xs
xsm
sm
md
lg

แม่แฟน “อรอนงค์” หลานฆ่ายายยัดถัง ขออย่าให้ลูกชายรับโทษคนเดียว หากประหารฝ่ายหญิงก็ต้องโดนเหมือนกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรณีข่าวสะเทือนขวัญ “นางสมศรี ม่านกระโทก” วัย 62 ปี ถูกฆ่ายัดถังขยะ บริเวณเชิงเขาชะโอย หมู่ 10 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ต่อมาเจ้าหน้าที่คุมตัวหลานสาววัย 17 ปี ชื่อ “อรอนงค์” พร้อม “นายปฏิพล” แฟนหนุ่ม วัย 23 ปี ได้ที่ จ.ตาก ที่ให้การรับสารภาพว่าร่วมกันลงมือฆ่าผู้ตายแล้วนำศพไปทิ้ง จนอรอนงค์ถูกรุมสาปไปทั้งเมือง ขณะที่แม่อรอนงค์โบ้ยว่าคนลงมือวางแผนฆ่าคือฝ่ายชาย
 
รายการ เป็นเรื่องใหญ่ ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.05 น. ทางช่อง JKN 18 ดำเนินรายการโดย “อั๋น ภูวนาท คุนผลิน” ได้สัมภาษณ์ “ไม้ จันทร มณฑล” คุณแม่นายปฏิพล ที่ออกมาขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย มาพร้อม “รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี” ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มศว.

น้องปฏิพลเป็นลูกคนที่เท่าไหร่?
ไม้ : จริงๆ เป็นลูกคนที่ 2 แต่คนโตเสียไปแล้ว ก็เลยถือว่าเขาเป็นลูกคนโต

อุปนิสัยใจคอเป็นยังไง?
ไม้ : เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดเยอะ ไม่ชอบเถียงพ่อแม่เลย

มีเพื่อนมั้ย?
ไม้ : เขาจะไม่ค่อยมีเพื่อน เขาไม่ออกไปข้างนอก เขาอยู่แต่ในบ้าน เลี้ยงน้อง ไปทำไร่ก็คือทำไร่ อยู่บ้านก็คืออยู่บ้าน ไปร้านค้าก็คือไปขายของ บางทีก็ไปช่วยพ่อเขาขายตลาดน้ำ บางทีก็ไปอยู่ร้านกับน้องสาว

อารมณ์เขาเป็นยังไง?
ไม้ : ไม่เป็นคนอารมณ์ร้อน ลูกแม่จะไม่กินเหล้าไม่กินเบียร์ไม่ยุ่งกับยาเสพติดอะไรทุกอย่าง

ทราบมั้ยว่าเขามีแฟน?
ไม้ : ไม่เลยค่ะ ไม่เคยรู้เลย แม่เพิ่งจะรู้ตอนที่เขาไปมาแล้วมาบอกให้แม่ฟัง แม่บอกว่าไปเที่ยวไหนมาไปตั้งนาน แม่เป็นห่วง เขาบอกว่าไปเที่ยวกับแฟนสาว รู้จักทางเฟซบุ๊ก แม่ก็บอกว่าระวังนะเดี๋ยวลูกจะโดนหลอก เพราะแม่เห็นข่าวเจอกันในเฟซบุ๊กโดน หลอกไปเอาเงิน หลอกไปฆ่า ไปทำไม่ดี

คุณแม่เตือนลูกชายว่าจะโดนผู้หญิงหลอก?
ไม้ : ใช่ เพราะเขาไปมาแล้วเขาไม่ค่อยพูด ไปมาแล้วบอกว่าไปกับแฟนสาวก็บอกให้ระวังจะโดนหลอก เพราะผู้หญิงที่เจอในเฟซจะหลอกกันทั้งนั้น พ่อก็บอกว่า ถ้าลูกไปไม่กลัวเขาหลอกไปฆ่าไปเอารถ ไปเอาเงินเหรอ แม่ก็บอกว่าเงินเขาเขาติดตัวไป 18,000 จะไม่ฆ่าชิงเงินหรอก พ่อบอกว่าน่าจะฆ่าชิงรถน่ะสิ

เขาไปเที่ยวกับแฟนก็แปลว่าปฏิพลไปเที่ยวกับอรอนงค์?
ไม้ : ใช่ แต่แม่ไม่รู้

เขาพกเงินไปเที่ยว 18,000 เหรอ ทำไมพกเงินไปเยอะขนาดนั้น?
ไม้ : แม่ไม่รู้ แม่ไม่รู้ว่าเขาเอาเงินไปเท่าไหร่ แต่แม่เช่าไร่ได้แม่ให้เขาไป 18,000 เขาน่าจะเอาเงินเขาไปหมด

ทางครอบครัวอยู่ในฐานะระดับประมาณไหน?
ไม้ : ก็ไม่รวยมากไม่จนมาก มีกินมีใช้

มีรถกี่คัน?
ไม้ : 2 คัน

มีที่ดินทำกินของตัวเอง?
ไม้ : มี 12 ไร่ มีไม่เยอะ

ครอบครัวไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน?
ไม้ : ไม่มีค่ะ

ลูกชายมีปัญหาทางการเงินอะไร ติดเกม เล่นบอลมั้ย?
ไม้ : เกมเขาก็เล่น แต่พวกบอลพวกนี้แม่ก็ไม่รู้ เพราะแม่ไม่รู้หนังสือ จะไปรู้กับเขาก็ไม่ใช่

เขาคบกันมานานแค่ไหน?
ไม้ : เขาไม่ได้บอกว่าเขาคบกันนานแค่ไหน เขาบอกแค่ว่าเขาไปกับแฟนสาว

คุณแม่ไม่เคยเจอตัว?
ไม้ : ไม่เคยเจอ แค่ฟังเขาเล่า

รู้เรื่องอีกทีคือเป็นข่าวเสียแล้ว?
ไม้ : มารู้เรื่องอีกทีคือวันที่ 15 ตำรวจจับเขามาถึงบ้าน เขาก็โทรศัพท์ให้แม่ไป เขาก็บอกว่าคุณแม่รู้มั้ยว่าลูกคุณแม่ไปก่อเหตุ ตอนแรกแม่ก็คิดว่าขับรถชนคนตายหรือเปล่าเพราะไปเที่ยวมา แต่เขาบอกว่าลูกแม่ไปฆ่าคนตายแล้วเอารถคันนี้ไปขนศพ แม่ก็ตกใจเข่าอ่อนเลย

เขามาพร้อมกับตำรวจลูกมาด้วยมั้ย?
ไม้ : เขามาแต่ตำรวจกับลูก แต่แฟนสาวไม่มา

นี่คือจุดที่จ.ตาก จุดพบศพคือสุพรรณบุรี ตัวคุณยายกับน้องอรอนงค์เป็นคนสระบุรี หลังจากนั้นตามสืบไป คาดว่าน่าจะก่อเหตุที่โคราช แล้วมาถูกจับที่ตาก หลังจากที่ตำรวจมาเต็มบ้าน มีโอกาสได้คุยกับลูกมั้ย?
ไม้ : มี แต่ไม่นาน แม่ก็ถามว่าไปฆ่าใครมา ฆ่ายังไงก็บอกแม่สิ แต่ลูกไม่บอก ลูกบอกว่าบอกไม่ได้แม่ หนูบอกไม่ได้ พูดไม่ออกด้วย ตำรวจบอกว่าเขาไปฆ่ายายแฟนสาวตายแล้วเขาหนีมาด้วยกัน แม่ก็บอกว่ารู้มั้ยว่าจับผู้หญิงได้มั้ย เขาก็บอกว่าจับได้อยู่ด้วยกัน

คุณแม่ของอรอนงค์พูดว่าปฏิพลเป็นคนวางแผนการฆ่าทั้งหมด ฟังแล้วรู้สึกยังไง?
ไม้ : แม่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับแม่กับลูกแม่ เพราะผู้หญิงก็เป็นคนรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อน แต่เขามาบอกว่าลูกแม่อาจเป็นคนวางแผนทุกอย่างเขายังไม่ถามลูกเขา แต่แม่ถามลูกแม่หมดแล้ว ลูกแม่บอกว่าเขาโทรตามให้ไปว่าจะฆ่ายายให้ไปช่วยฆ่ายาย ลูกแม่ก็ไปกับเขา

มั่นใจว่าไม่ใช่การวางแผนจากลูกชายแน่นอน?
ไม้ : แม่ว่าไม่ใช่

ได้คุยกับกับปฏิพลแล้วยังหรือคุณแม่คิดเอง?
ไม้ : ได้คุยแล้วค่ะ เขาบอกว่าผู้หญิงโทรให้ลูกไปหาเขาไปช่วยกันฆ่ายายแล้วก็ไปถึงยายยังไม่ตาย ยังไม่ได้ทำอะไรผู้หญิงก็ลงมือบีบคอ ลูกก็เอาสายปลั๊กไฟไปมัดคอยายถึงตาย

เขาบอกว่าใครเอาสายไฟไปรัดคอยาย?
ไม้ : ลูกชาย ผู้หญิงบีบคอก่อนแต่ยังไม่ตาย ลูกเอาสายไฟไปมัดคอจนตาย ก็ถือว่าช่วยกัน

เล่าอะไรอีก?
ไม้ : แม่บอกว่าหนูไปฆ่าเขาจะเอาเงินใช่มั้ย เขาบอกว่าไม่ใช่แม่หนูไม่ต้องการเงิน เพราะว่าผู้หญิงเขาบอกว่าอยากจะฆ่ายายอยากให้หนูมาช่วย แม่บอกว่าทำไมอยากจะฆ่ายาย เขาก็บอกว่าไม่รู้

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้บอกเหตุผล?
ไม้ : เขาบอกว่าเขาไม่รู้ว่าทำไมผู้หญิงถึงอยากจะฆ่ายาย

คิดว่าไม่แปลกเหรอที่เขายอมฆ่าด้วยโดยที่ไม่รู้ว่าทำไม?
ไม้ : แม่ก็ไม่รู้ ลูกบอกอย่างนี้ให้แม่ฟัง

บางข่าวบอกว่าเป็นเพราะต้องการเงิน คิดว่าใช่มั้ย?
ไม้ : แม่ว่าน่าจะไม่ใช่

เขาเคยเล่ามั้ยว่าจะวางแผนไปเที่ยวไปทำอะไร?
ไม้ : ไม่เคยเล่า ไม่ทราบเลย รู้เรื่องแค่นี้

ในส่วนของนิติเวชสามารถบอกแยกแยะได้มากแค่ไหนในการเข้ามาช่วย ว่าใครพูดจริงมากน้อยแค่ไหน?
นพ.วีระศักดิ์ : ถ้าตามสื่อตั้งแต่ทีแรกก่อนที่จะฟังคุณแม่ ผมเพิ่งฟังจากคุณแม่ครั้งแรกว่าเหตุการณ์เป็นอีกแบบหนึ่ง เดิมที่ออกข่าวมาครั้งแรกน้องผู้หญิงบอกว่าตัวเองบีบคอไปแล้ว แล้วได้ตามฝ่ายชายมาร่วมกันทำร้ายแล้วสุดท้ายก็รัดคอ แต่วันนี้เรื่องเล่าคือว่าไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วอยู่ๆ ก็มาที่ห้องเช่าแห่งนี้ ขณะเดียวกันตัวน้องผู้หญิงบีบคอก่อน น้องผู้ชายถึงเอาสายไฟมารัด

ในวันก่อเหตุเกิดขึ้นที่โคราชแต่เขาโทรมาตามลูกซึ่งอยู่ที่แม่สอดแปลว่าจากแม่สอดแล้วเดินทางไปโคราชถึงทำสิ่งนี้?
นพ.วีระศักดิ์ : ครับ ประเด็นตรงนี้ถ้าถามว่าเอาสองเรื่องนี้ว่าตกลงเรื่องใดเป็นเรื่องจริงเรื่องใดไม่จริง มันสามารถชันสูตรได้จากบาดแผล เพราะว่าในกรณีที่เล่าครั้งแรกว่ามีการบีบคอ เดินทางจากแม่สอดมาโคราชใช้เวลานาน ร่องรอยของบาดแผลมันจะแตกต่างกันกับบาดแผลที่มากระทำในภายหลังอีก แต่ถ้าเป็นกรณีบาดแผลที่เกิดขึ้นพร้อมกันแบบที่คุณแม่เล่าเพิ่งบีบคอไปไม่นานแล้วพบว่ายังไม่เสียชีวิตเลยเอาสายไฟมารัดคออันนี้มันจะดูไม่แตกต่างกันมาก ตัวบาดแผลมันจะบอกได้ และที่สำคัญ จริงๆ เวลาเราฟังเรื่องที่ผู้ต้องหาอธิบายเกี่ยวกับการเกิดเหตุต่างๆ การกระทำ ต้องเอามาสอดคล้องกับบาดแผล ต้องสอดคล้องกับที่เกิดเหตุด้วย เพราะฉะนั้นทั้งหมดจะถูกพิสูจน์ได้ครับ โดยการตรวจสถานที่เกิดเหตุดู และผลการผ่าชันสูตรมันจะบอกว่าจริงๆ แล้วมันเป็นการกระทำแบบที่ใครเล่ากันแน่ บาดแผลบอกได้ครับ

ในความจริงมันมีความต่างมั้ยในรูปคดี?
นพ.วีระศักดิ์ : ในความเป็นจริงผมมองว่าทั้งคู่ร่วมกันกระทำการ ในทางกฎหมายคงเป็นแบบนั้น แต่ในแง่ของการบอกว่าใครเป็นคนวางแผนอันนี้เป็นแง่ทางกฎหมาย ซึ่งต้องให้นักกฎหมายบอกให้ลึกกว่านี้ เพื่อเอาไปใช้ต่อสู้เพื่อลดหย่อนอะไรบางอย่างได้หรือไม่ ในขณะเดียวกันสังคมตั้งคำถามว่าเด็กผู้หญิงอายุ 17 จะวางแผนได้หรือไม่ ซึ่งถ้าเอาข้อมูลทางวิชาการมาตอบ เด็กที่เติบโตขึ้นมา ก็มีข่าวและมีเรื่องวิชาการที่รองรับว่าก็มีกรณีที่ตระเตรียมวางแผนเพื่อที่จะฆ่าได้ เพราะฉะนั้น 17 18 วุฒิภาวะมีแล้ว สามารถกระทำได้ แล้วเรี่ยวแรงคุยยายอายุ 60 กว่าน้อง 17 ช่วงกำลังแข็งแรง การกระทำที่บีบคอถ้ากระทำโดยที่เหยื่อไม่ทันตั้งตัว การที่ช่วยเหลือตัวเองค่อนข้างที่จะยาก ยิ่งผู้สูงอายุ มือที่บีบคอก็ยากที่จะแกะออก โอกาสบีบมีสูง แต่ถ้าตามข่าวออกว่าบีบแล้วยังไม่เสียชีวิต แสดงว่าการบีบอาจมีแรงไม่เพียงพอทำให้เสียชีวิตได้ จึงต้องเอาวัตถุเป็นสายไฟมารัดอีกครั้งหนึ่ง

คุณแม่มั่นใจว่าเขาไม่ได้วางแผน แต่แม่ก็ยังไม่ได้ถามชัดๆ?
ไม้ : ค่ะ แม่ถามแค่นี้ แต่แม่คิดว่ายังไงยายก็ตายแล้ว เขาก็ทำผิดกันทั้งคู่อย่าไปโทษว่าลูกแม่ผิด เพราะเขาผิดกันทั้งคู่ แต่ฝั่งโน้นเขาโทษว่าลูกแม่เป็นคนวางแผน เป็นคนผิด แม่ก็อยากจะให้เขารับโทษเหมือนกันทั้งคู่ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นเด็กอายุน้อยกว่าต้องรับโทษน้อยกว่าทั้งที่วางแผน โทษก็น่าจะพอๆ กัน ไม่อย่างนั้นเด็กคนอื่นๆ เขาจะเลียนแบบกัน อยากจะไปฆ่าคนเพราะว่าเป็นเด็กไม่ติดคุกนานก็ไปฆ่าได้เลย แม่คิดแบบนี้

