“ปอยฝ้าย มาลัยพร” ได้ธรรมะช่วยช่วงโควิด รายได้หายหมด รายจ่ายเท่าเดิม กินเงินเก่าเกือบหมด จนประกาศขายที่ โชคดีผันตัวขายปลาร้าส่งออกต่างประเทศ ขายดีต้มเกือบไม่ทันแล้ว ดักดรามาไม่ใช่โรงงานตัวเอง ส่วนงานเพลงเข้าใจหัวอกนายห้างแล้ว หลังออกมาทำเอง กระแสยังฝืดแต่ไม่ท้อ
เป็นนักร้องนักแสดงอีกคนที่ต้องเผชิญมรสุมโควิดในช่วงที่ผ่านมา เพราะไม่มีงาน ไม่มีรายได้ กินเงินเก็บเกือบหมด จนต้องประกาศขายที่ เรียกว่าหนักหน่วงอยู่ไม่น้อย สำหรับ “ปอยฝ้าย มาลัยพร”เจ้าของเพลงมันต้องถอน แต่ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มกลับมามีแสงสว่างบ้างแล้ว เพราะเริ่มกลับมามีงานเหมือนเดิม รวมทั้งผันตัวขายปลาร้า ที่ตอนนี้กำลังขายดิบขายดี ต้มเกือบไม่ทัน
“ก็หนักอยู่ครับ รายได้มันหายไปเลย แต่รายจ่ายยังเหมือนเดิม 2 ปีที่ผ่านมาเหมือนเรากินเงินเก่า แล้วมันก็เริ่มหมด ทีนี้เราจะทำยังไง เพราะรายได้จากเพจจากยูทิวบ์ของเรา มันก็ได้พอแค่ค่าน้ำค่าไฟ ส่วนค่าบ้านเราก็ต้องไปเจรจา ว่าขอจ่ายส่วนน้อยๆ ก่อน ตัวเราเองก็เรียกว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว เจอแบบนี้ก็เครียด แต่ก็พยายามมองข้ามปัญหา เพราะมันก็ทั้งประเทศ ทั้งโลกแหละ เราก็ต้องอยู่ให้ได้ มีธรรมะก็ช่วยได้ครับ”
ดีใจงานเริ่มกลับมาแล้ว
“นี่แหละ ก็เข้าหลักการธรรมะ เหมือนเราปวดขา เราไม่กินยาก็หายได้ มันก็ได้ผลนะ แล้วอีกอย่างหนึ่งตอนนี้เราไม่ดื่ม ถ้าเป็นสมัยก่อนนะที่เราดื่ม เราก็คงเป็นบ้านะ เพราะยิ่งกิน ยิ่งกลุ้ม ยิ่งเครียด แต่อันนี้เราก็ยังมีสมองและปัญญา มองข้ามมันได้อยู่ งานตอนนี้เราก็เริ่มกลับมาแล้ว เหมือนเราขุดบ่อน้ำ ตอนนี้น้ำกำลังไหลซึมออกมาแล้ว
ตอนนี้มีละครอยู่ 2 เรื่องครับ ส่วนงานเพลงหมอลำ เราก็ทำลงช่องของตัวเอง พอออกมาทำเองแล้ว เราก็เข้าใจความรู้สึกของเจ้าของค่ายนะ แต่ก่อนมีค่ายลงทุนให้ พอเราหมดสัญญา ก็ลองออกมาทำเองดู ลองเป็นนายห้างตัวเองดู ก็เข้าใจความรู้สึก แล้วเพลงยุคนี้ถ้าลงทุนสูงๆ ก็เสี่ยง มันเอาอะไรมาวัดยากให้มาตรฐาน ลงทุนสูง แต่ปล่อยออกมาได้แค่ 1-2 พันวิว มันก็เสี่ยง เราก็เลยทำแบบว่าพอไม่ให้คนลืมเรา ทำแบบสนุกๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรเยอะ เอาเท่าที่จะเซฟได้ เราจะเน้นที่เพลงมีคุณภาพอะไรประมาณนี้ครับ”
