xs
xsm
sm
md
lg

“จากวันนั้น...ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ” อัลบั้มรวมเพลงร้องที่ดีที่สุดของ “เศรษฐา ศิระฉายา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เศรษฐา ศิระฉายา ผู้ล่วงลับ แต่บทเพลงที่ขับร้องไว้ยังคงอยู่
20 กุมภาพันธ์ 2565 ถือเป็นอีกหนึ่งวันแห่งความเศร้าและวันแห่งการสูญเสียครั้งสำคัญของวงการบันเทิงบ้านเราอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ “เศรษฐา ศิระฉายา” ศิลปินแห่งชาติ ได้เสียลงชีวิตในวัย 77 ปี หลังจากป่วยเป็นมะเร็งปอดและทำการรักษาตัวมาหลายปี

“เศรษฐา ศิระฉายา” หรือที่คนในวงการบันเทิง และคนทั่วไปนิยมเรียกว่า “อาต้อย” เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 อาต้อยเป็นศิลปินมากความสามารถ เป็นทั้งนักแสดง พิธีกร และ “นักร้อง” ซึ่งเป็นบทบาทที่เด่นที่สุด และทำให้เศรษฐาได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประเภทดนตรีไทยสากล-ขับร้อง ประจำปี 2554

เศรษฐา เริ่มเข้าวงการดนตรีตั้งแต่อายุ 16 ในตำแหน่งคนขนเครื่องดนตรีไปทัวร์ตามจังหวัดต่าง ๆ โดยการชักนำของน้าชาย สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ที่หอบหิ้วไปตระเวนกันไปทั่วประเทศ

เศรษฐา ศิระฉายา อีกหนึ่งนักร้องผู้เป็นตำนานของเมืองไทย
ด้วยความเป็นคนสนใจในดนตรี เศรษฐาจึงหัดเล่นดนตรีด้วยวิธีการครูพักลักจำ ก่อนจะจับไมค์ขึ้นเวทีครั้งแรกด้วยการขอขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีประกวดที่วัดบางไส้ไก่

จากนั้นเส้นทางดนตรีของอาต้อยก็เดินหน้าไปด้วยดี ก่อนจะมาถึงจุดพลิกผันสำคัญ เมื่อเขากับเพื่อน ๆรวมทั้งหมด 5 คน ในนามวง “ดิ อิมพอสสิเบิ้ลส์” (The Impossibles) ที่เริ่มเป็นที่รู้จักจากการแสดงในบาร์แถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ได้เข้าร่วมประกวดวงสตริงคอมโบชิงถ้วยพระราชทานที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2512 โดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

และด้วยฝีมือความสามารถอันโดดเด่นเป็นเอกอุผสมความแปลกใหม่ ทำให้วงดิอิมฯ คว้าแชมป์ 3 สมัยติด(2512,13 และ 15 ส่วนปี 14 งดการประกวด)

เศรษฐา สมัยอยู่วง ดิ อิมพอสสิเบิ้ลส์
จากนั้นวงดิอิมฯ ได้เดินหน้าขับเคลื่อนนำพาดนตรีประเภทสตริงคอมโบให้โด่งดังเป็นพลุแตก กวาดมาทั้ง ชื่อเสียง เงิน กล่อง และความสำเร็จต่าง ๆ อีกมากมายอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีผู้พลิกโฉมวงการเพลงบ้านเรา และเป็นวงดนตรีในระดับตำนานของบ้านเรา

ในปี พ.ศ. 2519 ดิอิมฯ เดินทางมาถึงจุดอิ่มตัว สมาชิกประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ พร้อมแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตน

เศรษฐาในฐานะนักร้องนำหลังแยกย้ายจากดิอิม ได้ออกไปเป็นศิลปินเดี่ยว มีอัลบั้มเป็นของตัวเองอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะเบนเข็มไปจับงานด้านการแสดงและพิธีกรอย่างจริงจัง แต่กระนั้นอาต้อยก็ยังไม่ทิ้งงานร้องเพลงที่เขารัก และยังคงร้องเพลงอยู่เรื่อยมา จนได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประเภทดนตรีไทยสากล-ขับร้อง ในปี 2554

