ตั้งแต่วันแรกที่ “ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา” ศิลปินแห่งชาติ จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2565 ด้วยโรคมะเร็งปอด นับเป็นการสูญเสียที่นำความเสียใจมาให้คนในครอบครัว รวมถึงคนในวงการบันเทิงและผู้คนมากมาย หลายคนยกย่องอาต้อยเป็นบุคคลที่มีคุณค่าของวงการบันเทิงไทย และรู้สึกใจหายกับการสูญเสียครั้งนี้
โดยวันนี้ (27 ก.พ.) เป็นการสวดอภิธรรมคืนสุดท้าย ซึ่งหลังจากนี้ ครอบครัวจะเก็บร่างไว้ 100 วัน เพื่อรอพระราชทานเพลิงศพ และจะย้ายร่างจากศาลา 1 ไปที่ศาลา 16 วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร โดยจะมีพิธีสวดอภิธรรมและทำบุญให้ทุกวันจันทร์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม - วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565
สำหรับบรรยากาศคืนสุดท้ายของการสวดอภิธรรม ยังคงมีบุคคลสำคัญจากหลากหลายวงการมาร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ที่มาพร้อมกับลูกชาย “เป๊ก เศรณี ชาญวีรกูล” นอกจากนี้ ยังมีคนดังในวงการบันเทิงเดินทางมาร่วมงานอย่างหนาตาเช่นเคย ได้แก่ จินตหรา สุขพัฒน์, น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา, แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์, กัปตัน ภูธเนศ หงษ์มานพ, ติ๊ก กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ, ก้อง ปิยะ เศวตพิกุล, อ้อย จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา, รัดเกล้า อามระดิษ, จิ้ม ชวนชื่น, ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล, เบิร์ด กุลพงศ์ บุนนาค, ฮันนี่ ภัสสร บุณยเกียรติ, บี๋ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์, หญิง รฐา โพธิ์งาม, เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์, เฟรช อริศรา วงษ์ชาลี ฯลฯ
ด้าน “อี๊ฟ พุทธธิดา ศิระฉายา” ได้เปิดใจว่า หลังจากนี้ ชีวิตต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตอนนี้ต้องนอนกับคุณแม่ “เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์” ทุกวัน
“วันนี้สวดคืนสุดท้ายสำหรับ 7 วันแรกค่ะ หลังจากนี้ ตั้งใจว่าจะสวดทุกวันจันทร์ คุณพ่อเกิดวันจันทร์ เราก็เลยจะสวดพระอภิธรรมช่วงกลางวัน คือ เราจะถวายเพล เสร็จแล้วก็จะต่อด้วยสวดพระอภิธรรมช่วงบ่ายโมง ก็จะเป็นสวดเจริญพุทธมนต์ 10.30 น. โดยประมาณ คือถวายเพลเสร็จแล้ว ก็จะเว้นช่วงให้พระฉันท์เรียบร้อยก่อน แล้วก็จะมาสวดค่ะ ทุกวันจันทร์จนกว่าจะครบ 100 วัน แล้วก็จะมีทำบุญ 50 วันในวันที่ 10 เมษายน ทำบุญ 100 วันวันที่ 30 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันจันทร์สุดท้าย