กระแสยังฝืด แต่ไม่ท้อ
“ตอนนี้ก็ยังฝืดๆ อยู่ครับ แต่ไม่ท้อครับ ทำเรื่อยๆ เราเพิ่งออกมาเป็นอิสระเดือนมกราคมปีนี้เองครับ ถามว่าเหงาไหม ไม่ได้เล่นกับวงแล้ว ก็ไม่เหงาครับ ว่างๆ ก็ไปเยี่ยมเพื่อนๆ นายห้างก็ยังโทร.มาเหมือนเดิมเหมือนครอบครัว แค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้นเอง เราก็ยังแฮปปี้ ยังอบอุ่นเหมือนเดิม น้องๆ ศิลปินที่อยู่ค่ายเดียวกัน ก็มีเรียกไปช่วยขึ้นเวทีเป็นรับเชิญบ้างครับ”
ขอบคุณเจ้านายมีเมตตา สามารถนำเพลงเก่าไปร้องหากินได้
“ร้องได้ครับ เจ้านายมีเมตตาครับ ศิลปินทุกคนที่หมดสัญญาไป ก็นำเพลงไปใช้ได้ แต่เราก็ต้องไปเจรจาเรื่องลิขสิทธิ์ให้ถูกต้อง เหมือนคนทั่วไปครับเพราะเราไม่ได้ซื้อมาเป็นของตัวเอง อย่างงานทัวร์คอนเสิร์ตก็เริ่มมีกลับมาแล้ว เมื่อวานก็เข้ามาติดต่อไว้ 2-3 งานแล้ว ถือเป็นสัญญาณที่ดีนะ ไม่ใช่เฉพาะกับเรา แต่เป็นศิลปินทุกคนเลย”
ผันตัวขายปลาร้า ต้มเกือบไม่ทันแล้ว ส่งออกต่างประเทศ
“แต่ในช่วงที่ไม่มีงาน เราก็ขายปลาร้าครับ ฝากได้ไหม (หัวเราะ) ตอนนี้เราขายปลาร้า ยี่ห้อแซบปิ่นโต เป็นโรงงานที่เราดูแลเอง ผลิตเองครับ น้ำปลา 92 เปอร์เซ็นต์ แต่หลายคนถามนะ ว่านักร้องส่วนมากทำแต่ปลาร้า ไม่กลัวชนกันเหรอ แต่เราไม่มีเวลาตัดสินใจขนาดนั้น เราต้องใส่เลย เพราะเราไม่มีเวลารอแล้ว มันอยู่ที่เราตั้งใจ เอาใจลูกค้า การตลาดเราจะเน้นลงไปขายเอง จัดบูธให้ตัวแทน ใครมาเป็นตัวแทน เราจะเอาหมอลำไปจัดมินิคอนเสิร์ต โปรโมตให้ แล้วก็ขายให้ด้วยครับ
ตอนนี้ก็โอเคนะครับ ต้มเกือบไม่ทันเลย เราก็มีกำลังใจ ว่าเริ่มมาถูกทางแล้ว มีส่งออกต่างประเทศแล้ว เพราะธุรกิจนี้มันไม่ใช่เราทำคนเดียวนะ เดี๋ยวแฟนเพลงจะว่าเอาอะไรไปทำ ไหนว่าขัดสน มีโรงงานทำเองได้ยังไง คือมันเป็นโรงงานของเพื่อนเราครับ เพื่อนเขาอยู่อเมริกา เขาทำร้านอาหารไทยอยู่ที่โน่น แล้วปกติเขาก็ทำปลาร้าอยู่แล้ว เพื่อนก็เลยเอามาให้เราขาย มันจะได้ง่ายขึ้น ก็เลยร่วมมือกัน ช่วยกันทำครับ”