“ณวัฒน์” ฉลองความสำเร็จ 10 ปี มิสแกรนด์ เตรียมอัดฉีดเงินรางวัลให้ผู้เข้าประกวดกว่า 10 ล้าน ลั่นถึงสวยเก่งมีสมองแค่ไหน แต่ถ้าน้ำหนักเกิน 70 กิโล ปัดตุ๊บทุกคน ลั่นนางงามที่แท้จริง ต้อง บิวตี้ ควีน ไซส์เท่านั้น ใครไม่อาย ตนอาย เปิดใจสุดมั่น MGI เป็นรองแค่ MU ต้องโค่นให้ได้ เปรียบโค้กกับเป๊ปซี่ยังกระทืบกันได้ ทำไมตนจะกระทืบ MUT ไม่ได้
“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ประธานและผู้ก่อตั้งการประกวด Miss Grand Thailand และ Miss Grand International จัดงานแถลงข่าวการประกวด Miss Grand Thailand 2022 พร้อมฉลองความสำเร็จ มิสแกรนด์ครบ 10 ปี รวมทั้งดันบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ โดยงานนี้ณวัฒน์ได้เปิดใจต่อสื่อมวลชน ณ PM Center Company Limited ซอยนวลจันทร์ 56 แยก 5 เผยว่าเตรียมเงิน 10 ล้านอัดฉีดผู้เข้าประกวด พร้อมย้ำใครอ้วนปัดตุ๊บทันที เพราะนางงามต้องบิวตี้ ควีน ไซส์เท่านั้น
“ปีนี้เป็นปีพิเศษ ใครเข้ารอบท็อป 10 จะได้รับ 1 แสนบาททุกคนครับ ทันทีที่ตกรอบไม่เข้าท็อป 5 เพราะฉะนั้นจะได้ 1 แสนบาทกลับบ้านถ้าใครเข้ารอบ เราต้องการที่จะให้ทุกคนได้มีเงินใช้ให้เยอะที่สุดครับ และมีหมอลำเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะตอนนี้หมอลำก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เข้าถึงวัฒนธรรมคนไทย และเข้าถึงยุค 5G เพราะเดี๋ยวนี้ไอดอลก็มาจากหมอลำเยอะครับ
ก็เตรียมเงินไว้ค่อนข้างเยอะนะครับ อย่างเงินรางวัลที่เป็นเงินสดๆ เลยก็เยอะมาก เกือบๆ 10 ล้านแล้วจากรางวัลพิเศษต่างๆ งบประมาณถ้ารวมทั้งหมดทุกวันน่าจะประมาณ 30-40 ล้านบาทสำหรับการจัดงานทั้งเดือนครับ เพราะอย่างโรงแรมในกรุงเทพฯ เราก็ไม่ได้ขอสปอนเซอร์ เพราะเจตนารมณ์เราต้องการเอารายได้ไปให้เขา ฉะนั้นหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นเราจ่ายตังค์ แต่บางอย่างก็มีคนสนับสนุนบ้าง และมีราคาพิเศษบ้าง แต่ยังยืนอยู่บนพื้นฐานว่าไม่เป็นภาระใคร เพราะตอนนี้ทุกคนมีภาระของตัวเองค่อนข้างเยอะครับ ก็อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ด้วย เพราะปีนี้เป็นปีพิเศษ และน้องที่ติดท็อป5 ก็จะได้ไปอินโดนีเซียทุกคนด้วยครับ”
อัดฉีดรางวัลแน่นเวอร์
“เราก็พยายามให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้ และให้อาชีพที่มั่นคง และยังยืนหยัดอยู่บนหลักการของมิสแกรนด์ ก็คือ เราต้องการเน้นผู้หญิงหุ่นดี หน้าตาสวย และสมองดี ที่สำคัญต้องขออภัยที่พูดคำนี้ รักความถูกต้อง รักประชาธิปไตยชัดเจนครับ”
เผยมีคนติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์มิสแกรนด์ 2 รายแล้ว ตั้งเป้าต้องล้มเวที MU ให้ได้
“ก็ยังขายอยู่นะครับ มีคนติดต่อมา 2 คน แต่ก็ยังไม่เสร็จสิ้นในกระบวนการพูดคุย แต่ก็เป็นไปได้เสมอถ้าเกิดว่าคุยกันจบ เราก็จะเริ่มต้นในปีหน้า ถือว่าผมทำเสร็จสิ้นแล้ว 10 ปี สักวันนึงผมคงต้องถอยตัวออกจากมิสแกรนด์ไทยแลนด์อยู่แล้ว ผมต้องหาคนที่ดีที่สุด หรือถ้าไม่มี ผมก็จะมอบหมายให้คนที่ผมไว้ใจที่สุดมาปฎิบัติหน้าที่แทน ผมเองก็จะไปมุ่งมั่น MGI ในระดับสากลที่จะต้องใช้ชีวิตในการเดินทางไปต่างประเทศ และอาจจะต้องมีอาชีพอื่นมากมายเพิ่มเติมขึ้นครับ
ก็มีคนไทยคนนึงและคนจีนคนนึงครับ ทั้งคู่มีการเข้ามาพูดคุยกับเราถึงออฟฟิศจริงๆ แต่ขั้นตอนในการคุยยังไม่บรรลุถึงขั้นต้องจ่ายตังค์ อยู่ในระหว่างการไปศึกษาข้อมูลและตกลงร่วมกัน ในอนาคตมันต้องเป็นแบบนี้ เพราะเราต้องเติบโตต่อๆ ไป ในอนาคตเราต้องการเป็นเวทีอันดับหนึ่งของโลกจริงๆ เราเหลือแค่ยูนิเวิร์ส ซึ่งกำลังหายใจรดต้นคอกันอยู่ เราต้องเอาพลังทั้งหมดในจังหวะที่เขาลงให้ของเราขึ้นไปเป็นที่ 1 ให้ได้ ฉะนั้นเราโฟกัสหนักมากครับ
ถามว่ามั่นใจขนาดไหน ต้องได้ครับ ผมให้เวลาเทิร์นตัวเองอีกไม่รวมปีนี้คืออีก 2 ปีข้างหน้า ถ้าดูจากสิ่งที่เราทำไป ถ้าหัวใจยุติธรรมนะครับ รางวัลที่เราได้เมื่อปีที่ผ่านมาเราก็ได้รางวัลออฟเดอะเยียร์ คือเราเป็นเวทีที่ดีที่สุดในปีที่ผ่านมา จากโกลเบิล บิวตี้ นั่นหมายความว่ากิจกรรมดี โปรดักชั่นดี องค์ประกอบทุกอย่างดีหมด ทำให้ MGI ของเรามีการก้าวกระโดดสำหรับความนิยมในต่างประเทศก็เยอะ ดูจากเวียดนามก็ได้ที่เขาให้ค่าผู้เข้าประกวด และชนะกลับไปเขาให้ค่าแบบไหน มีเฉพาะแค่ที่ประเทศไทยที่คนไทยบางกลุ่มหรือบางคนอาจจะมีทัศนคติที่ไม่ค่อยเหมือนที่อื่น อย่างที่ผมบอกว่าแบรนด์ MGI จำเป็นมากที่ต้องโตในต่างประเทศ เพราะคนต่างประเทศเขาใช้เกมส์แฟร์ๆ ดีก็บอกว่าดี ไม่ดีก็บอกไม่ดี ก็อยากให้คนไทยเปิดใจบ้าง แต่ถ้าไม่เปิดใจก็ไม่เป็นไรครับ เพราะผมมีนโยบายว่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน เราประสบความสำเร็จ เรารู้ตัวเราอยู่ครับ
