xs
xsm
sm
md
lg

มงฯ พลิกชีวิต “แอนนา” ในวันที่นอนกุฏิวัดได้มาอยู่โรงแรมหรู พร้อมแง้มโสดมั้ย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แอนนา” เผยมงกุฏชุบชีวิต จากนางงามกองขยะนอนกุฏิวัด วันนี้ได้นอนเตียงโรงแรมหรู เฝ้ารอวันนี้มาตั้งแต่ ม.5 รับเป็นคนชอบดูถูกตัวเอง ฝันอยากให้ตัวเองมีอิมแพคต่อสังคมและต่อโลก สร้างประโยชน์ให้คุ้มค่าที่ได้เกิดมา พร้อมแง้มเรื่องหัวใจ

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร สำหรับ “แอนนา เสืองามเอี่ยม” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2565 เจ้าของฉายา “นางงามกองขยะ” เพราะกว่าจะมีวันนี้เจ้าตัวต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย มีต้นทุนชีวิตน้อยกว่าคนอื่น แม้คุณพ่อจะทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะ ส่วนคุณแม่เป็นพนักงานกวาดถนนของ กทม. แต่แอนนาไม่เคยมองว่าอาชีพของคุณพ่อคุณแม่ต่ำต้อย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกภูมิใจที่สุด

ชีวิตของแอนนา ในวัย 23 ปี ได้เปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืน หลังเจ้าตัวคว้ามงกุฏมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2565 มาครองได้สำเร็จ จากเด็กครอบครัวฐานะยากจน ต้องไปอาศัยอยู่กุฏิของแม่ชีที่วัดช่างเหล็ก ย่านตลิ่งชัน ตั้งแต่เรียนชั้น ป.3 จนจบมหาวิทยาลัย วันนี้ชะตาชีวิตของเธอพลิกสุดขั้ว ซึ่งแอนนาได้สะท้อนเรื่องราวต่างๆ ผ่านมุมมองความคิดได้อย่างน่าสนใจ การันตีว่าเธอนั้นมีดีมากกว่าความสวย

“ชีวิตเปลี่ยนไปมากเลยค่ะ เปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกเลยที่แอนนาได้รับมงฯ คือสำหรับแอนนา แค่ห้องนอนวันที่ได้รับมงฯ มันก็เปลี่ยนไปมาก (นอนโรงแรม) แอนนาไม่เคยได้นอนห้องที่ใหญ่ขนาดนั้นมาก่อน รู้สึกว่ามันเป็นรางวัลของนักสู้จริงๆ ค่ะ แล้วที่มากไปกว่าสิ่งของรอบกาย สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือเสียงของแอนนา แอนนาเชื่อว่าทุกคำพูดของแอนนา มันจะสามารถสร้างอิมแพคให้กับคนในสังคมได้ ก็จะพยายามใช้สิ่งที่ได้มาจากการได้รับมงกุฎนี้ ให้เป็นประโยชน์ในสังคมต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ”

ความรู้สึกที่ได้นอนโรงแรมหรูกับนอนกุฏิวัด ต่างกันแค่สถานที่ แต่นอนที่ไหนก็หลับฝันดีเหมือนกัน
“ถึงแม้ว่าสถานที่มันจะต่างกัน สิ่งอำนวยความสะดวกมันจะต่างกัน แต่แอนนาเชื่อว่าการที่แอนนาได้อยู่วัดมาก่อน มันมีความอบอุ่นมากกว่า สุดท้ายแล้วแอนนาอยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะ แล้วการที่เคยอยู่วัดมาก่อน มันก็ไม่ได้ทำให้แอนนาลำบากมาก แค่ตรงนี้มันสบายมากกว่าแค่นั้นเองค่ะ นอนที่ไหนเราก็ฝันดีได้เหมือนกันค่ะ ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองลำบากเลย แค่เมื่อคืนหรือคืนก่อนๆ มันสะดวกสบายมากกว่าเท่านั้นเอง