เศรษฐา สมัยอยู่วง ดิ อิมพอสสิเบิ้ลส์
ต่อมาในปี 2555 เศรษฐาในวัย 68 ปี เดินหน้าเข้าห้องอัดอีกครั้ง เพื่อผลงานคุณภาพ กับการนำบทเพลงอมตะของบรมครูเพลงศิลปินแห่งชาติ 4 ท่าน คือ “พยงค์ มุกดา”, “สง่า อารัมภีร”, “สุรพล โทณะวณิก” และ “ชาลี อินทรวิจิตร” มาขับร้องใหม่ในชื่ออัลบั้ม “จากวันนั้น...ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ

โดยเศรษฐาได้เคยกล่าวคารวะบรรดาครูเพลงที่แต่งเพลงให้ร้องจนโด่งดังว่า ส่วนสำคัญในความสำเร็จของเขามาจากปลายปากกาของเหล่าบรมครูเพลงที่ได้กลั่นอารมณ์ความรู้สึก ถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลงต่างๆอันไพเราะ คงความอมตะมาจนทุกวันนี้

เดิมอัลบั้มชุดนี้ เศรษฐาตั้งใจที่จะทำเพื่อยกย่องบรมครูเพลงศิลปินแห่งชาติทั้ง 4 เป็นสำคัญ โดยเจ้าตัว ได้เข้าห้องอัด บันทึกเสียง มาตั้งแต่ก่อนที่จะได้รับเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ แต่เมื่ออาต้อยได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ อัลบั้มชุด “จากวันนั้น...ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ” จึงกลายเป็นผลงานเพลงที่ศิลปินแห่งชาติทำขึ้นเพื่อคารวะแด่ศิลปินแห่งชาติไปโดยปริยาย

จากวันนั้น...ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ เป็นผลงานเพลงที่อาต้อยเปิดเผยว่า นี่ถือเป็นอัลบั้มแรกในชีวิตที่เขาลงมือทำเองทุกขั้นตอน ทั้งทำดนตรีใหม่ ลงเสียงร้องใหม่ ติดต่อขอลิขสิทธิ์เพลง เลือกโปรดิวเซอร์ และดูแลการผลิตในทุกขั้นตอน

อัลบั้ม “จากวันนั้น...ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ”
อัลบั้ม “จากวันนั้น...ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ” เป็นการคัด 40 บทเพลงเด่น ของครูเพลงทั้ง 4 คนละ 10 เพลง มานำเสนอเป็นแพ็คเกจพิเศษที่รวมเพลงไว้ 4 ชุดด้วยกัน(4 ซีดี) โดยมี 4 ยอดโปรดิวเซอร์แห่งยุคมาร่วมดูแลการผลิตในแต่ละชุดแยกย่อยออกไป

งานเพลงแต่ละชุด (แต่ละแผ่น) เป็นการรวมเพลงของครูเพลงแต่ละคน ซึ่งมีทั้งบทเพลงดังที่แต่งให้เศรษฐาของกับวงดิอิมฯ และบทเพลงดังอมตะที่แต่งให้ศิลปินคนอื่นร้อง ซึ่งล้วนต่างเป็นบทเพลงที่คุ้นหู

โดยชุดแรกเป็นผลงานรวมเพลงของครู“สง่า อารัมภีร” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง(เพลงไทยสากล) ปี 2531 โปรดิวซ์โดย “ต๋อย : วิชัย ปุญญะยันต์” มี 10 บทเพลงอมตะได้แก่ 1.หนึ่งในร้อย 2.ยอดเยาวมาลย์ 3.สุดที่รัก 4.ลำนำรัก 5.เจ้าพระยา 6.วนาสวาท 7.แค่คืบ 8.ผมน้อยใจ 9.ทาสเทวี และ10.หนี้รัก

ผลงานชุดนี้โทนโดยรวมเป็นงานเพลงหวานละเมียด ฟังเพลิน มีการนำเครื่องเป่าและเครื่องสายมาช่วยเติมเสริมแต่งสร้างสีสัน บางเพลงมีกลิ่นอายของเพลงลูกกรุงผสม บางเพลงมีกลิ่นของดนตรีป็อบยุคดิอิมผสมพิงค์แพนเตอร์ ฟังแล้วชวนให้นึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ได้ดีทีเดียว

ชุดที่สองเป็นผลงานรวมเพลงของครู“พยงค์ มุกดา” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ประพันธ์เพลงไทยสากล-ลูกทุ่ง) ปี 2534 โดยมี “อั๋น : ปธัย วิจิตรเวชการ” มาเป็นโปรดิวเซอร์ มี 10 บทเพลงอมตะคือ 1.เป็นไปไม่ได้ 2.แรมพิศวาส 3.คิดถึงเธออยู่ทุกลมหายใจ 4.คนจะรักกัน 5.ชั่วนิจนิรันดร์ 6. สกุณา 7.คอยน้อง 8.นกขมิ้น 9.คีรีบูนบิน และ 10.ฉันเป็นของเธอ