ถามว่าคนไทยจะมีโอกาสได้มงฯ แรกไหม เราไม่ได้มีข้อกำหนดว่าอยากได้ แล้วเราจะให้หรือไม่ให้ ผมไม่กล้าที่จะให้ถ้าความสามารถไม่ถึง ที่ผ่านมาทั้งหมดผมบอกเลยคนไทยไม่ว่าจะเวทีไหนยังไม่พร้อมที่จะได้มงฯ สักเวที รวมถึงเวทีมิสแกรนด์ด้วย เพราะเด็กไทยอาจจะเติบโตมาในลักษณะอีกแบบนึง ยังแก้ปัญหาในสิ่งที่เติบโตมาไม่ได้ เพราะฉะนั้นยังไม่มีคุณภาพมากพอถึงเป็นผู้ชนะ ดูผู้ชนะของเวียดนามที่ตอนนี้คนไทยคนไหนที่จะมีความสามารถถึง กับคนไทยคนไหนที่จะมีภาพกลมกล่อมและจะมีสปิริตเหมือนเขา มันยังไม่มีจริงๆ เราก็ต้องยอมรับสภาพ เราจะไม่ตัดสินค้านคนดูครับ”
บอกไม่ได้แขวะใครแต่ย้ำนางงามต้องบิวตี้ ควีน ไซส์ เท่านั้น อย่าทำให้กลายเป็นตลกในสายตาชาวโลก
“คือประกวดนางงามยังไงก็เป็นนางงาม อันนี้ไม่ได้ไปว่าใครนะ แต่ผมก็รู้สึกว่าที่ต้องพูดบ้างเพราะเนื่องจากผมอยู่วงการนางงามมา 18 ปี เป็นยุคนางงามที่สังคมในประเทศไทยและสังคมโลกเปลี่ยนแปลง และผมก็ทำให้หลายๆ อย่างที่มันรู้สึกล้าหลัง น่าเบื่อ กลับฟื้นมาเป็นนางงามที่ร่วมสมัย แต่อยู่ๆ มันก็มีคำพูดบางคำโผล่ออกมา ซึ่งทำให้เราสับสน เราก็เลยต้องขออธิบายว่านางงามที่ถูกต้องมันมีคำจำกัดความของมันชัดมาก บิวตี้ควีน ยังไงก็ต้องบอดี้เป็นบิวตี้ ควีน ไซส์ แน่นอนอยู่แล้วมันเป็นพื้นฐานที่ทุกคนต้องยอมรับว่ามันต้องเป็นแบบนี้
ส่วนเรื่องความงาม อาจจะผิวคล้ำ อาจจะผิวขาวยังไงก็แล้วแต่ แต่ดูแล้วมันอยู่ในเรตของความงาม และความฉลาดก็คือสมอง ยังไงก็หนีไม่พ้น อย่าหนี ยิ่งหนียิ่งถอยหลัง คุณต้องพร้อมจริงๆ รูปร่างดี หน้าตาสวย สมองดีเท่านั้น คุณถึงจะเป็นที่1 ในโลกไม่ว่าเวทีไหน ก็ไม่อยากให้เราต้องกลับไปพัฒนานับหนึ่งกันใหม่ เพราะเราเดินทางมาไกลมาก ใครที่ดูแลเวทีไหนอยู่ก็อยากให้พัฒนาร่วมกันไปเรื่อยๆ นะครับ ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะกลายเป็นตลกในสายตาของชาวโลก ซึ่งผมก็ได้รับคำถามมาเยอะ แต่ผมก็ตอบได้แค่ว่าผมไม่รู้ เพราะไม่เกี่ยวกับผม
ถ้าเป็นเวทีผม รูปร่างไม่ดี ผมท้อแท้มาก ถ้าซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้วได้คนแบบนี้มา แล้วมาขึ้นเวทีผม ผมก็คงปฏิเสธไม่ได้ แต่ผมอายมาก กับคำว่า MGI แล้วมีความประหลาดเกิดขึ้นบนเวที ผมคงต้องเอาไปไว้หลังเวทีเวลาเต้น คงจะต้องรีบให้ตกรอบเพื่อจะให้คนเห็นน้อยที่สุด นี่คือเวทีการประกวดบิวตี้ควีน ตอบโจทย์ชัดเจนครับ จุดหมายปลายทางมีอยู่อย่างเดียวคือ BODY BEAUTY AND BRAIN ครับ”
ลั่นรูปร่างไม่ดี เป็นนางงามไม่ได้
