“เบนซ์-มิค” ติดเชื้อโควิดยกครัว “ปราง-เปรม” เชื้อลงปอด แต่โชคดีอาการไม่หนัก เผยชีวิตรักคอมพลีต เพิ่งผ่านครบรอบรัก 18 ปี ครบทุกรส มองหน้ากันทนกันอยู่ได้ ทำไมไม่เลิก เผยถูกลูกๆ โกรธหากเห็นพ่อแม่กอดกัน พร้อมเผยเคล็ดครองรักยาวนาน เล็กๆ น้อยๆ ต้องยอมกัน
ออกมายอมรับว่าเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 กันทุกคน สำหรับ “เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา” และ “มิค บรมวุฒิ หิรัญยัษฐิติ” โดยในงานเปิด LEGO Store สาขาใหม่ล่าสุด แห่งที่ 3 ของประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เบนซ์-มิค ก็เปิดใจเล่าว่าโชคดีที่อาการไม่หนัก แม้ “ปราง-เปรม” จะเชื้อลงปอด
มิค : “ตอนเดือน ก.พ. เราติดโควิดกันทั้งบ้าน ด้วยความที่เราไม่ได้ไปไหน เราก็เลยไม่ได้ประกาศ มันก็โอเคถ้าลูกเป็นพร้อมเรา ตัวมิคติดจากลูก เราจะสงสารบ้านที่เด็กติดแล้วผู้ใหญ่ไม่ติด ลูกเราไปติดมาจากที่ไปเที่ยวต่างจังหวัดมา ไปเที่ยวกับที่บ้านเบนซ์ กลับมาญาติฝั่งบ้านเบนซ์ขึ้น ซึ่งมิคไม่ได้ไปด้วย ก็ไปกัน 3 วัน พอกลับมาลูกก็คิดถึงพ่อ มากอดพ่อ เท่านั้นแหละครบทั้งบ้าน น้องเปรมเป็นคนแรกเลย
แต่มันกลายเป็นว่าเรารู้สึกสบายใจมากกว่าที่ติดกันทั้งบ้าน คือตอนแรกเบนซ์ น้องเปรม น้องปราง ไปโรงพยาบาลก่อน ปริมกับมิคยังไม่ขึ้น วันต่อมาเราก็เลยงั้นเราตรวจซะเลยดีไหม ปริมก็เจอเลย กลายเป็นเหลือมิค ก็ต้องคอยส่งของต่างๆ ให้ 3 วันเท่านั้นติดยันแม่บ้าน หมอเขาก็น่ารักมาก บอกจะอยู่โรงพยาบาลให้เปลืองเงินทำไม กลับไปโฮมไอโซเลชั่นเถอะ ก็เลยกลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน”
ปราง-เปรม เชื้อลงปอด แต่ไม่มีอาการหนัก
มิค : “ไม่มีใครอาการหนักเลย มีแค่ปรางกับเปรมที่เชื้อลงปอด ตอนได้ยินใจตกไปตาตุ่มเลย”
เบนซ์ : “หมอก็เปิดให้ดูว่ามันมีฝ้า เดี๋ยวจะให้กินฟาวิฯ ก็ทำใจ และเข้าใจว่าต้องกินยาเพราะอะไร ด้วยอาการเขามันไม่ได้แย่มาก เด็กบางคนจะไอเยอะ แต่ลูกเราไม่ได้ไอเลย แค่ไข้ขึ้นอยู่ 2 วันน้ำมูกไหล เหมือนเป็นหวัดเท่านั้นเอง เขาไม่ได้ไอเลย ก็เลยรู้สึกว่าปอดเขาคงไม่น่าจะเป็นอะไรมั้ง แต่พอครบ 5 วันจะกลับบ้าน หมอให้เอ็กซเรย์อีกรอบนึงแล้วมาเทียบกัน ก็เยอะอยู่เหมือนกัน พอได้ยาไปก็ดีขึ้น”
มิค : “ตอนนี้คือหายหมดแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว”
แอบกังวลลองโควิด
มิค : “แอบกังวลนะ มีเพื่อนผมคนนึงทุกวันนี้เหมือนยังหลงๆ ลืมๆ คือเขาเป็นหนักเลย ก็เกือบจะใช้ชีวิตปกติแล้วแหละ แต่ก็จะให้เด็กๆ คอยระวังอยู่ตลอดเวลา มิคเป็นคนที่หลอนมาก ขึ้นรถมิคก็ให้ฉีดแอลกอฮอล์ใต้รองเท้าก่อนจะขึ้นรถ เพราะเราไม่รู้ว่าใครฮัดชิ้วไว้ตรงไหน แล้วเราไปเหยียบขึ้นรถมาหรือเปล่า ก็พยายามจะทำให้เด็กๆ สะอาดที่สุด คือถ้าเป็นก็จะไม่เสียใจ แต่ป้องกันไว้ให้ได้มากที่สุดตั้งแต่แรกจะดีกว่า”
