ตกเป็นข่าวใหญ่กว่าหนังเรื่องไหนคว้ารางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 กระทั่งโด่งดังกว่าดาราชาย หรือดาราหญิงคนใดได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมแห่งปี
เพราะทันทีที่ วิล สมิธ เดินส่ายอาดๆ ขึ้นไปบนเวทีแล้วสะบัดมือใส่หน้า คริส ร็อก นักแสดงตลกซึ่งในงานยิ่งใหญ่อลังการนั้นเขารับบทบาทเป็นพิธีกร แล้วช่วงหนึ่งดันปากพล่อยเอ่ยถึงจาดา พิงค์เก็ต สมิธ ภรรยาของวิลล์ สมิธ ในเชิงล้อเลียน
หลังจากนั้นข่าววิล สมิธ ‘น็อตหลุด’ ก็แซงหน้าทุกซีนของออสการ์ปีนี้ชนิด ‘ยืนหนึ่ง’ ติดต่อกันหลายวัน คนดังทั้งดารา นักกีฬา เซเลบทั่วโลก รวมทั้งไทยต่างออกมาแสดงความคิดเห็นในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ก็ว่ากันไป แล้วแต่มุมมอง แต่มุมหนึ่งซึ่งผู้เขียนอยากให้มอง หรือพูดให้ถูกต้องคืออยากให้ดู ได้แก่หนังเรื่อง King Richard ที่วิล สมิธ สามารถขึ้นแท่นเป็นนักแสดงชายยอดเยี่ยมประจำปี ค.ศ 2022 บนเวทีออสการ์
ถ้าใครได้อ่านบทความของคอลัมน์เล็กๆ นี้ คงจำได้ว่าผู้เขียนอธิบายเหตุผลของตัวเองซึ่งตรงเปะกับความคิดเห็นของอดีตกรรมการพิจารณารางวัลศิลปินแห่งชาติว่าทำไมสรพงศ์ ชาตรี จึงได้เป็นศิลปินแห่งชาติ ก็เป็นระนาบเดียวกันกับเหตุใดวิล สมิธจึงคว้ารางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 ไปครอง
ต้องไปดูเชียวนะครับ โดยเฉพาะคนไหนที่ชอบ ‘ภาพจำ’ ของเขาในบทบาทแอ๊คชั่น ไปพิสูจน์กันให้จงได้ว่าวิล สมิธ ที่รับบทเป็น ‘ริชาร์ด’ พ่อแท้ๆ ของวีนัส วิลเลียม กับเซเรนา วิลเลี่ยม สองนักเทนนิสผู้สร้างประวัติฝากไว้กับโลกใบนี้ช่างหน้าลุกยืน ปรบมือ และโค้งคารวะอย่างไร
ใน King Richard วิล สมิธ ไม่หลงเหลืออะไรจากภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผู้เขียนเคยดูมา มีแต่พ่อของลูกสาว 5 คน ที่ซึ่งค่อยๆ สร้าง ฝึกฝน แนะนำ แก้ไข ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพี้ยนๆ ในสายตาของเพื่อนบ้าน จนกลับกลายมาเป็น ‘King’ ให้โลกจดจำ
อย่างที่จั่วหัวไว้ วิล สมิธ สมควรแล้ว...จริงๆ
อ้อ! ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้เป็นหนังอินดี้เล็กๆ ที่ผู้เขียนเคยเขียนชื่นชมไปแล้ว และมีจำนวนผู้อ่านไม่มากนัก ได้แก่ CODA
พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง