xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป)“ตุ๊ก ญาณี” อดีตพิธีกรคู่ขวัญรายการ “มาตามนัด” อาลัยรักทั้งน้ำตา “ต้อย เศรษฐา” เป็นพี่ที่มีแต่ให้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ตุ๊ก ญาณี” พิธีกรคู่ขวัญรายการ “มาตามนัด” ยอมรับสุดช็อก “ต้อย เศรษฐา” เสียชีวิต ยกอีกฝ่ายเป็นครู เป็นไอดอล สุดกลั้นน้ำตาเล่าที่ผ่านมาเป็นพี่ที่มีแต่ให้ สะท้อนใจตัวเอง ไม่รู้จะอยู่ถึงอายุเท่าไหร่ เตรียมร่วมงานศพในวันพรุ่งนี้

เป็นพิธีกรคู่ขวัญรายการ “มาตามนัด”ซึ่งเป็นรายการที่ทำร่วมกันอย่างยาวนานถึง 8 ปี วันนี้ “ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา”ได้จากไปแล้วหลังป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด ด้าน “ตุ๊ก ญาณี จงวิสุทธิ์”ยอมรับสุดช็อกหลังทราบข่าว เผยที่ผ่านมาอยากไปเยี่ยม แต่ติดต่อไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดอีก



ตอนที่รู้ข่าวรู้สึกช็อก เรื่องการทำใจทุกคนทำใจ เราติดตามข่าวอาการของเขาตลอด แต่โทร.ไม่ได้ เหมือนพี่ต้อยเปลี่ยนเบอร์ โทร.หาน้องอี๊ฟ (พุทธธิดา ศิระฉายา) ด้วย แต่ก็โทร.ไม่ได้น้องอี๊ฟน่าจะเปลี่ยนเบอร์ จะไปเยี่ยม แต่ก็ไปไม่ได้โควิดมันหลายปี เราไม่รู้ว่าเราเป็นหรือเปล่า พี่เขาก็ต้องกังวล เป็นใครก็ต้องกังวล เลยไม่ได้ไปเยี่ยม พอจะคุยก็รู้สึกว่าพี่เขาอ่อนแรง คุยกันครั้งสุดท้ายนานมาก ตั้งแต่โควิดเลย”

สะท้อนใจ ไม่รู้ตัวเองจะอยู่ถึงอายุเท่าไหร่
“สำหรับตัวเรานะ ยังไม่รู้เลยว่าเราจะอยู่ถึงอายุ 77 ปีหรือเปล่าพ่อเราตายตอนอายุ 88 เราก็ว่าพ่ออายุยืนมาก แต่ตอนนี้แม่เรายังไม่ตายเลยนะ อายุ 91 คุ้มมากเลยชีวิต เพราะฉะนั้นเราไม่รู้ว่าเราจะอยู่ถึงเมื่อไร แต่ถามว่าตกใจไหม มันตกใจ แต่ไม่ตกใจเหมือนคนประสบอุบัติเหตุ อันนี้คือเราค่อยๆ ทำใจ แต่ถามว่าคิดถึงมากไหม คิดถึงมาก”

ยกเป็นไอดอล
“เขาเป็นคนที่น่ารักมาก เขาถือว่าเป็นครู เชื่อไหมว่าเขาเป็นไอดอลของเรา สิ่งที่ชอบที่สุดคือการร้องเพลงกับฟังเพลง ต้องฟังเพลงอาพยงค์ มุกดา แล้วอาพยงค์ชอบแต่งเพลงให้ดิอิมพอสซิเบิ้ล เรากับพี่ต้อยอายุน่าจะห่างกัน 16-17 ปี ถ้าเขาเป็นพ่อใครได้ เขาอาจจะเป็นพ่อเราได้ แล้วเรามีความตื่นเต้น เฮ้ย! นี่มันไอดอลฉัน แล้วฉันได้มาทำงานกับเขา คนอื่นอาจจะชอบคุณอาวินัย (วินัย พันธุรักษ์) แต่ดิฉันชอบคุณเศรษฐา เป็นไอดอล แล้ววันที่ได้มาทำงานกับคนที่เราใฝ่ฝันคือเป็นอะไรที่ใช่มากๆ

เราทำงานด้วยกัน 8 ปี แล้วเป็นรายการที่ออนแอร์ 3 วันต่อ 1 อาทิตย์ เดี๋ยวนี้มีไหม ไม่มี แต่อันนั้นคือ 3 วัน จันทร์ อังคาร พุธ อยู่กันไปสิเสาร์-อาทิตย์หัวเราะบ้าๆ บอๆ ตอนนั้นอี๊ฟยังตัวนิดเดียว เราต้องหลอกให้อี๊ฟกินข้าว 8 ปีมันเยอะนะ พอเราเลิกงานไม่ได้เหมือนสมัยนี้ พอเลิกงานก็สวัสดีกันแล้วก็แยก แต่ตอนนั้นพอเลิกงานจะถามกินที่ไหนดีพี่ต้อย ไปไหนดีพี่ต้อย แล้วไม่ได้กินกันแค่ 2 คนนะ ทีมงานก็ไปกันหมด มันเหมือนครอบครัวมีความสุข”