"รู้สึกว่าสุดท้ายแล้วมันเป็นเหมือนรางวัล ที่เราพยายามและต่อสู้กันมา มันทำให้รู้ว่าความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่จะมอบสิ่งดีๆ ให้เรา ถ้าเราพยายามอย่างถูกที่ถูกเวลา แล้วก็อยากจะที่รักษาการพยายามของเราแบบนี้ต่อไปเพื่อคว้ามงฯ 3 (มงกุฏมิสยูนิเวิร์ส) เพราะแอนนาเชื่อว่ารางวัลที่ได้รับจากมงฯ 3 มา ที่ไม่ใช่สิ่งของนอกกายนะคะ แต่เป็นเสียงเราที่ดังขึ้น การได้เป็น Empowering ของคนทั้งโลก มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก ความพยายามนั้นจะสามารถมอบให้แอนนาได้ค่ะ”

ยืนยันสิ่งของนอกกายเหล่านี้ ไม่มีผลต่อตัวตนของแอนนา คุณค่าของสิ่งที่ได้มาคือรางวัลของนักสู้ แต่ไม่ได้หลงระเริงในความหรูหรา
“ใช่ๆ ค่ะ แอนนามองว่าสุดท้ายที่นอนมันก็คือที่นอน (หัวเราะ) จุดประสงค์หลักของที่นอน มันก็คือการพักผ่อนเท่านั้นเอง อย่างนอนอยู่วัด แอนนาก็ได้พักผ่อนเหมือนกันค่ะ มันคือความสำเร็จ ไม่ใช่ความหรูหรา เราไม่ได้อินเพราะเป็นความหรูหราที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่เราอินเพราะว่ามันเป็นหนึ่งในรางวัลของนักสู้ค่ะ เราก็เลยอินว่าเราผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน นี่ก็เป็นสิ่งที่ได้รับตอบแทนมาจากความพยายามของเรา”

ภูมิใจในตัวเองมาก เป้าหมายสูงสุดอยากให้ตัวเองมีอิมแพคต่อสังคมและต่อโลก ให้คุ้มค่าที่ได้เกิดมา
“ภูมิใจมากๆ ค่ะ คือแอนนาผ่านอะไรมา หมายถึงเป้าหมายต่างๆ เยอะมากเหมือนกัน ทุกเป้าหมายสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง แต่เป้าหมายนี้แอนนาสำเร็จมากๆ เลย แล้วก็เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ไม่เคยมีเป้าหมายที่ใหญ่ขนาดนี้ แล้วพอมันสำเร็จ มันรู้สึกว่าชีวิตเรามันมีคุณค่ามากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย"

ความสำเร็จที่เป็นที่สุดในชีวิตแอนนามี 3 อย่าง
“แอนนาว่าน่าจะเริ่มตั้งแต่การสำเร็จการศึกษา 2 อย่างหลักๆ แล้วกัน 1.เรียนจบ (จบปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 สาขาวิชาการจัดการโรงแรมและท่องเที่ยว จากคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน) 2. ได้รับมงกุฎ นี่คือความสำเร็จที่มองว่ามันยิ่งใหญ่สำหรับแอนนา เพราะกว่าที่เราจะได้มันมาเราต้องสู้มากๆ เลย แล้วความสำเร็จครั้งต่อไปก็อย่างที่บอกค่ะ คือการคว้ามงฯ 3 แล้วแอนนาจะทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะคว้ามาให้ได้ค่ะ”

มีเลือดนักสู้เต็มตัว เป็นคนทำอะไรต้องมีเป้าหมายชัดเจน
“คือแอนนามองว่าทุกคนมีเป้าหมาย เพื่อที่จะทำตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แอนนาเชื่อว่าเวทีนี้ เราไม่ได้จะทำเพื่อตัวเองอย่างเดียว แต่มันทำเพื่อคนอื่นด้วย มันเลยมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเป้าหมายแต่ก่อน นี้ก็เป็นคอนเซ็ปต์ New Beginning การเริ่มต้นใหม่ ที่แอนนาใช้ในการประกวดเหมือนกัน ก็ดีใจที่เราสามารถตอบโจทย์คำว่า New Beginning ได้ คิดว่ามันจะส่งต่อแล้วก็ถ่ายทอดสิ่งต่างๆ ที่เรามีให้กับทุกคนในสังคมได้เหมือนกันค่ะ”