ชุดนี้เป็นป็อบแจ๊ซหวาน ๆ ภาคดนตรีอัดแน่นไปด้วยทีมเครื่องสายและเครื่องเป่า รวมถึงมีแนวอะคูสติกแจ๊ซฟังสบาย ๆ ด้วย

อัลบั้ม “จากวันนั้น...ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ”
ชุดสามเป็นงานรวมเพลงของ ครู“สุรพล โทณะวณิก” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การประพันธุ์เพลงไทยสากล) ปี 2540 โปรดิวซ์โดย “โอม : ชาตรี คงสุวรรณ” มี 10 บทเพลงอมตะ ได้แก่ 1.ไปตามดวง 2.หัวใจเหิร 3.จูบฟ้าลาดิน 4.หนาวเนื้อ 5.ค่าของคน 6.พิษรัก 7.โอ้รัก 8.ความรักครั้งสุดท้าย 9.รอ และ 10.ใครหนอ

ชุดนี้เป็นชุดที่มีบทเพลงของดิอิมมากที่สุด โทนโดยรวมในแนวป็อบร็อกร่วมสมัย มีเสียงกีตาร์ฝีมือพี่โอมเล่นนำฟังโดดเด่น

ชุดที่สี่เป็นผลงานรวมเพลงของครู“ชาลี อินทรวิจิตร” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ผู้ประพันธ์-ผู้กำกับภาพยนตร์) ได้ “ตุ่น : พนเทพ สุวรรณะบุณย์” มาทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ มี 10 บทเพลงอมตะ ได้แก่ 1.หยาดเพชร 2.ว้าเหว่ 3.รักอย่ารู้คลาย 4.ทะเลไม่เคยหลับ 5.ครวญ 6.อาลัยรัก 7.ป่านฉะนี้ 8.ยามชัง 9.เหมือนไม่เคย และ 10.ทางสายใหม่

ชุดนี้เป็นงานป็อบหรู ๆ ดนตรีมีหลากหลายสไตล์ ผสมซาวนด์แปลก ๆ ที่น่าฟังไม่น้อย

เศรษฐา กับ อรัญญา ภรรยาคู่ใจ
สำหรับอัลบั้ม “จากวันนั้น...ถึงวันนี้ เพราะมีคุณ” ที่เป็นการนำ 40 บทเพลงอมตะ จากบรมครูเพลงศิลปินแห่งชาติ มาขับร้องใหม่โดยยอดนักร้องศิลปินแห่งชาติ “เศรษฐา ศิระฉายา” ชุดนี้ หลาย ๆ คน ยกให้เป็นงานรวมเพลงร้องของอาต้อยที่ “ดีที่สุด” เพราะนอกจากจะเป็นผลงานเพลงไทยคุณภาพที่ดนตรีละเมียดละไมแล้ว ยังมีงานเพลงที่ผสมผสานกันทั้งอารมณ์เพลงแบบดิอิมฯ และอารมณ์เพลงดังอมตะ

ที่สำคัญคือ เศรษฐา ศิระฉายา ร้องถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม (แม้ตอนที่ร้องเพลงนี้วันจะปาเข้าไปเกือบ 70 แล้ว) เสียงยังดีไม่มีตก ถูกอักขระ ชัดเจน ฟังเป็นธรรมชาติรื่นหู สมเกียรติศิลปินแห่งชาติ หนึ่งในนักร้องคุณภาพที่นอกจากจะมีบทเพลงดังอมตะมากมายแล้ว ยังมีคุณูปการยิ่งต่อวงการเพลงบ้านเรา

วันนี้แม้ “เศรษฐา ศิระฉายา” จะลาลับจากโลกไป แต่บทเพลงของเขายังคงอยู่ เพื่อปลอบประโลมโลกให้สวยงามน่ารื่นรมย์มากยิ่งขึ้น

เศรษฐา ศิระฉายา ผู้ล่วงลับ แต่บทเพลงที่ขับร้องไว้ยังคงอยู่

เศรษฐา ศิระฉายา ผู้ล่วงลับ แต่บทเพลงที่ขับร้องไว้ยังคงอยู่



กำลังโหลดความคิดเห็น