ปรึกษาได้ทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องจะมีผัว ทึ่งมากจำบทได้แม่น
“เขาเป็นพี่ชายที่แสนดี ปรึกษาเขาได้ทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องจะมีผัว พี่ต้อยก็บอกว่าเอาเถอะน่า จะคิดอะไรนักหนา คือเขาปรึกษาได้ทุกเรื่อง ส่วนในแง่การทำงานเป็นคนตลกมาก ไม่ใช่แค่ทำงานพิธีกรอย่างเดียวนะ ละครเราก็เล่นด้วยกันเยอะ มาถึงกองก็แหย่เย้าคนนั้นคนนี่ เราก็บอกพี่ต้อยนี่บท เขาก็บอกอ่านให้ฟังหน่อย เชื่อไหมฉากยาว อ่านให้ฟัง 1 รอบพี่ต้อยจำได้หมด เราทึ่งจริงๆ

ส่วนเหตุการณ์ประทับใจ อันนี้เล่าไม่ได้ เพราะว่าเขาก็แรงกับเรามาก(หัวเราะ) แกล้งแบบแรงๆ ถือว่าอีนี่เป็นน้องรัก แกล้งอะไรก็ได้ เขารู้ว่าเรากลัวจิ้งจก แล้วรายการมาตามนัดถ่ายเป็นเทปก็จริง แต่ว่าคนดูเต็มสตูดิโอ เราไม่เคยเทกทุกอย่างมันต้องดำเนินไป มีอยู่วันนึงใส่สูทระหว่างที่ดำเนินรายการอยู่ เราก็ล้วงกระเป๋าเสื้อสูท มีจิ้งจกอยู่ในกระเป๋า เราก็ไม่กล้าดึงมือออกเพราะว่ากลัว แต่มันเป็นจิ้งจกปลอม แต่มันเหมือนจริง สักพักน้ำตาก็เริ่มไหล พี่เขาก็หันมาถามคุณญาณีเป็นอะไรครับ ปีติยินดีอะไรหรือครับ ฝีมือพี่ต้อยแกล้ง เขาแกล้งขนาดนี้ แต่ก็ไม่โกรธ รักกัน ส่วนเขากลัวผี เราก็แกล้งไม่ให้ใครไปเป็นเพื่อนเขาเวลาเข้าห้องน้ำ เขาก็ไม่กล้าไปเพราะเขากลัวผีมาก บางครั้งเขาถึงขั้นขับรถกลับบ้านไปเข้าห้องน้ำ”

เผยครอบครัว “ต้อย เศรษฐา” มีกำลังใจมากกว่าตน
“เขามีกำลังใจมากกว่าเรา พี่เปี๊ยก (อรัญญา นามวงศ์) เข้มแข็ง อี๊ฟเข้มแข็ง แม้แต่ไอ้ตัวน้อยก็เข้มแข็ง เขามีกำลังใจมากกว่าเราอีก เราตัวนิดแค่นี้จะไปสรรหากำลังใจให้เขาได้อย่างไร แต่อย่างน้อยถ้าเขาหันหลังกลับมา เขารู้ว่ามีเราอยู่ เราอาจจะไม่ต้องพูดคำซาบซึ้งอะไร แต่เขารู้ว่ามีเราที่รักครอบครัวเขา”

เตรียมไปงานศพพรุ่งนี้ (22 ก.พ.)
“จะไปพรุ่งนี้ค่ะ พี่ต้อยอาจจะต้องกลัวใครในวัดตอนนี้นะ เพราะเขาเป็นคนที่กลัวผีมาก”

ยกรายการ “มาตามนัด” เป็นรายการระดับมาสเตอร์พีช
“เขาเก่งมากนะ เขาทนอีอ้วนเมื่อก่อนได้ คืออีอ้วนทำงานก็ผิดระเบียบหลายอย่าง หัวเราะปากกว้าง สามารถพูดโต้ตอบ แต่เรารู้ว่าพี่ต้อยให้อภัย เพราะเราไม่ได้ลามปาม พอหลังจบงานเราก็ขอโทษคนดูเกมโชว์มันเหมือนดูชกมวย ใครอ่อนให้เกมนั้นมันก็ไม่สนุก มันต้องสู้กัน เด็กสมัยนี้วิธีพูดนะ สมัยก่อนไม่จำเป็นต้องพูดหยาบคาย มันก็สนุกได้ สองแง่สองง่ามแตะแล้วผ่าน ไม่ต้องเยอะ

เราไม่ดื้อกับเขา แต่ขอของเขาตลอด พี่ต้อยหนูชอบชุดนี้ เขาถามเท่าไหร่ตุ๊ก พอเราบอกหมื่นกว่า เขาก็ซื้อให้ เขาเป็นคนใจดีมาก เวลาเราชอบอะไรอย่างเสื้อยืมมาถ่ายแล้วเป็นของนอกเป็นหมื่นใส่แล้วสวยทำไงดี เราไม่อยากจ่ายเงิน อันนี้เรื่องจริงนะ…พี่ว่าหนูใส่สวยไหมค่ะ เขาบอกสวย แต่หนูไม่มีตังค์ พูดแล้วจะร้องไห้ พี่ต้อยให้ตลอด เอาลูกไปหาตั้งแต่เด็ก ลูกพี่ไปเรียนเมืองนอก แกใส่ซองให้ เขาเป็นพี่ที่ให้จริงๆ นะ(ร้องไห้)











กำลังโหลดความคิดเห็น