จุดแข็งของแอนนาคือการเป็นนักสู้ แต่กลับมีพลังลบคือตัวเอง
“พลังลบของแอนนาตัวเองค่ะ ไม่ใช่ตอนนี้นะคะ แต่ก่อนแอนนาเป็นคนที่ไม่ค่อยจะซัปพอร์ตตัวเองมากเท่าไหร่ แอนนาจะชอบคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ มันเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เป้าหมายก่อนๆ ไม่ประสบความสำเร็จ แอนนาจะชอบดูถูกตัวเองค่ะ อย่างเช่น คิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ไม่มีความสามารถมากพอ ชอบคิดว่าทำแบบนั้นเธอพลาดแน่นอน แล้วมันจะเป็นจริงๆ มันเรียกว่ากฎแรงดึงดูดค่ะ

"ก่อนจะเข้ามาประกวด แอนนามีโอกาสได้เรียนแอคติ้งกับครูท่านหนึ่ง ครูเขาก็บอกว่าลองคิดดูว่า ถ้ามีเพื่อนคนหนึ่งคอยบอกกับเราเสมอ ว่าเธอทำไม่ได้ๆ เธอจะคบเพื่อนคนนี้อยู่ไหม มันเหมือนจุดประกายให้แอนนารู้เลยว่า ที่ผ่านมาเราใจร้ายกับตัวเองมาโดยตลอด แอนนาก็เลยเปลี่ยนความคิด กลายเป็นว่าทุกครั้งที่แอนนามีชาเลนจ์ใหม่ๆ แอนนาจะพูดเสมอว่าฉันทำได้ๆ รวมถึงการประกวดเวทีนี้เหมือนกัน”

นี่คือสิ่งที่แอนนาปลดล็อกตัวเองแล้วก้าวข้ามมาได้
“แอนนารู้สึกว่าแอนนารักตัวเองมากๆ เลย แอนนาขอบคุณเวทีนี้จริงๆ ค่ะ ที่ทำให้แอนนารักตัวเองมากขนาดนี้ แล้วรู้สึกโชคดีมากที่ได้เกิดมา รู้สึกว่าเรามีอะไรให้ทำเยอะมาก เราอยากทำอะไรเยอะมากๆ เลย เพื่อที่จะทำให้เรารู้สึกคุ้มกับการมีชีวิตในครั้งนี้ค่ะ”

เฝ้ารอวันนี้มาตั้งแต่ ม.5
“ตั้งแต่เข้าประกวดเส้นทางนางงามเลย ตั้งแต่ม.5 (หัวเราะ) เพราะตั้งแต่ที่แอนนาเดินบนเส้นทางนางงาม ตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่า โอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนเส้นทางนี้คือการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และเราก็ได้รับจริงๆ ซึ่งแค่เข้ามาประกวด เราก็รู้สึกว่าเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่แล้วนะ แต่พอเราได้รับปุ๊บ เหมือนเราประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้แล้ว แต่พอเราได้รับมาจริงๆ มันก็ยังไม่สำเร็จนะคะ เพราะจะสำเร็จก็ต่อเมื่อแอนนาสามารถคว้ามงฯ 3 ได้ สุดท้ายก็จะทำทุกอย่างให้เต็มที่ค่ะ"