เบนซ์ : “ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครมีอาการที่ดูจะเป็นลองโควิดนะ ทุกคนโอเคหมด สบายใจกันขึ้นเยอะ”
มิค : “โชคดีที่บ้านเราอาการไม่หนักแม้แต่คนเดียว”
แฮปปี้ครบรอบ 18 ปีที่รักกัน ผ่านมาทุกรูปแบบ คุ้มค่าพิสูจน์ตัวเองเอาชนะใจคนในครอบครัวเมีย
มิค : “แป๊บเดียวเอง 18 ปีแล้ว มีคนส่งคลิปในรายการหนึ่งที่เจอกันแรกๆ ก็ถูกสัมภาษณ์ เราก็ตอบไปว่าไม่ได้คบกันครับ ไม่ได้มีอะไร เบนซ์ก็ตอบเปล่าค่ะ ไอ้อ้วนเนี่ยหนูไม่ได้คบกับมัน (หัวเราะ) แล้วน้องๆ รุ่นใหม่เวลาเจอกันในกองก็จะมาถามพี่ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ก็จะตอบว่าเชื่อไหมสมัยนั้นมันบอกไม่ได้จริงๆ ต่อให้อยากบอกก็บอกไม่ได้ ก็เลยกลายเป็นเรื่องเล่าให้น้องๆ ฟังมากกว่าว่าเพราะอะไรสมัยนั้นมันถึงพูดไม่ได้”
เบนซ์ : “มันเป็นยุคนั้น”
มิค : “ตอนนั้นมันต้องปฏิเสธ ค่อยๆ คุยกันอยู่ โถ! เป็นแฟนกันแล้ว ก็ผ่านมาทุกรูปแบบ อย่างที่ทุกคนรู้ช่วงแรกๆ จะหนัก จะโดนวัดใจเยอะ ด้วยบทที่เราได้เล่น ด้วยความขี้เล่นของเรา กว่าจะเอาชนะใจเขา เอาชนะใจครอบครัวเขามันก็ใช้เวลา แต่พอเวลามันผ่านไปแล้ว มันก็คุ้มทุกอย่างที่เราพยายามพิสูจน์ตัวเอง แล้วก็ทนมาในหลายๆ เรื่องมา”
เบนซ์ : “ไม่มีแล้วเนอะยุคนี้ เคยคิดนะชีวิตรักเราถ้าเอามาเขียนเป็นพล็อตละครคงฮา แต่เด็กยุคนี้มาดูอาจจะรู้สึกว่าแม่เป็นไรมากเปล่า คุณยายดูป่วยนะ อาการหนัก คนในยุคนี้อาจจะไม่เข้าใจแล้ว สมัยก่อนกว่าจะคุยกัน กว่าจะอะไรได้ต้องผ่านหลายอย่าง ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไป ยังคุยกันเลยว่าเสียดายจังเลย เราน่าจะทำละครเรื่องแรกเป็นชีวิตของเราเอง(หัวเราะ) น่าจะขำ”
มิค : “ผมผ่านมาหลายบททดสอบมาก ก็สนุกดีครับ”
มองหน้ากัน ทนกันมาได้ไง ทำไมไม่เลิก
เบนซ์ : “สนุกดี เวลามันผ่านไปแล้ว ก็จะชอบมองว่าก็ทนกันมาได้เนอะ ทนอยู่ได้เนอะ ทำไมไม่เลิกๆ ไปวะ(หัวเราะ)”
มิค : “แล้วน้องๆ ชอบมาถามพี่แล้วมันเป็นไง เราก็บอกมันไม่ใช่แค่ช่วงบอกไม่ได้นะว่าเป็นแฟนกัน มันยังมีช่วงแอบถ่ายอีก อันนั้นสนุกกว่าอีก มันไม่เหมือนสมัยนี้แล้ว”
18 ปี ชีวิตคอมพลีตแล้ว ลูกโกรธหากพ่อแม่กอดกัน
มิค : “มันเหมือนคอมพลีตสุดแล้ว ไม่เคยนึกว่า 18 ปีที่แล้ว พอผ่านมามันจะแฮปปี้ขนาดนี้ ถามว่ามีอะไรพิเศษอีกไหม กอดกันยังไม่ได้เลย ลูกสาวหวงพ่อ ไม่ให้พ่อกอดแม่”
เบนซ์ : “หวงอะไรก็ไม่รู้ แล้วเป็นทั้งคู่เลยนะ เห็นพ่อแม่กอดกันแล้วโกรธมาก โกรธแม่นะ ปกติเบนซ์กับพี่มิคไม่ค่อยได้กอดกัน คือเราเป็นเหมือนเพื่อนกัน แล้วพอจะกอดกันคือเป็นเรื่องประหลาดสำหรับลูก ตลก”
มิค : “มันเป็นเรื่องที่ยากมาก”
เบนซ์ : “หวงพ่อ ตอนกลางคืนสองสาวก็แย่งกันนอนกอดพ่อ ก่อนหน้านี้จะนอนกับแม่คนละข้าง พอมีน้องเปรมก็จะมีคนนึงต้องไปนอนกับพ่อ แต่ตอนนี้สองสาวแย่งกันนอนกับพ่อแล้ว เป็นคิวๆ กันไป”