คุณแม่ได้คุยกับทางตำรวจมั้ย?
ไม้ : ไม่เลยค่ะ ตอนเช้าแม่คุยกับตำรวจนิดนึงเขาถามแค่ว่าแม่รู้มั้ยว่าเขามีแฟนมั้ยแค่นี้

แสดงว่ายังไม่ทราบเลยว่าขั้นตอนต่อจากนี้จะเป็นยังไง?
ไม้ : แม่ยังไม่รู้เลย

เท่าที่ฟังคุณแม่ไม่ได้บอกว่าลูกตัวเองไม่ผิดแค่อยากให้รับโทษเหมือนๆกัน?
ไม้ : ใช่ค่ะ ขนาดเขาพาไปทำแผนเขาพาแต่ลูกของแม่ไป เขาบอกว่าเด็กไม่พาไปมีกฎหมายคุ้มครองเด็ก กฎหมายคุ้มครองอย่างนี้เด็กจะไปกลัวมั้ย ไม่กลัวใช่มั้ยคะ คนอื่นต่อไปเขาก็จะไปทำต่อ เขาจะเลียนแบบกัน เมื่อวานไปทำแผนที่โคราชแม่ก็เห็นลูกแม่คนเดียว วันนี้ก็ดูในข่าวเขาพาลูกแม่ไปคนเดียว ทำไมไม่พา 2 คนไป

พอทราบล่าสุดหรือยัง คุณยายเสียชีวิตเพราะอะไร?
นพ.วีระศักดิ์ : ผลผ่าล่าสุดยังไม่ได้ออกมา ปกติเบื้องต้นมีการแจ้งผลแค่เบื้องต้น เมื่อครู่พูดเรื่องบาดแผล ความสอดคล้องต้องรอระยะเวลานิดนึงครับ ตอนนี้ยังไม่มี แน่นอนศพนี้ตามข่าวคือถูกยัดในถัง มีการปิดตัวถังด้วยเอาดินกลบแล้วเคลื่อนย้าย ใช้เวลา 2-3 วันกว่าจะไปพบ ศพเริ่มเน่า การรบกวนบาดแผลมีแน่นอน แต่ว่าก็พอตรวจได้อยู่

การยัดถัง คิดว่าเขามีอะไรเป็นแรงจูงใจ?
นพ.วีระศักดิ์ : ถ้าตามข่าว เขาเอาศพไว้ในรถอยู่แล้วแล้วขับตระเวน เขาต้องการหาวิธีการอำพราง แล้วมีถังขยะสีน้ำเงินถังใหญ่วางไว้หลายจุด ฉะนั้นเขาเลยหยิบถังพวกนี้มาใช้ประโยชน์ และวางแผนด้วยการกลบกลิ่นหรือคนมาพบเห็นโดยการเอาดินกลบเอาไว้