“ไม่ครับ ผมชัดเจน ถ้ารูปร่างไม่ดีเป็นนางงามไม่ได้ครับ สำหรับผมไม่เรียกว่านางงาม สำหรับผมเรียกว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยและมีประโยชน์อย่างอื่น เช่น พี่หนูแหม่ม (สุริวิภา กุลตังวัฒนา) พี่หนูแหม่มเป็นผู้หญิงที่ทรงคุณค่ามาก สวย ดี เก่ง แต่ต้องเป็นหมวดหมู่อย่างอื่น แต่ถ้าเอาสุริวิภามาแต่งชุดว่ายน้ำเพื่อไปเดินประกวดระดับโลก มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่เราจะต้องได้รับคำถามจากทุกๆ คนที่มาดู ว่าคุณณวัฒน์ทำไมเดี๋ยวนี้ประเทศไทยส่งสาวงามแบบนี้เหรอ ผมก็จะบอกว่าไม่เกี่ยวกับผม แต่ถ้า MGI ยังคงสตรองเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นจะเสียงแตกมันเป็นเรื่องของส่วนบุคคล ซึ่งเราก็ห้ามไม่ได้
แต่ผมทำมาถึงปีนี้ขึ้นปีที่ 18 แล้ว ไม่มีเวทีไหนที่เขาจะเลือกคนที่สุ่มเสี่ยงแบบนั้น เขาต้องเลือกคนที่เสี่ยงน้อยที่สุด เราไม่ใช่คนเดียวไปประกวด เราไปประกวดกับคนเกือบร้อย มันต้องมีคนที่พร้อมมากครบหมด ไม่ว่าจะรูปร่างที่ดี หน้าตาที่สวย สมองก็ดีมาก เราต้องสู้ให้ครบทุกจุด ไม่ใช่บอกว่าฉันจะวิ่งอย่างเดียว ขว้างจักรไม่เอา ฉันกระโดดสูงไม่ได้ แต่ฉันเป็นแนวใหม่ ฉันจะเป็นแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้ อยากให้ทุกคนตื่น และเข้าใจความจริง กองเชียร์มีผลในการทำร้ายนางงามและทำร้ายหน้าตาประเทศนะครับ มันไม่ถูกครับ”
ไม่เสียดาย ส่งไม้ต่อมิสแกรนด์ให้คนอื่น
“ไม่เสียดายครับ ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง สังคมเป็นเรื่องปกติครับ เราจะไม่ยึดติด แต่เราจะพัฒนา คนที่เอาต่อไปเราก็ต้องดูว่าทำได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ต้องปล่อยเขาไป เราก็ต้องไม่สนใจครับ เราต้องทำใจกับสิ่งที่เราให้แล้ว ไม่เคยติดใจว่าถ้าในอนาคตมิสแกรนด์ไทยแลนด์จะต้องตกต่ำลง แต่ขออย่างเดียว ขอให้ตัดสินด้วยความยุติธรรม อย่าล็อกคนมา และหลอกคนมาสมัครเพื่อเป็นตัวประกอบ และสิ่งสำคัญคือพัฒนาวงการนางงามไปสะกดคำว่าบิวตี้ควีนในกูเกิ้ลว่าเขาหมายถึงอะไรกันบ้าง”
ไม่ว่าจะสวยมาจากไหน แต่ถ้าน้ำหนักเกิน 70 กิโลตัดสิทธิ์ล้านเปอร์เซ็นต์
“เยอะคือเยอะ ถ้าเป็นแกรนด์คือตัดสิทธิครับ ในประวัติศาสตร์ 61 ก็เยอะแล้วนะ ถ้า 70 นี่ตัดแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ต่อให้อินเตอร์หรือไทยก็ตัดหมด ต่อให้สวยมาจากไหน บวกลบคูณหารภายใน 10 วิ สมองดีเลิศก็ตัดครับ เพราะมันไม่ได้ มันอาย อันนี้พูดตรงๆ นะครับ สำหรับเวทีเราเราอาย ใครไม่อายเราอาย และผลประกอบการก็เห็นชัดเจนแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นอยากให้กลับมาเหมือนเดิมๆ ที่เคยมีมา อย่างผมทำมิสไทยแลนด์เวิลด์มาก่อน ก็มีครรลองครองธรรมที่ชัดเจน อย่างคุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ เขาก็หาคนแบบนั้น เรากลับมาสู่ครรลองที่ถูกต้อง แต่เติมความเป็นสากล เติมความเก่งของคนเพื่อไปท้าชนกับคนทั้งโลกดีกว่า”