เ"ชีวิตแอนนาเปลี่ยนไปเยอะ แต่ที่ไม่เปลี่ยนก็คือการเป็นตัวเองค่ะ สุดท้ายแล้วแอนนาเชื่อว่า ทุกๆ รางวัลที่ได้มา ทุกๆ อย่างที่แอนนาได้รับหลังจากรับมงกุฎมา มันยังทำให้แอนนาเป็นแอนนาคนเดิม เป็นแอนนาที่เป็นแบบนี้ ที่อยากจะมาพูด อยากจะมาสร้างแรงบันดาลใจ แล้วก็อยากจะทำทุกๆ นาที ให้เรารู้สึกว่าเราเกิดมาแล้วมันคุ้มค่าค่ะ”

ดีใจที่เรื่องราวของครอบครัวสามารถเป็นพลังให้คนอื่นได้
“แอนนาดีใจมากๆ ที่ทุกคนเห็นว่าเรื่องราวในชีวิตของเรา มันสามารถส่งต่อคุณค่าให้กับคนอื่นได้มากมายเลย มันเป็นหนึ่งเหตุผลที่แอนนามาประกวดเหมือนกัน แอนนาอยากจะใช้เรื่องราวของแอนนา สร้างอิมแพคให้กับคนในสังคม แล้ววันนี้มันเกิดขึ้นจริง ก็ขอขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เห็นคุณค่าในสตอรี่แอนนา

"แต่แอนนาอยากบอกนะคะ ว่าสตอรี่แอนนาก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเหมือนกัน อยากให้ทุกคนมาโฟกัสกับสิ่งที่แอนนากำลังจะทำต่อไปด้วย แอนนาเชื่อว่าสิ่งที่แอนนาจะทำต่อไปในอนาคต ก็มีคุณค่าที่จะสามารถส่งต่อให้กับคนในสังคมได้เหมือนกันค่ะ

"ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้แอนนาได้รู้ ว่าแอนนาสามารถส่งต่อพลังให้คนอื่นได้ยังไงบ้างค่ะ เพราะนางงามจากกองขยะ แปลความหมายแล้วก็คือการที่คนที่มีต้นทุนที่ไม่ได้เพียบพร้อมอะไร ก็อยากจะส่งต่อให้ทุกคนได้รู้ค่ะ ว่าเราอาจจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ ถ้าเราเชื่อในตัวเองค่ะ”

ผ่านชีวิตมาหลากหลายรูปแบบ เมื่อให้มองตัวเองคิดว่าเป็นคนแบบไหน แอนนาก็บอกว่า...
“แอนนาว่าแอนนาเป็นคนที่เก่งคนหนึ่งเลยนะคะ เก่งที่ไม่ใช่แค่ในเรื่องของความรู้นะคะ แต่เก่งที่การใช้ชีวิตมากกว่า เก่งที่อดทน เก่งที่ต่อสู้ และเก่งที่จะไม่ยอมแพ้ ก็ถือว่าเป็นคนเก่งคนหนึ่งเลย ก็อยากให้ทุกคนมีความเป็นคนเก่งแบบที่แอนนาเป็นเหมือนกันนะคะ”

หนุ่มๆ คงเฮกันยกใหญ่ เพราะแอนนายืนยันหัวใจยังว่าง โสดสนิท
“ยังไม่มีค่ะ พักก่อน (หัวเราะ) อยากโฟกัสแค่เรื่องนี้ก่อน เพราะว่าเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มากๆ แล้วเราก็คิดว่ามันสำคัญมากที่สุดแล้วในชีวิตเรา ก็อยากจะโฟกัสตรงนี้ก่อนค่ะ (สวย เก่ง มีตำแหน่ง ต้องสกรีนอย่างหนักเลยไหม?) ยังไม่คิดเลยค่ะเรื่องนั้น หนูยังไม่ได้คิดจริงๆ นะคะ แค่คิดว่าเราจะทำหน้าที่ในทุกๆ วันนี้ของเราให้ดียังไงแค่นั้นเอง ยังไม่ได้คิดเรื่องความรักเลยค่ะ ไว้ว่ากันในอนาคต (หัวเราะ)”

















กำลังโหลดความคิดเห็น