อยู่ในสายกับ “ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต” เรื่องคุณยายท่านนี้ ล่าสุดคุณแม่ฝั่งหลานอรอนงค์ เขาโยนมาว่าคนวางแผนทั้งหมดในการฆ่าคือตัวแฟน มุมนี้มีผลกับรูปคดี หรือการรับโทษยังไงบ้าง?
ทนายเจมส์ : ปกติแล้ว สิทธิผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา มีสิทธิ์ที่จะให้การยังไงก็ได้ หรือไม่ให้การเลยก็ได้ การที่เขาให้การลักษณะไหนก็แล้วแต่ จะไปเอาคำให้การตรงนั้นมาพิพากษาหรือลงโทษจำเลยไม่ได้ ในคดีอาญาหลักฐานที่ได้มาต้องเป็นฝั่งโจทก์เท่านั้น ที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดจำเลยในคดีอาญา จำเลยให้การยังไงก็แล้วแต่ก็เรื่องของเขา แต่การรวบรวมพยานหลักฐาน พฤติการณ์อันนี้สำคัญ เช่น ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วหนีไปด้วยกันทำไม หรือผู้หญิงวางแผน แต่ข้อความในเฟซบุ๊กที่คุยกัน กลับสมรู้ร่วมคิดกัน วางแผนร่วมกัน รู้เห็นเป็นใจร่วมกัน อย่างนี้เขาเรียกตัวการร่วม ต่อให้โยนให้ฝ่ายอื่นเป็นคนคิดก็ตาม แต่เมื่อมีพฤติการณ์หรือพยานหลักฐานหรือเชื่อได้ว่าสองคนนี้รู้เห็นเป็นใจกัน อยู่ในที่เกิดเหตุ มีการสมคบคิดกันที่จะทำร้ายยายมาตั้งแต่ต้น อย่างนี้เขาเรียกว่าตัวการร่วม

ถ้าเขารับสารภาพว่าทำร่วมกัน ใครเป็นคนวางแผนก่อน ใครวางแผนหลัง มีผลการลงโทษแตกต่างกันมั้ย?
ทนายเจมส์ : สุดท้ายเขาลงมือทำด้วยกัน ก็เป็นการวางแผนร่วมกันนั่นแหละ เป็นตัวการร่วมกันแล้ว แต่อยากจะบอกว่าบุคคลสองคนนี้อยู่ในสถานะที่แตกต่างกัน คนนึงบรรลุนิติภาวะ คนนึงยังเป็นเยาวชน แน่นอน การสอบสวนของพนักงานก็แตกต่างกัน การฟ้องศาลก็ต่างกัน คนนึงขึ้นศาลยุติธรรม อีกคนขึ้นศาลเยาวชน ในการดำเนินกระบวนการพิจารณาในศาลก็แตกต่างกัน อันนึงใช้วิธีพิจารณาแบบคดีอาญา อีกอันใช้วิธีพิจารณาแบบคดีเยาวชน

ตรงนี้ก็จะตอบคำถามคุณแม่ ที่บอกว่าทำไมทางตร.พาเฉพาะหลานคุณแม่ซึ่งอายุ 23 ไปทำแผนประกอบการรับสารภาพฝ่ายเดียว เนื่องจากน้องอรอนงค์ยังเป็นเยาวชน?
ทนายเจมส์ : การสอบสวนเด็กต้องสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพครับ

โทษจะไปไกลขนาดไหน?
ทนายเจมส์ : ถ้าฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นความผิดมาตรา 289(4) มีโทษประหารชีวิตสถานเดียว ถ้าคำให้การของเขาหรือคำรับสารภาพไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีของศาลนะ ศาลอาจไม่ลดโทษเลยก็ได้ ส่วนการรับสารภาพ ต้องดูว่าเขารับสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐาน หรือสำนึกผิด ถ้าพยานหลักฐานแน่นมาก แล้วเขาจำนนต่อหลักฐาน ดิ้นไม่หลุด มีทั้งกล้องวงจรปิด ตามรถได้ มีประจักษ์พยานเห็น แล้วพยานหลักฐานต่างๆ สอดคล้องต้องกัน แล้วจำเลยทั้งสองเป็นผู้ลงมือกระทำความผิด แบบนี้ไมได้ลดโทษเลย เรียกว่าคำรับสารภาพไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาล

คุณแม่อยากบอกอะไรมั้ย?
แม่ไม้ : อยากบอกให้ผู้หญิงรับโทษเท่ากับลูกของแม่ ไม่ใช่ให้ลูกแม่รับโทษคนเดียว จะประหารก็ต้องประหารผู้หญิงด้วย เพราะว่าร่วมมือกัน







กำลังโหลดความคิดเห็น