ทางครอบครัวเป็นเจ้าภาพหลักอยู่แล้ว แต่ก็จะมีเจ้าภาพบางคณะ ที่มีความประสงค์ อันเนื่องด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมา เป็นเรื่องของโควิดด้วย แล้วเราก็มีข้อจำกัดในการจัดงานค่อนข้างมาก แล้วก็มีคนกักตัวในช่วงนี้ค่อนข้างเยอะ ที่อยากมาร่วมงาน เราก็เปิดโอกาสให้ค่ะ เพียงแค่ว่าศาลา 16 ที่จะย้ายไป อาจจะเป็นศาลไม่ใหญ่ เราก็ยังคงขอความร่วมมือในเรื่องความเข้มข้นในการตรวจ ATK ก่อนมาร่วมงาน”
พิธีพระราชทานเพลิงศพ ต้องรอกำหนดการอีกครั้ง
“ในส่วนของพิธีพระราชทานเพลิง เราต้องรอหมายกำหนดการทางพระองค์ท่านอีกทีค่ะ ก็ยังกำหนดไม่ได้ แต่ก็ต้อง 100 วันไปก่อน”
ตอนนี้ยังยุ่งๆ เลยไม่รู้สึกอะไรมา คงจะรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง ตอนที่งานจบไปแล้ว
“ตอนนี้ยังยุ่งๆ อยู่ ก็คงยังเรื่อยๆ อยู่ค่ะ เราเข้าใจดีมาตั้งแต่แรกแล้ว ถึงเราจะไม่เคยมีประสบการณ์ แต่เราก็เห็นผู้มีประสบการณ์มาเยอะแล้ว เพราะคุณพ่อกับคุณแม่ เป็นคนที่ให้ความใส่ใจในเรื่องการไปศพมากๆ เพราะเรามักจะไปให้กำลังใจกับผู้ที่สูญเสียเสมอ พอมาถึงเรา ทุกคนจะพูดหมดเลย ว่าหลังจากงานไปแล้วนี่แหละ ถึงจะเริ่มรู้สึกจริงจัง พอหายยุ่งแล้วมันจะมีความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ค่อนข้างชัดเจนค่ะ
ตั้งแต่วันแรกมา มีแต่คนเข้าไปร้องไห้กับแม่ แม่ต้องคอยโอ๋คนอื่น ว่าไม่เป็นไรนะๆ คือ อี๊ฟเข้าใจว่า คุณแม่เป็นคู่ชีวิตที่ทำทุกแล้ว ในทุกๆ เรื่องเราดูแลกันมา แล้วคุณแม่ก็เป็นคนที่ค่อนข้างเข้มแข็ง แล้วก็เป็นคนที่มีความเข้าอกเข้าใจ ในสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาเวลาอยู่แล้ว แต่เพียง 7 วันที่ผ่านมา เราย้ายไปนอนด้วยกัน อี๊ฟ ต้น มีบุญ คุณแม่ นอนอยู่ในห้องเดียวกัน เพราะทั้งนี้ทั้งนั้น คุณแม่ก็อายุมากแล้ว ปกติจะมีคุณพ่อนอนด้วย พอช่วงนี้คุณแม่นอนคนเดียว ก็จะกังวลเรื่องเขาลุกเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน เพราะช่วงหลังมานี้คือนอนแยกฝั่งคนละตึกกัน ตอนนี้ก็เลยมานอนห้องเดียวกัน
อี๊ฟนอนห้องพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กจนโต เพิ่งมาแยกเมื่อมหาวิทยาลัยนี่เอง ก็ยังมีบ้างเหมือนกัน ที่กลับไปนอน บ้านเราเป็นครอบครัวที่อยู่ด้วยกันมาตลอด เราไม่ได้แยกบ้าน มันเลยไม่รู้สึกอะไร ต้นเขาเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร มีกลางคืนเขาจะนอนไม่ค่อยหลับ เพราะห้องคุณพ่อเขามีพื้นที่ แต่ต้นเขาไม่ค่อยชอบห้องกว้างๆ แล้วแม่จะติดเปิดไฟสลัวๆ เพราะต้องเข้าห้องน้ำ เขาก็จะรู้สึกแว๊บๆ กังวล ก็มีบ้างที่เขาหนีกลับไปนอนห้องเดิมคนเดียว”
บรรยากาศในบ้านยังเหมือนเดิม รู้สึกว่าพ่อไม่ได้ไปไหน
“จริงๆ แล้วเราทุกคนไม่ได้รู้สึกว่าพ่อไปไหน เขาบอกว่าเวลาเราทำอะไร เราต้องเรียกให้พ่อทำด้วย เราก็คงยังทำอย่างนั้นอยู่ แล้วเรารู้สึกว่าพ่อก็น่าจะอยู่กับเรานี่แหละ ไม่ได้ไปไหน เพราะว่าบรรยากาศในบ้าน ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าเขาไม่อยู่”
มีคุยกับคุณแม่ว่าเสียดาย พ่อน่าจะมีเวลามากกว่านี้
