ต้นสังกัดเผย “ซงจีอา” ไม่รู้ว่าเป็นของแบรนด์เนมปลอมแค่ซื้อเพราะสวย!

ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่เลิกกับกรณีที่ “ซงจีอา” สาวสวยจากเรียลลิตี Single’s Inferno ใช้สินค้าแบรนด์เนมปลอมออกสื่อ เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์สร้างความอับอายให้ชาวเกาหลีไปทั่วโลก ล่าสุดต้นสังกัดของเธอได้ออกมาเคลื่อนไหว พร้อมให้เหตุผลว่าเหตุใด “ซงจีอา” ถึงตัดสินใจซื้อสินค้าเหล่านี้มาใช้

ซงจีอา ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทันทีหลังจากที่เธอมีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับความสนใจเพราะรูปร่างหน้าตาที่ดูสวยเซ็กซี่แถมยังดูแพงเพราะใช้แต่สินค้าแบรนด์หรูราคาแพงระยับ ก่อนที่ชาวเน็ตจะเริ่มจับผิดจนพบว่าทั้ง Chanel, Dior Rolex ฯลฯ ต่างเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่เธอนำมาทำคอนเทนต์ทั้งในอินสตาแกรมและ YouTube เพื่อเรียกยอดไลก์และผู้ติดตาม จนภายหลังต้องตามลบภาพในไอจีออกไปนับร้อย รวมถึงวิดีโอใน YouTube อีกนับสิบ

ดราม่าที่ยังคงถูกพูดถึงไม่หยุดนี้เองส่งให้ต้นสังกัดของ ซงจีอา อย่าง Hyowon CNC ของนักแสดงดัง คังเยวอน ต้องออกมาเคลื่อนไหวกล่าวขอโทษพร้อมอธิบายถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า

“มันเป็นความผิดของเราเอง มันเป็นความรับผิดชอบของบริษัทที่ต้องคอยตรวจเช็คสไตล์ของเหล่าครีเอเตอร์ แต่เราคิดว่าควรเคารพสไตล์ส่วนตัวของ ซงจีอา กับวิธีการที่เธอพูดคุยกับผู้ติดตามอย่างใกล้ชิด ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนได้ และต้องขอโทษนักแสดง คังเยวอน ที่ไว้วางใจให้การดูแลจัดการบริษัทมาอยู่ในมือเรา”

ทางด้าน คิมฮโยจิน ซีอีโอ ของ Hyowon CNC ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Newsis โดยชี้แจงถึงเรื่องราวของ ซงจีอา ที่ซื้อของปลอมมาใช้ โดยระบุว่า

“เราเองก็ไม่รู้เลยตั้งแต่แรกว่า ซงจีอา ซื้อของปลอมมาใช้ เรามองว่าเราคงจะรู้สึกแย่มากถ้าเธอมีเจตนาทำให้ของปลอมดูเหมือนของจริง เราได้ถามเธอว่าเธอไปซื้อของปลอมพวกนี้มาจากไหน เธอบอกว่าเธอซื้อจากร้านค้าริมถนนเมื่อเธอเห็นว่ามันสวยดี เธอบอกด้วยว่าบางทีเธอก็ซื้อผ่านออนไลน์เมื่อเธอพบมันขายทางอินเทอร์เน็ต”

ซีอีโอ คิมฮโยจิน ยังเผยต่อไปว่า จีอา ไม่ได้ใส่ใจว่าเป็นของปลอมหรือสินค้าเลียนแบบ “จีอา ซื้อของพวกนี้ส่วนใหญ่ โดยที่ไม่รู้ว่ามันเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ผิดกฎหมาย เธอแค่ซื้อเพราะคิดว่ามันสวยดี เธอมารู้ทีหลังว่ามันเป็นของปลอม จีอา ไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะทำให้ตนเองดูรวยหรือใช้ชีวิตสุดหรูด้วยการใช้สินค้าแบรนด์เนม”

ทางซีอีโอ ยังเผยอีกว่าตอนนี้ ซงจีอา ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก และกำลังสำนึกผิดกับการกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตนเองอย่างหนักอยู่ขณะนี้