มิค : “พ่อชื่นใจมาก แต่ต้องมาแอบขโมยกอดกัน คิดดูเอา”
ไม่มีโมเมนต์สวีต
มิค : “ตั้งแต่มีลูกก็ไม่มีเลย”
เบนซ์ : “ปกติก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว”
มิค : “คู่เรามองกันเป็นเพื่อนมากกว่าเป็นแฟนมาตั้งแต่แรก”
เบนซ์เตรียมคัมแบ็กกลับมารับงานในวงการ
เบนซ์ : “จะกลับมาทำงานแล้ว ช่วยเขาหน่อย สงสารเขา ลูก3 คน เขาทำงานอยู่คนเดียวก็เหนื่อยมาก แต่พอเป็นละครก็ยังห่วงเรื่องเวลา เบนซ์ยังต้องไปรับไปส่งลูก ก็อาจจะยังไม่เล่น คงจะรับเป็นงานพิธีกรไปก่อน ก็จะได้เจอกันเร็วๆนี้ เอาจริงก็คิดถึงวงการเหมือนกันนะ ความที่ไม่ได้ทำมานานก็อาจจะต้องเคาะสนิมเยอะนิดนึง ไม่ได้พูดอะไรที่ต้องใช้ไหวพริบในการแก้สถานการณ์มานานแล้วก็ต้องมาฝึกกันนิดนึง แล้วตอนนี้ก็พยายามลดน้ำหนัก เพราะกลัวกลับไปแล้วจะไม่มีไซส์เสื้อผ้าใส่ กลัวลำบากคนหาเสื้อผ้า ก็อยากให้ทีมงานเขาทำงานกันง่ายหน่อย กลับมาแล้วก็อยากทำตัวให้มันสวยๆ นิดนึง”
เคล็ดครองรัก เล็กๆ น้อยๆ ก็ยอมกันไป
เบนซ์ : “มารู้ว่าเพลงที่เราเคยฟังมันสัมพันธ์กับชีวิตจริงมากๆ เลย อย่างเพลงที่ร้องว่าเล็กๆน้อยๆ เราก็ยอมกันไป อันนี้คือสำคัญมากเลย ไอ้เรื่องเล็กๆ ที่ไม่ยอมมันจะเป็นเรื่องใหญ่สักวันนึง เบนซ์รู้สึกว่าการยอมกันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับครอบครัวนะ อย่างเมื่อก่อนอันนี้ไม่ยอม ฉันต้องชนะ ฉันต้องได้สิ ฉันพูดแล้วต้องทำตามฉันนะ แต่พอมาวันนี้มันจะเป็นใครยอมก่อนคนนั้นชนะ นี่พูดจริงๆเลยนะ สมมติเถียงกัน แล้วดูว่าเขาจะยืนกรานอ้นนี้ เราก็ยอม ตามนั้น จะได้ไม่ต้องเถียงกัน มันจะได้จบเร็วหน่อย แค่รู้สึกว่าอะไรที่ยอมๆ ได้ก็ ยอมไป”
มิค : “น้องๆ ในวงการมาถามมิคเยอะว่าอยู่กันมาได้ยังไง 18 ปี มิคก็บอกว่ามันไม่มีใครที่เกิดมาเป็นจิ๊กซอร์ของกันและกันที่มันจะเสียบได้พอดีหรอก มันอยู่ที่ว่าแต่ละคนมีตัวตะไบจิ๊กซอร์ของตัวเองกเนคนละมือ แล้วเราพร้อมที่จะตะไบส่วนของเราให้เท่ากับเขาได้ขนาดไหน ถ้าเราพร้อมที่จะทำเพราะเราเห็นเป้าหมายข้างหน้ามันก็ไปด้วยกันได้ แต่อีกอย่างที่สำคัญที่เราอยู่กันมาได้ 18 ปีเพราะเรามองกันเป็นเพื่อน สังเกตไหมนัดเพื่อนกินข้าว แล้วมันไม่มาหรือมันเบี้ยว เราด่ามันคำเดียว วันรุ่งขึ้นมาชวนอีกเราก็ไป แต่เมื่อไหร่ที่แฟนเบี้ยวนัดเรา เรางอนยาว คู่เราก็จะมองกันเป็นเพื่อนที่จะเป็นคู่ชีวิตเดินไปด้วยกันดีกว่า”
เบนซ์ : “พอมีลูกด้วย มันก็สำคัญเบนซ์ไม่อยากเห็นลูกมาเห็นตอนเราทะเลาะกัน บรรยากาศในบ้านมันก็ไม่ดี เด็กๆ เขาจะสัมผัสได้ว่าบรรยากาศมันแปลกๆ เราก็ไม่อยากให้มันอยู่นาน พยายามพูดกับลูกตลอดว่าคนที่ยอมไม่ใช่เป็นคนแพ้นะลูก บางทีลูกทะเลาะกัน เราก็จะมีพูดปิดท้ายว่าบางทีแม่ก็ยอมพ่อนะลูก บางทีพ่อก็ยอมแม่นะ เราต้องสลับกันนะลูก เราจะได้อยู่ด้วยกันได้”
