การทำศัลยกรรมนับเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งเพราะอาจทำให้บางคนดูดีน้อยลง, เกิดความผิดพลาด หรืออาจถึงแก่ชีวิต ขณะที่บางคนมันคือการแก้ไขข้อบกพร่องและปมในใจ จนพลิกชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ รวมถึงนักแสดงดังอย่าง “หลินฮ่าวหยาง” ที่ยอมขึ้นเขียงขอปรับลุคใหม่ จนโกยคะแนนจากสาวๆอื้อ
ตามรายงานระบุว่า นักแสดงหนุ่มวัย 29 ปี ที่มีชื่อเดิมว่า เหลียวจินเฟิง เคยทำศัลยกรรมมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน และเคยมีผลงานในซีรีส์เรื่อง Ashes of Love เมื่อปี 2018 แต่เพราะลุคที่ดูคล้ายคนต่างชาติทั้งตาโตและคางแหลม จึงทำให้ผู้ชมไม่ค่อยอินกับบทบาทของเขาเท่าใดนัก
ล่าสุดเขาได้โพสต์ภาพตนเองลงในโซเชียลมีเดีย และกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ของจีน เนื่องจากความหล่อเหลากับลุคตี๋อินเตอร์ที่ดูละมุนตาและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำเอาชาวเน็ตจีนต่างทึ่งกับฝีมือหมอศัลย์ที่เสกสรรค์หน้าใหม่ของเขาได้ดั่งเนรมิต
บางส่วนระบุว่าใบหน้าที่ผ่านมีดหมอมาอย่างหนักของเขาตอนนี้กลับกลายเป็นใบหน้าที่น่ามองและดูเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ จนเรียกได้ว่าเป็น “ปาฏิหาริย์ทางการแพทย์” กันเลยทีเดียว ขณะที่บางส่วนก็ขอแซวขำๆว่า ฮ่าวหยาง คือ จินเฟิง เวอร์ชัน 2.0
ฮ่าวหยาง ได้โพสต์ข้อความลงในโซเชียลมีเดีย พร้อมพูดถึงชีวิตของเขาหลังซีรีส์เรื่อง Ashes of Love และการขึ้นเทรนด์ฮอทในโลกโซเชียลเมื่อมีคนพูดถึงใบหน้าใหม่ของเขาด้วย
“ผมค่อนข้างวิตกเมื่อขึ้นเทรนด์ถูกคนพูดถึงเยอะมากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณที่ทุกคนให้ความสนใจนะครับ มันเป็นการจดจำว่าผมได้พยายามมาอย่างยาวนานในการปรับตนเอง”
เจ้าตัวยอมรับว่าได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายหลังจากที่ซีรีส์จบลง และเขาก็ ปรับตัวและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ต้องพาตนเองออกมาจากสภาพจิตใจที่ดิ่งลงอย่างหนักให้ได้
“ตอนนี้ผมมีความสุขมากที่ผมไม่ยอมแพ้ให้กับตัวเอง และรู้สึกซาบซึ้งมากสำหรับคำชมที่ทุกคนมอบให้” ซึ่งเจ้าตัวได้มองโลกในแง่ดี และพูดถึงความคิดเห็นแย่ๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องและมีความหมายมาก เพราะผลักดันให้เขาไม่หยุดที่จะพัฒนาและเป็นคนใหม่ในทุกวันนี้
“ใครที่เคยผ่านประสบการณ์เจอพายุโหมกระหน่ำ ก็ย่อมอยากที่จะกางร่มให้คนที่กำลังเผชิญสิ่งเหล่านั้นจนเปียกปอนอยู่ สำหรับผมนี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เท่านั้นนะครับ แต่มันยังรวมถึงการเติบโตทางด้านจิตวิญญาณด้วย”
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้สนับสนุนให้ผู้คนออกไปทำศัลยกรรมเสริมความงามแต่อย่างใด แต่เขาแค่อยากจะให้ผู้คน “ต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับโลกใบนี้ตลอดเวลา”
“จริงๆแล้วผมก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดา ถ้าผมทำได้ คุณก็ทำได้ครับ” หลินฮ่าวหยาง กล่าวทิ้งท้าย