“มี แต่เราคุยกันบ่อยๆ ว่าน่าเสียดาย พ่อมีชีวิตที่ดีมากๆ แล้วพอเห็นคุณงามความดีของเขา หรือหลายๆ คนที่เข้ามา ก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าน่าเสียดาย พ่อน่าจะมีเวลามากกว่านี้”
รู้สึกยังไงบ้างที่มีคนรักคุณพ่อมากมาย มีคนจากหลากหลายวงการมาร่วมงานศพ
“จริงๆ พ่ออี๊ฟไม่ได้เป็นคนมีชาติตระกูล ไม่ได้มาจากตระกูลที่สูงส่ง ไม่ได้เป็นคนสำคัญ พ่อเป็นคนธรรมดา เริ่มต้นจากธรรมดา เป็นเด็กยกเครื่องวงดนตรีก่อนจะมาเป็นนักร้อง ไต่ขึ้นมาจากตรงนั้น จนขยับขึ้นมา ทำมาทุกอาชีพ ขายเรียงเบอร์ก็เคยทำ อี๊ฟก็เลยรู้สึกว่า คนเราจะเป็นอะไรก็ได้ แต่สำคัญที่สุดก็คือต้องเป็นคนดี ไม่ว่าเรามาจากไหน ยิ่งใหญ่หรือต่ำเตี่ยเรี่ยดิน แต่ถ้าเราเป็นคนดี เวลาจากไปก็มีคนอาวรณ์ ไม่ใช่ไปจากโลกนี้ แล้วคนบอกว่าไปได้ก็ดี คือเรารู้สึกว่าพ่อเขาทำอันนี้เอาไว้ วันนี้ถึงมีคนมาแสดงความอาลัยกับเขาเยอะมาก
หลังเสร็จพิธีทั้งหมดก็คงโฟกัสลูก คิดว่าพ่อห่วงหลานมากที่สุด ต้องเป็นหลักให้ครอบครัว
“อี๊ฟคงโฟกัสไปที่ลูก เพราะว่าสุดท้ายคิดว่าพ่อเป็นห่วงที่สุดก็คือหลาน เขาข้ามอี๊ฟไปแล้ว ว่าเราจะดูแลหลานยังไง หลานจะเติบโตไปยังไงทางไหน สมบัติที่เขาสร้างไว้จะถึงหลานไหม เราก็คงโฟกัสตรงนั้นทั้งหมดไปให้ลูก แล้วก็ครอบครัว จากวันนี้ที่จะไปข้างหน้า แล้วก็คุณแม่ที่ยังอยู่ ที่เราจะต้องเป็นจุดสำคัญของบ้านเราตอนนี้ค่ะ”
บอก “น้องมีบุญ” ว่าคุณตาหลับ คิดว่าพ่อยังอยู่ในบ้าน เพราะลูกวิ่งตามเหมือนเล่นกัน
“น้องยังไม่เข้าใจอะค่ะ แต่ก็ไม่ได้บอกอะไร ก็บอกแต่ว่าคุณตาหลับ วันที่รดน้ำเขาก็มาหาคุณตา แต่เช้าอีกวันหนึ่งเขาคงเห็นคุณตาอยู่บ้าน เขาก็วิ่งไล่ตาม วิ่งเรียกออกจากห้อง วิ่งลงบันได เขาคงเล่นกัน คิดว่าอย่างนั้น เขาไม่ได้ถามหาคุณตา เพราะอย่างที่บอก รู้สึกว่าคุณพ่อน่าจะอยู่ที่บ้านนั่นแหละค่ะ ไม่ได้ไปไหน”
สวดคืนที่ 3 ฝันเห็นพ่อลุกขึ้นมาจากหีบ บอกว่าหายแล้ว
“ต้นจะฝันเห็นพ่อบ่อย แต่มีอยู่คืนหนึ่งที่อี๊ฟฝัน คืนที่ 3 ฝันว่าเขาลุกขึ้นมาจากหีบ บอกว่าเขาหายแล้ว เราก็เข้าไปกอดเขาว่าดีจังเลย พ่อหายก็จะได้อยู่ด้วยกันนะ ไม่ต้องไปไหน เราก็เลยรู้สึกว่า ตอนนี้เขาคงสบายแล้ว เขาดูสดใส ลุกขึ้นมาบอกหายแล้ว”
กำลังพยายามรวบรวมผลงานของคุณพ่อ ว่าจะทำประโยชน์ต่อยอดอะไรได้บ้าง
“ตอนนี้เราพยายามคิดกันอยู่ค่ะ ในหลายๆ อย่าง ว่าจะทำประโยชน์อะไรได้ จากสิ่งที่พ่อทำไว้ ต่อยอดไปได้ เดี๋ยวคงต้องรอดูกันต่อไปค่ะ ก็พยายามดูว่าเราจะสามารถเอาอะไรมาทำให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้”
ขอบคุณทุกกำลังใจ ส่งมาให้ตั้งแต่พ่อป่วย
“ก็ต้องขอบพระคุณมากๆ นะคะ ตั้งแต่ช่วงคุณพ่อป่วย ก็ทราบว่าทุกคนส่งกำลังใจ หลายคนสวดมนต์ให้นะคะ ส่งข้อความที่เป็นประโยชน์มาให้สารพัดเลย ต้องขอบคุณทุกแรงใจจนมาถึงวันนี้ ที่คุณพ่อจากไปแล้ว ก็ต้องขอบคุณทุกท่าน ที่ให้ความรักความเมตตา แล้วก็ส่งความรักและอาลัยมาให้คุณพ่อค่ะ ขอบคุณทุกท่านค่ะ”