่อยออกมาพูดให้ชัดเจน ผมอาจจะไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นยังไง แต่สำหรับผมความจริงเป็นสิ่งที่พูดง่ายอยู่แล้ว”
เสียดายเงินแต่ยังไม่คิดจะไปแจ้งความ
“ก็เสียดายครับ แต่ก็มีผู้เสียหายที่เยอะกว่าเราแล้วเราเป็นคนเล่นเองไม่ได้มีใครมาบังคับเรา (แสดงว่าเบิ้ลยังไม่คิดจะไปแจ้งความในฐานะผู้เสียหาย?) ไม่ครับ”
เล่นเอง พิ้งกี้ ไม่ได้ชวน
“ใช่ครับ ไม่ได้เงินคืนครับ ผมเป็นคนไม่มีแววเรื่องนี้อยู่แล้ว ในอนาคตพอได้ทำงานในวงการบันเทิง ได้ทำงานร้องเพลงมากขึ้นก็อาจจะถึงเวลาที่ให้เงินทำงานให้ อาจจะเรียนรู้เรื่องของการเทรดอะไรต่างๆ แต่ตอนนี้ผมเพิ่งอายุ 26 ปี ก็คงจะมาทางที่เราถนัดดีกว่า มาแสดงหนัง มาเล่นละคร มาร้องเพลงดีกว่า”