แจงกรณีแบนสื่อออนไลน์ ท้าตีท้าต่อยให้แข่งกับเวทีมิสเอิร์ธ ลั่นทำไมจะกระทืบ MUT ไม่ได้
“จริงๆ พยายามจะหลีกเลี่ยงการแบนนะครับ แต่ก็แบนไปสื่อนึงแล้ว ประเด็นก็คือดูถูกเหยียดยาม เยาะเย้ย ใช้คำพูดคำจาที่มันรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องการลดเกรดเรา แล้วคุณเรียกคนโดยมีคำหยาบนำหน้าเสมอๆ คุณเริ่มที่จะมาท้าตีท้าต่อย เริ่มที่จะให้ผมไปแข่งกับมิสเอิร์ธบ้างอะไรบ้าง คือผมรู้ว่าคุณเป็นแฟนคลับของยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แฟนคลับเวทีนี้ส่วนมากจะมาแนวนี้ ซึ่งผมก็ทนนะ แต่ถ้าทนไม่ไหวผมก็พูดชัดเจน
พูดไปหนึ่งครั้งให้ระวัง ผมก็โพสต์ว่าให้ระวังมาหลายครั้ง แต่มันก็มากขึ้นๆ ก็คือบอกว่าให้ผมไปแข่งกับมิสเอิร์ธให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาแย่งกับมิสยูนิเวิร์ส ผมก็แบนเลยครับ เพราะผมไม่ชอบวิธีการที่คุณใช้ตรรกะแบบนี้มาทำร้ายเรา เรามีสิทธิในพื้นที่ของเรา โค้กกับเป๊ปซี่ยังกระทืบกันได้เลย แล้ว MGI จะกระทืบ MUT ไม่ได้เพราะเหตุผลใด พอเราแบนก็โวยวายอีก บอกว่าโหดไป แล้วสิ่งที่คุณทำมันไม่โหดใช่ไหม มันโหดครับ คุณค่อยๆ คิดให้ดีนะ ก็ขออภัยสำหรับการแบนสำหรับคนที่ดี แต่มันมีที่ดีๆ ที่คุณอยู่ได้ ก็เรียกเชิญไปอยู่ที่ดีๆ ตรงนั้นมันไม่ไหวแล้วจริงๆ ครับ
เขาเรียกตัวเองว่าเป็นสื่อ แต่สื่อจริงๆ จะยืนอยู่ตรงนี้ ส่วนมากก็จะเป็นกลุ่มนางงามที่เป็นแฟนคลับ และคอยซัปพอร์ต แต่จะเรียกตัวเองว่าสื่อผมก็ทนรับฟังว่าใช่ แต่ผมก็บอกไปแล้วว่าสื่อเขาไม่ใช้คำแบบนี้ สื่อเขาไม่เรียกคนโน้นเป็นอี คนนี้เป็นไอ้ อย่างนี้ไม่ใช่สื่อ แต่ไม่เป็นไรครับ กลุ่มพวกนี้เขาชอบมโนคิดว่าเขาเป็นสื่อก็ให้เขามโนไป เขาคิดว่าเขาดังก็ให้มโนไป คนเหล่านี้แก้อะไรไม่ได้ ก็หยุดไปครับ”
ไม่ฟ้องเพราะไม่ว่าง
“ไม่อยากครับ ไม่ว่าง (ยิ้ม) จริงๆ แล้วกลุ่มนี้มีแต่ของปลอม มีแต่ร่างอวตาร ซึ่งจะไปหาตัวปลอมมันไม่มีประโยชน์ ก็ต้องจัดการกับแอดมินที่ดูแลเพจดีที่สุด ก็ต้องขออภัยด้วยถ้าแอดมินบางคนปฎิบัติดี แต่คุมไม่อยู่ ก็เหมือนคุณทำมันไม่ได้ คุณก็ต้องยอมรับ สน.ไม่อยากไปครับ เพราะตอนนี้คดีก็เยอะอยู่ครับ พรุ่งนี้ผมไปขึ้นศาลอาญา 9 โมง ไม่ต้องตามนะครับ พรุ่งนี้ผมเป็นผู้ต้องหาครับ เพจ (ปิดปาก)”
