“สุดา ชื่นบาน” ยก “ต้อย เศรษฐา” เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องในเรื่องไม่เคยลืมว่าตัวเองมาจากศูนย์ ดังแค่ไหนก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เข้าใจการจากลาเป็นวัฎจักรมนุษย์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตนเองก็เริ่มรู้สึกเสียวๆ บ้างแล้ว
เป็นคนที่แจ้งข่าวการจากไปของ “ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา” เป็นคนแรกเลยก็ว่าได้ เนื่องจาก “แม่เม้าท์ สุดา ชื่นบาน” เป็นคนใกล้ชิดที่สนิทกับครอบครัวศิระฉายามาเนิ่นนาน วันนี้ได้มาร่วมงานสวดอภิธรรมศพ ต้อย เศรษฐา ในฐานะสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่เป็นเจ้าภาพในการสวดอภิธรรมคืนนี้
“วันนี้มาในฐานะสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ค่ะ เราเป็นคนแรกที่โพสต์ข่าวต้อยลงเพราะว่าหลานสาวของต้อยเป็นคนส่งข่าว เราก็รีบลงเลย แต่ไม่ได้เขียนอะไรเพราะทุกคนเขียนกันเยอะแล้ว กับต้อยเราผูกพันกันค่อยข้างเยอะ เรารู้จักกับพี่ชายเขาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน มาทีหลังต้อยก็มาร้องเพลงที่โรงหนังตอนเช้าๆ ตอนที่เขายังไม่ดัง พอเขาเริ่มเป็นดิอิมพอสซิเบิ้ล เราก็ได้อัดแผ่นเสียงกับเขา 1 ชุด"
"ต้อยเป็นคนดี เป็นคนจริงใจ ไม่เฟค เป็นคนสนุกสนาน อารมณ์ดี พอเรารู้ข่าวต้อยเรารู้สึกว่ามันคงจะไม่อย่างนั้น แต่เผอิญว่าเขามาเป็นโควิด-19 ทำให้ร่างกายมันทรุด เจอกันครั้งสุดท้ายตอนให้เขาเซ็นชื่อให้ตอนทำเรื่องส่งเป็นศิลปินแห่งชาติ ก็ไปหาต้อยที่ รพ. จุฬาภรณ์ ตอนนั้นก็ให้กำลังใจกัน ปีนั้นเขายังแข็งแรงดีอยู่”
ประทับใจทุกบทเพลงของ “ต้อย เศรษฐา” เป็นคนที่เก่งในทุกด้าน สิ่งที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องก็คือไม่เคยลืมว่าตัวเองมาจากศูนย์
“ชอบทุกเพลงของเขา เขาร้องเพลงดีทุกเพลง เขาเป็นคนที่เก่งทุกด้าน เขาได้ทุกด้าน เขาเป็นคนยังไงยังงั้น แม้ว่าเขาจะขึ้นไปใหญ่แล้ว เขาก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน คือเขาไม่ลืมเลข 0 บางคนพอขึ้นไป 5 แล้วลืมเลข 0 วงดิอิมพอสซิเบิ้ลเป็นวงที่ไม่ลืมเลข 0 เขาก็คือนักดนตรี ศิลปินคนนึงที่ไม่ว่าจะดังหรือไม่ดังเขายังเป็นเหมือนเดิม สิ่งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นหลัง เพราะบางทีคนบางคนเขาดังแล้วเราเข้าไม่ถึง มันก็ทรมาน แล้วเราจะไม่ค่อยเข้าไปยุ่งเพราะเขาดัง”
เข้าใจการจากลาเป็นวัฎจักรมนุษย์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวเองก็เริ่มรู้สึกเสียวๆ บ้างแล้ว
“ไม่มีอะไรที่จะอยากบอกนอกจากน้องไปดีแล้ว นี่คือวัฏจักรมนุษย์ เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรากับเขาก็อายุไล่ๆ กัน นี่ก็ยังเสียวๆ เลย เสียวๆ อยู่ แต่มันก็หนีไม่ได้หรอก มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์”
เชื่อหาก “ต้อย เศรษฐา” ได้เห็นสิ่งที่ตนสร้างให้กับสมาคมดนตรีในตอนนี้คงจะมีความสุข
“เราคนละทางกัน เขาจะทำมูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส แต่เราทำในนามสมาคมดนตรี ตอนเลือกตั้งต้อยก็ไปเลือกตั้งพวกเรา ตอนนี้สมาคมดนตรีทำเรื่องเปิดหมวกเพราะนักดนตรีไม่มีงาน เราได้รับอนุเคราะห์จากบริษัทรถไฟฟ้าบีทีเอสให้เราขึ้นไปเล่นดนตรีบนสถานี จากนั้นบริษัทบางจากฯ ให้เราเปิดหมวกอีก ตอนนี้เปิดหมวกอยู่ 3 สถานี ที่กาญจนาภิเษก ศรีนครินทร์ พัฒนาการ และอีก 4 ภาคของประเทศไทย จะหมดวันที่ 13 มีนาคม นี่คือสิ่งที่เราทำให้นักร้อง นักดนตรี ถ้าต้อยอยู่ก็คงแฮปปี้ที่ได้รู้ว่าสมาคมดนตรีได้ทำแล้ว”